หนุ่มตาบอดเครียดถูกกล่าวหาแทงเสี่ยดับ



นนทบุรี 20 ธ.ค.-หนุ่มตาบอดเข้าให้ปากคำคดีแทงเสี่ยเจ้าของตลาดดับ แต่เครียดถูกนำส่งโรงพยาบาลด่วน เผยเจ้าของตลาดทะเลาะกับร้านสเต็ก แล้วโทรไปตามตนเองมา มันเป็นช่วงชุลมุนจำไม่ได้


20-12-2559 23-17-08 20-12-2559 23-17-22

เมื่อเวลา 23.30 น.วันที่ 19 ธ.ค.59 ร.ต.อ.ปิโยรส ชูกุล ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้รับแจ้งเหตุทำร้ายร่างกายกัน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย ที่บริเวณตลาดนัดลานดิน ด้านหลังร้านสเต็กลุงหนวด หมู่ 1 ซอยสุขาประชาสรรค์ ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี จึงประสานแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และเจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ้ง รุดตรวจสอบ

ที่เกิดเหตุเป็นลานเบียร์ พบผู้ได้รับบาดเจ็บสาหัสเจ้าหน้าที่กู้ชีพได้ทำการปั๊มหัวใจและนำส่ง รพ.กรมชลประทานปากเกร็ด แต่เสียชีวิตขณะนำส่ง มีบาดแผลที่ต้นขาซ้ายและกลางหลัง ทราบชื่อคือนายวุฒิการณ์ หรือแป๋ง ณ สงขลา อายุ 41 ปี เป็นเจ้าของตลาดดังกล่าว อยู่บ้านเลขที่ 970 ซอยจรัญสริทวงศ์ 57 แขวงบางบำหรุ เขตบางพลัด กทม. ส่วนผู้บาดเจ็บ อีก 3 รายเจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งโรงพยาบาลดังกล่าวไปก่อนหน้า ทราบชื่อคือ น.ส.ปริศนา มานิตย์ อายุ 39 ปี ถูกแทงที่แขนซ้าย, น.ส.มยุรา มะอยู่เที่ยง อายุ 30 ปี ถูกแทงที่ท้องด้านซ้ายและนายอนุสรณ์ ซื่อตรง อายุ 28 ปี ถูกแทงที่หางคิ้วและใต้ตาซ้าย ส่วนผู้ต้องสงสัยพลเมืองดีจับตัวได้ในที่เกิดเหตุเป็นผู้พิการตาบอดทั้ง 2 ข้าง สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ กางเกงยีนส์ขายาวสีดำ มีร่องรอยการต่อสู้ตามร่างกายมีแผลเล็กน้อย ทราบชื่อคือนายณรงค์ โพธิ์เลีย อายุ 37 ปี เป็นหมอนวดแผลโบราณอยู่ที่การเคหะปากเกร็ด


จากการสอบสวนนายณรงค์ โพธิ์เลีย ผู้ก่อเหตุ ทราบว่าเป็นคนพิการ เจ้าของตลาดทะเลาะกับร้านสเต็ก แล้วโทรไปตามตนเองมา แต่ว่าไม่ได้มีอะไร เคลียร์กันไปแล้วหลายรอบ จากนั้นมีการโวยวายด่ากันหลายรอบ ตนเองบอกว่าให้ยุติและเข้าไปห้าม ห้ามอยู่ 3 รอบก็ยังกลับเข้ามาอีก พอดีเป็นจังหวะไม่รู้ว่าใครจะทำอะไรตนเอง จึงต้องป้องกันตัว อาวุธมีดไม่ได้พกมา มันเป็นช่วงชุลมุนจำไม่ได้

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบที่เกิดเหตุและสอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมทั้งสอบพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุว่าสาเหตุเกิดจากลานเบียร์เปิดเพลงเสียงดังรบกวนร้านสเต็กที่อยู่ติดกันและได้มีการนั่งเคลียปัญหาแต่คาดว่าน่าจะคุยกันไม่ลงตัวจึงได้เกิดเหตุชุลมุนจนมีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตดังกล่าว ส่วนใครเป็นผู้ก่อเหตุที่แท้จริงนั้นอยู่ระหว่างสอบสวน ด้านตัวผู้ต้องสงสัยเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่ง สภ.ปากเกร็ด เพื่อสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง

