กองทัพไทย 22 พ.ย.-ทหาร-ศาลจัดกิจกรรมรวมพลังแห่งความภักดีประกาศความจงรักภักดีและร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89
พล.อ.สุรพงษ์ สุวรรณอัตถ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด เป็นประธานจัดพิธีรวมพลังแห่งความภักดี ณ ลานอเนกประสงค์กองบัญชาการกองทัพไทย เพื่อประกาศความจงรักภักดีและร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ ได้แก่ การร่วมกันร้องเพลงชาติ การปฏิญาณตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ และการร่วมกันร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี โดยมีกำลังพลของกองบัญชาการกองทัพไทย สมาคมแม่บ้านกองบัญชาการกองทัพไทยและประชาชนเข้าร่วมพิธีโดยพร้อมเพรียงกัน
นอกจากนี้ยังจัดกิจกรรมทำความดีเพื่อถวายในหลวง โดยการบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ และกิจกรรมอธิษฐาน ทำสมาธิ สำรวมจิตภาวนา แผ่เมตตา ตั้งใจทำความดี ของส่วนราชการกองบัญชาการกองทัพไทยทุกพื้นที่
ด้านกองทัพเรือ พล.ร.อ.ณะ อารีนิจ ผู้บัญชาการทหารเรือ เป็นประธานจัดกิจกรรม “รวมพลังแห่งความภักดี” เพื่อประกาศความจงรักภักดี และร่วมรำลึกถึงพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในโอกาสวันคล้ายวันพระบรมราชสมภพปีที่ 89 ณ ลานทัศนาภิรมย์ หอประชุมกองทัพเรือ เขตบางกอกใหญ่ กรุงเทพมหานคร โดยมีกำลังพลกองทัพเรือ หน่วยงานราชการ สถานศึกษา และประชาชนในพื้นที เข้าร่วมกิจกรรมจำนวน 1,989 คน โดยมีกิจรรมที่สำคัญประกอบด้วย การกล่าวปฏิญาณตน และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงพระราชนิพนธ์ บรรเลงโดยวงซิมโฟนีออเคสตร้าดุริยางค์ราชนาวี ร่วมด้วยนักดนตรี 100 นาย นักร้องประสานเสียง 50 นาย ขับร้องนำโดย เรือตรีสันติ ลุนเผ่
สำหรับกิจกรรมสำคัญในวันนี้ ประกอบด้วย 1. กิจกรรมทำความดีเพื่อถวายในหลวง เช่น ทำความสะอาดสาธารณสถานให้บริการสาธารณะ เยี่ยมคนป่วยไข้ตามโรงพยาบาล อ่านหนังสือให้เด็กพิการฟัง บำเพ็ญกุศลทางศาสนา การจัดนิทรรศการ หรือกิจกรรมอื่น ๆ ตามที่เคยปฏิบัติมาแล้ว (ทำดีด้วยกาย) 2. กิจกรรมปฏิญาณตนเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์เบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์และร่วมร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี และเพลงอื่นตามความเหมาะสม (ทำดีด้วยวาจา) และ3. กิจกรรมอธิษฐาน ด้วยการทำสมาธิ สำรวมจิตภาวนาแผ่เมตตา ตั้งใจดี (ทำดีด้วยใจ) ส่วนในช่วงเย็น กำหนดให้หน่วยขึ้นตรงกองทัพเรือในพื้นที่ต่าง ๆ จัดกิจกรรมสวดมนต์ บำเพ็ญจิตภาวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การใช้พื้นที่หอประชุมกองทัพเรือ เป็นสถานที่จัดกิจกรรมในวันนี้ สืบเนื่องมาจากสถานที่แห่งนี้ ได้เคยมีโอกาสใช้เป็นที่รับเสด็จ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถในพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช พระบมวงศานุวงศ์ พระประมุขและพระราชวงศ์ต่างประเทศ ในงานฉลองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2549 และต่อมาเมื่อวันที่ 24 เมษายน 2558 เวลา 14.08 น. พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ได้เสด็จพระราชดำเนินจากโรงพยาบาลศิริราช มาประทับเปลี่ยนพระอิริยาบถและทอดพระเนตรทัศนียภาพแม่น้ำเจ้าพระยา ณ ห้องชมชลธี หอประชุมกองทัพเรือ เป็นการส่วนพระองค์ นับเป็นครั้งสุดท้ายที่หอประชุมกองทัพเรือ ได้มีโอกาสใช้เป็นสถานที่รับเสด็จพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ กองทัพเรือได้นำเรืออังสนา ซึ่งกองทัพเรือเคยจัดถวายเป็นเรือพระที่นั่งพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช มาร่วมในการจัดกิจกรรมเพื่อสะท้อนถึงพระมหากรุณาธิคุณในเรื่องของพลังงานทดแทน
ด้านศาลฎีกา นายวีระพล ตั้งสุวรรณ ประธานศาลฎีกา เป็นประธานกิจกรรมรวมพลังสร้างความดี นำข้าราชการฝ่ายตุลาการ ศาลรัฐธรรมนูญ ผู้บริหารและข้าราชการฝ่ายอัยการ ผู้บริหารกระทรวงยุติธรรม และเหล่าข้าราชการหน่วยงานต่างๆ ของศาลยุติธรรม ศาลรัฐธรรมนูญ อัยการและกระทรวงยุติธรรม ประมาณ 3,000 คน ถวายความเคารพเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ( รัชกาลที่ 9) และกล่าวถวายสัตย์ปฏิญาณแสดงความจงรักภักดี ที่จัดโดยพร้อมเพรียงกัน
ขณะเดียวกันที่สำนักงานศาลยุติธรรม ถนนรัชดาภิเษก นายอธิคม อินทุภูติ เลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม พร้อมด้วยนายสุภัทร์ สุทธิมนัส อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา นายวรงค์พร จิระภาค อธิบดีผู้พิพากษาศาลแพ่ง นายอำนาจ พวงชมภู อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ได้นำข้าราชการฝ่ายตุลาการ ข้าราชการและลูกจ้างถวายสัตย์ปฏิญาณเบื้องหน้าพระบรมฉายาลักษณ์แสดงความจงรักภักดีและรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ.-สำนักข่าวไทย