กรุงเทพฯ 18 ธ.ค. – นางสาวบรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เปิดเผยว่า กรมฯ ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ให้บริการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจในรูปแบบนิติบุคคลทั้งห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด บริษัทมหาชนจำกัด กำกับดูแลธุรกิจให้ดำเนินกิจการเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนด ตลอดจนส่งเสริมพัฒนาธุรกิจให้มีการบริหารจัดการที่เป็นมาตรฐานและมีธรรมาภิบาลทางธุรกิจ ซึ่งกรมฯ มีความพร้อมในการนำผู้ประกอบธุรกิจร้านทองและผู้ประกอบธุรกิจอื่น ๆ เข้าสู่ระบบนิติบุคคล ตั้งแต่ 10 สิงหาคม 2559 – 31 ธันวาคม 2560 นอกจากนี้ ยังจัดทำคู่มือสำหรับนิติบุคคลตั้งใหม่ เพื่อให้ความรู้และคำแนะนำแก่หุ้นส่วนผู้จัดการ กรรมการ หรือผู้ที่เกี่ยวข้องของนิติบุคคลเกี่ยวกับสิ่งที่ต้องปฏิบัติเมื่อเป็นนิติบุคคลแล้ว เช่น การจัดทำบัญชี งบการเงิน และข้อมูลที่เกี่ยวข้องของธุรกิจให้เป็นไปตามกฎหมายและมาตรฐานการบัญชีที่กำหนดไว้ได้อย่างถูกต้อง อีกทั้งจัดให้มีการฝึกอบรม บ่มเพาะองค์ความรู้ด้านการบริหารจัดการธุรกิจ เสริมสร้างทักษะ วิธีคิด และสร้างโอกาสทางธุรกิจ เพื่อให้เป็นนักธุรกิจมืออาชีพที่สามารถบริหารจัดการองค์กรอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่ธุรกิจและองค์กรต่อไป
“การดำเนินธุรกิจในรูปแบบของนิติบุคคลจะก่อให้เกิดประโยชน์ ทั้งความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจต่อสายตาบุคคลภายนอก คู่ค้า นักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ องค์กรมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบ มีการระดมความคิดและมุมมองที่หลากหลายในการดำเนินกิจการ รวมถึงประโยชน์ด้านการระดมทุนจากผู้เป็นหุ้นส่วนหรือผู้ถือหุ้น การเข้าถึงแหล่งเงินทุน หากธุรกิจร้านทองทั้งหมดมีความประสงค์จะเข้าสู่ระบบนิติบุคคล ทางกรมฯ ยินดีและพร้อมให้บริการอย่างเต็มที่ โดยจัดเจ้าหน้าที่ไว้คอยให้คำแนะนำที่ส่วนพัฒนาการจดทะเบียน กองทะเบียนธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า” นางสาวบรรจงจิตต์ กล่าว
ทั้งนี้ ปัจจุบันมีผู้ประกอบกิจการร้านค้าทองกว่า 7,500 ราย ส่วนใหญ่ดำเนินธุรกิจในรูปแบบของบุคคลธรรมดา มีเพียง 3,520 ราย ที่ประกอบกิจการในรูปแบบของนิติบุคคล.-สำนักข่าวไทย