และเมื่อเวลา 15.30 น.วันที่ 20 ธ.ค.59 ที่สภ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.พรรติกา โพธิ์เลีย อายุ 35 ปี น้องสาว นายณรงค์ โพธิ์เลีย อายุ 37 ปี ผู้พิการทางสายตา ผู้ต้องหาแทงเจ้าของตลาดเสียชีวิต พร้อมเพื่อนผู้พิการทางสายตาเดินทางเข้าให้ปากคำกับ ร.ต.อ.ปิโยรส ชูกุล ร้อยเวร สภ.ปากเกร็ด

จากการสอบสวนนายสหพร นิลม่วง อายุ 40 ปี ผู้พิการทางสายตา เป็นเพื่อนเรียนนวดรุ่นเดียวกับผู้ต้องหา เปิดเผยว่าตนเองรู้จักกับผู้ต้องหาตั้งแต่ปี 2540 รู้จักกันตอนเรียนที่ศูนย์พัฒนาสมรรถภาพคนตาบอดปากเกร็ด เรียนเกี่ยวกับเรื่องนวด ปกตินิสัยเท่าที่คบกันมาเป็นคนนิสัยร่าเริงคุยสนุกตลอด ไม่เคยพบว่ามีเรื่องทะเลาะวิวาทกับใคร ไม่เชื่อว่าเหตุการณ์แบบนี้จะเกิดขึ้น คิดว่าเป็นไปไม่ได้ จากการที่รู้จักกันมานานแล้ว ก่อนหน้านี้ปี 2540 ผู้ต้องหาเป็นนักกีฬายูโดทีมชาติไทย ไปแข่งขันชิมแชมป์โลกที่ประเทศสเปน และกีฬาเฟสปิกเกมส์ที่ไทยเป็นเจ้าภาพด้วย ฝากถึงผู้ที่เกี่ยวข้องขอความเป็นธรรมให้เพื่อนด้วย ตนเองไม่เชื่อว่าคนตาบอด 1 คนจะไปมีเรื่องแบบนี้ได้ เชื่อในเพื่อนและความยุติธรรม น่าจะปกป้องและหาคนที่ทำผิดจริงมาดำเนินคดีเพื่อความชัดเจนได้

พ.ต.ท.ยศวิน เอี่ยมพุ่ม รอง ผกก.(สอบสวน) สภ.ปากเกร็ด เปิดเผยว่าจากการสอบสวนพยานเบื้องต้นปรากฏว่าผู้ต้องหาในที่เกิดเหตุเป็นผู้พิการทางสายตา จากการตรวจสอบพบว่าเป็นผู้พิการทางสายตามาแต่กำเนิด และมีการขอใช้สิทธิ์ร้องขอของผู้ต้องหาคือขอให้ญาติเข้าร่วมฟังการสอบสวน ทางตำรวจจึงได้จัดทนายความให้ร่วมฟังการสอบสวนด้วยตามกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และความยุติธรรมของผู้ต้องหาว่าสาเหตุเกิดได้อย่างไร และในวันพรุ่งนี้จะครบ 48 ชม.จึงต้องยืนคำร้องต่อศาลขออำนาจฝากขังไว้ก่อน ส่วนสาเหตุที่แท้จริงเกิดจากการทะเลาะกันระหว่างร้านข้างเคียง ผู้เสียชีวิตมีปากเสียงกับร้านสเต็กในที่เกิดเหตุ จากนั้นมีการเข้าไปเพื่อเจรจา มีปากเสียงและทำร้ายกันจนถึงการใช้อาวุธแทงกัน ผู้ต้องหาตาบอดสนิทขณะนี้ได้ตั้งข้อกล่าวหาว่าร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายและจิตใจ และร่วมกันทำร้ายผู้อื่นเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการสอบสวนขยายผลอย่างไรอยู่ที่ผลการสอบสวนพยานหลักฐานและวัตถุพยานในที่เกิดเหตุ รวมทั้งบาดแผลของผู้เสียชีวิต ผู้ต้องหาให้การภาคเสธอยู่ในขณะนี้

ขณะนี้ตำรวจได้สอบปากคำผู้ได้รับบาดเจ็บทั้งหมดแล้วและสอบพยานบุคคลในที่เกิดเหตุเนื่องจากเป็นร้านอาหาร คดีนี้ประชาชนสนใจมากเนื่องจากผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาเป็นเพื่อนกัน และผู้เสียชีวิตเป็นคนเรียกผู้ต้องหามาในที่เกิดเหตุ ทำไมถึงแทงกันเอง ต้องมีการพิสูจน์ความจริงว่าเขามีเจตนาจะกระทำความผิดหรือไม่ หรือเป็นเรื่องประมาท หรือเป็นเรื่องสุดวิสัย ทั้งนี้อยู่ที่พยานในที่เกิดเหตุซึ่งพนักงานสอบสวนจะต้องรวบรวมต่อไป

