กทม. 20 ธ.ค.-หนึ่งในแนวทางตามแผนฟื้นฟูกิจการของสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นคือแหล่งเงินทุนจากภาครัฐ 10,000 ล้านบาท แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก ทำให้สหกรณ์ต้องเร่งหาเงินด้วยตัวเองมาเตรียมชำระหนี้ให้กับสมาชิก งวดที่ 3 ในเดือนมิถุนายนปีหน้า
หลังสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่นเกิดวิกฤติปัญหา ทำให้สมาชิกถอนเงินไม่ได้ตั้งแต่ปี 56 กระทั่งต้องเข้าแผนฟื้นฟูกิจการ และกลับมาเริ่มจ่ายเงินให้สมาชิกได้อีกครั้งในปีนี้ งวดล่าสุดจะจ่ายปลายเดือนธันวาคมนี้ สมาชิกรายนี้เมื่อทราบสถานการณ์การเงินของสหกรณ์ทำให้เริ่มกังวลว่าปีหน้าจะยังได้รับเงินอีกหรือไม่
ตามแผนฟื้นฟูสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น วางแนวทางการหารายได้มาชำระหนี้กว่า 18,000 ล้านบาท ให้กับสมาชิกเจ้าหนี้กว่า 18,000 คน ไว้ 3 วิธีคือ การทำธุรกิจปกติ ทั้งธุรกิจเดิม คือปล่อยสินเชื่อ, รับชำระหนี้จากลูกหนี้ และประกอบธุรกิจใหม่ แนวทางที่ 2 มาจากการดำเนินคดีติดตามทรัพย์คืน และการจัดหาแหล่งเงินทุนจากภาครัฐ 10,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นแนวทางที่สหกรณ์ฯ ตั้งความหวังไว้มากที่สุด แต่ยังไม่มีความคืบหน้า ทำให้ขณะนี้สหกรณ์ฯ ต้องพึ่งตัวเองในการเตรียมเงินไว้สำหรับชำระหนี้ให้กับสมาชิกงวดเดือนมิถุนายนปีหน้า วงเงิน 600 ล้านบาท
ลูกหนี้เหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นลูกหนี้จากโครงการบ้านเอื้ออาทร ที่รับโอนมาจากการเคหะแห่งชาติ ในช่วงที่นายศุภชัย ศรีศุภอักษร เป็นประธานกรรมการสหกรณ์ฯ และเป็นจำเลยในคดียักยอกเงิน นอกจากนี้สหกรณ์ยังแบ่งขายหุ้นในบริษัทสหประกัน มูลค่า 200 ล้านบาท เงินชดใช้คืนจากกองทุนคณะลูกศิษย์วัดพระธรรมกาย เดือนละ 20 ล้านบาท
ส่วนความคืบหน้าทางคดี ล่าสุดศาลมีคำสั่งเมื่อเดือนที่แล้ว ให้สหกรณ์ฯ ชนะคดีที่ฟ้องแพ่งนายศุภชัย กับพวกรวม 13 คน โดยต้องชดใช้เงิน 3,800 ล้านบาท ประธานกรรมการดำเนินการสหกรณ์ชุดปัจจุบันระบุว่าในคดีนี้มีการอายัดทรัพย์สินไว้เกือบ 600 รายการ ตั้งแต่ปี 56 ด้วย หากจำเลยไม่สามารถชำระหนี้ได้ สหกรณ์ฯ จะขอให้มีการบังคับนำทรัพย์สินเหล่านี้มาชดใช้แทน
ความหวังเงินกู้ยืมจากรัฐ 10,000 ล้านบาท ภายใต้กรรมการแผนฟื้นฟูที่มีปลัดกระทรวงเกษตรฯ เป็นประธาน คืบหน้าน้อยมาก จึงมีการเตรียมตั้งคณะทำงานร่วมอีกชุดจากหลายหน่วยงาน รวมทั้งกระทรวงการคลัง เพื่อเร่งหาแนวทางจัดหาเงินให้สหกรณ์ฯ.-สำนักข่าวไทย