ต่อมาในระหว่างนำตัวผู้ต้องหาเข้าสอบปากคำพร้อมญาติและทนายความ ผู้ต้องหาเกิดอาการเครียดและป่วยกระทันหัน หน้าซีดเหงื่อออก เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ส่งตัวเข้ารับการรักษาฉุกเฉินที่ รพ.กรมชลประทานปากเกร็ด ซึ่งต้องรอผลการรักษาอีกครั้งว่าจะสามารถสอบปากคำได้อีกครั้งเมื่อไหร่ ส่วนอาการของผู้ได้รับบาดเจ็บทั้ง 3 คนคือ น.ส.ปริศนา มานิตย์ อายุ 39 ปี ถูกแทงที่แขนซ้าย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรมชลประทานปากเกร็ด, น.ส.มยุรา มะอยู่เที่ยง อายุ 30 ปี ถูกแทงที่ท้องด้านซ้าย รักษาตัวอยู่ที่ รพ.เกษมราษฎร์รัตนาธิเบศร์ และนายอนุสรณ์ ซื่อตรง อายุ 28 ปี ถูกแทงที่หางคิ้วและใต้ตาซ้าย อาการสาหัสอยู่ห้องไอซียู รพ.กรุงไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Cambodia PM Hun Manet in military uniform

กัมพูชาเสนอศาลโลกตัดสินดินแดนพิพาทกับไทย

พนมเปญ 2 มิ.ย.- ผู้นำกัมพูชาเสนอให้นำข้อพิพาททางดินแดนกับไทยให้ศาลโลกตัดสิน และได้สั่งการให้เจบีซีเร่งจัดการหารือกับไทยเรื่องปักปันเขตแดน ด้านกระทรวงต่างประเทศกัมพูชาได้ยื่นหนังสือประท้วงไทยเรื่องเหตุปะทะที่มีทหารกัมพูชาเสียชีวิต เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ขแมร์ไทมส์ของกัมพูชารายงานวันนี้ว่า นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนตได้โพสต์ถ้อยแถลงในสื่อสังคมออนไลน์เมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า เขาได้ตัดสินใจตามที่รับฟังรายงานสรุปจากนายทหารที่ประจำการตามแนวชายแดนไทย หลังจากที่เขากลับจากการปฏิบัติภารกิจในต่างประเทศ โดยได้สั่งการให้คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมกัมพูชา-ไทยหรือเจบีซี (JBC) เร่งจัดการประชุมกับฝ่ายไทยเพื่อเดินหน้าการสำรวจและปักปันเขตแดนระหว่าง 2 ประเทศ ถ้อยแถลงระบุด้วยว่า กัมพูชากำลังเตรียมบรรจุประเด็นใหม่ไว้ในวาระการประชุมเจบีซี คือ การเสนอให้นำข้อพิพาทยาวนานเรื่องปราสาทตาเมือนธม ตาเมือนโต๊ด ตาเมือนควาย และพื้นที่มอมเบ เข้าสู่การตัดสินชี้ขาดของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศหรือศาลโลกที่กรุงเฮกในเนเธอร์แลนด์ นายกรัฐมนตรีกัมพูชาเตือนว่า การยั่วยุเมื่อไม่นานมานี้ของกลุ่มสุดโต่งเล็ก ๆ ได้จุดชนวนความตึงเครียดและโหมกระพือกระแสรักชาติขึ้นใน 2 ประเทศ เขาหวังว่าทั้ง 2 ฝ่ายจะสามารถทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุทางออกสุดท้ายให้แก่พื้นที่พิพาทอ่อนไหวเหล่านี้ กัมพูชายังคงมุ่งมั่นที่จะแก้ปัญหาชายแดนด้วยกลไกทางเทคนิคและหลักการทางกฎหมาย แต่ก็สงวนสิทธิที่จะปกป้องบูรณภาพทางดินแดนด้วยทุกวิถีทาง รวมถึงการใช้อาวุธ หากมีความพยายามใช้กำลังทหารรุกรานดินแดนของกัมพูชา ด้านกระทรวงกิจการต่างประเทศและความร่วมมือสากลของกัมพูชาได้ยื่นหนังสือทางการทูตประท้วงไทย ซึ่งมีการเปิดเผยเนื้อหาเมื่อเย็นวันอาทิตย์ว่า กองทัพไทยเปิดฉากยิงทั้งที่ไม่มีการยั่วยุจากที่ตั้งทางทหารของกัมพูชาในหมู่บ้านเตโชมรกต อำเภอจอมกระสานต์ จังหวัดพระวิหารเมื่อราวเวลา 05.30 น.วันที่ 28 มีนาคม ส่งผลให้ทหารกัมพูชาถูกสังหารอย่างไม่เป็นธรรม 1 นาย และเป็นการละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพทางดินแดนของกัมพูชา กระทรวงต่างประเทศของกัมพูชาขอประณามอย่างรุนแรงต่อการกระทำดังกล่าวว่า ผิดกฎหมาย รัฐบาลกัมพูชาเรียกร้องให้สอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยทันทีและถี่ถ้วน และต้องนำตัวผู้กระทำผิดมารับโทษ.-814.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ กัมพูชา สั่งระดมทหารประชิดชายแดนไทย

1 มิ.ย. – ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา สั่งระดมกำลังทหารประชิดชายแเดนไทย ขณะเดินทางเยือนญี่ปุ่น พร้อมติดตามสถานการณ์บริเวณชายแดนติดกับไทยอย่างใกล้ชิด หนังสือพิมพ์ขะแมร์ ไทมส์ รายงานว่า ฌอง-ฟรองซัว ตัน รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีของกัมพูชา ให้สัมภาษณ์สื่อในประเทศ ระบุว่านับตั้งแต่เกิดเหตุความขัดแย้งตามมแนวชายแดนระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ของกัมพูชา ซึ่งอยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจเยือนญี่ปุ่น ได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด จนกระทั่งเดินทางกลับมายังกัมพูชา เมื่อคืนที่ผ่านมา และได้สั่งการด้วยตัวเองให้ระดมกำลังทหารเพิ่มเติมเข้าประชิดชายแดนด้านที่ติดกับไทย เพื่อปกป้องอธิปไตยและพรมแดนกัมพูชา พร้อมกับยืนยันว่าสถานการณ์บริเวณชายแดนด้านที่ติดกับไทย กลับมาสงบเรียบร้อยตามปกติแล้ว นายกรัฐมนตรีฮุน มาเนต ยังได้ติดต่อและสั่งการตามสายงานลงไปยังรองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีกลาโหม ผู้บัญชาการเหล่าทัพ และเสนาธิการกองทัพบก ให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และแจ้งความคืบหน้าให้ทราบอย่างต่อเนื่อง หลังเกิดการปะทะกันครั้งล่าสุดระหว่างทหารกัมพูชากับทหารไทย พร้อมกับเรียกร้องประชาชนชาวกัมพูชาเชื่อมั่นการปฏิบัติหน้าที่ของกองทัพและรัฐบาลกัมพูชา ในการปกป้องดินแดน และหาหนทางแก้ไขความขัดแย้งบริเวณชายแดนติดกับไทย โดยยึดผลประโยชน์ของชาติเป็นสำคัญ และหลังจากนี้ คณะกรรมการพรมแดนของกัมพูชา มีกำหนดพบหารือในช่วงปลายเดือนมิถุนายนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับรายละเอียดข้อขัดแย้ง และนำเสนอเพื่อเข้าสู่การเจรจาต่อไป.-สำนักข่าวไทย

“โอปอล สุชาตา” คว้ามงกุฎ Miss World 2025

อินเดีย 1 มิ.ย.-“โอปอล สุชาตา” สาวงามตัวแทนจากไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎ Miss World 2025 มาครองได้สำเร็จ เวทีการประกวด Miss World 2025 ครั้งที่ 72 ณ HITEX Convention Center เมืองไฮเดอราบัด รัฐเตลังคานา ประเทศอินเดีย โดย “โอปอล สุชาตา ช่วงศรี” สาวงามตัวแทนจากประเทศไทย สร้างประวัติศาสตร์สามารถคว้ามงกุฎมิสเวิลด์มาครองได้สำเร็จ โดยการประกวดในปีนี้มีนางงามจาก 108 ประเทศทั่วโลก เข้าร่วม ทั้งนี้ในรอบ 8 คนสุดท้าย มีนางงามที่ผ่านเข้ารอบได้แก่ บราซิล มาร์ตินีก เอธิโอเปีย นามิเบีย โปแลนด์ ยูเครน ฟิลิปปินส์ และประเทศไทย ซึ่งจนกระทั่ง รอบ 4 คนสุดสุดท้าย มาร์ตีนิก เอธิโอเปีย และ โปแลนด์ ทั้ง 4 […]

ข่าวแนะนำ

กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง-ตกหนักบางแห่ง

กทม. 3 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือนมรสุมพัดปกคลุมประเทศไทย ส่งผลให้ยังมีฝนฟ้าคะนองและตกหนักบางแห่ง ทะเลอันดามันคลื่นสูง 2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน

2 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ปัดขัดแย้งกองทัพ ปมปิดด่าน ลั่นมีเอกภาพ แจงรัฐบาลเชื่อมั่นท่าที 2 ประเทศลดความรุนแรงได้ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม โพสต์ข้อความชี้แจงทางเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่าเรียน สื่อมวลชน ทุกท่าน ตามที่มีข่าวกระจายกันในแวดวงสื่อสังคมออนไลน์ เรื่องความขัดแย้งระหว่างฝ่ายการเมืองกับฝ่ายทหาร ในการจัดการปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา และส่งผลให้เกิดความเข้าใจผิดต่อปัญหาการจัดการระหว่างสองประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการปิดด่านชายแดน ผมขอยืนยันว่า ผมกับกองทัพได้หารือร่วมกันหลายครั้ง และเห็นตรงกันว่าสถานการณ์ปัจจุบัน รัฐบาลทั้งสองประเทศต่างพยายามหาทางออกในการคลี่คลายวิกฤติ โดยยึดผลประโยชน์ประชาชนและอธิปไตยของชาติเป็นสำคัญ เราจึงกำหนดขอบเขตในการหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้า และพยายามลดเงื่อนไขที่จะระงับยับยั้งมิให้เหตุการณ์ความขัดแย้งขยายตัวมากไปกว่านี้ สำหรับเรื่องการปิดชายแดนขณะนี้ รัฐบาลเห็นว่าท่าทีและการแสดงออกของทั้งสองประเทศ ยังเป็นการแสดงออกที่สามารถลดระดับความรุนแรงได้ เพราะการปิดด่านชายแดนแม้ไม่ใช่เรื่องการสู้รบทางตรง แต่กลับจะเกิดปัญหาทางด้านเศรษฐกิจ ที่จะกระทบกับวิถีชีวิตประชาชน ทำให้สถานการณ์ยากต่อการคลี่คลาย แต่ขณะเดียวกัน กองทัพก็ตั้งอยู่ในความระมัดระวังและไม่ได้ละเลยในการปกป้องตนเองและอธิปไตยเหนือดินแดน ขณะนี้รัฐบาล ร่วมกับกำลังเหล่าทัพและกระทรวงต่างประเทศ กำลังใช้กลไก JBC เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาตามขั้นตอนอยู่ในปัจจุบัน เพื่อให้เกิดเวทีถกเถียงตามข้อเท็จจริงตามกฎหมาย ผมจึงขอเรียนชี้แจงยืนยันว่า รัฐบาลและกองทัพมีความเป็นเอกภาพ และมีพันธะสัญญาที่มั่นคงในการรักษาความสงบสุขให้ประชาชนได้รับประโยชน์ และความปลอดภัยมากที่สุด ขอให้มั่นใจว่าเราจะหลีกเลี่ยงการยกระดับความขัดแย้งที่จะนำไปสู่ความสูญเสียทั้งสองฝ่ายในทุกด้าน ที่ผ่านมา เราร่วมกันใช้ความพยายามอย่างยิ่ง ทั้งการประชุม หารือ […]

แผ่นดินไหวเชียงใหม่ ขนาด 4.5 รอยเลื่อนแม่ทาขยับ

เชียงใหม่ 2 มิ.ย.- ระทึก! แผ่นดินไหว ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ลึก 1 กม. ประชาชนแจ้งรู้สึกสั่นไหว 4 จังหวัด สาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง แผ่นดินไหวที่ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ฉบับที่ 1/2568 กอง​เฝ้า​ระวัง​แผ่นดินไหว​ กรม​อุตุนิยม​วิทยา​รายงาน​ว่า​ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ.2568 เวลา 14.07 น. เกิดแผ่นดินไหว จุดศูนย์กลางอยู่บริเวณ ต.แม่ปั๋ง อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ ขนาด 4.5 ความลึก 1 กิโลเมตร ได้รับแจ้งรู้สึกสั่นไหวบริเวณ จังหวัดเชียงใหม่ พะเยา ลำปาง และแม่ฮ่องสอน โดยสาเหตุเกิดจากกลุ่มรอยเลื่อนแม่ทา ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ สั่งการอำเภอพร้าว และอำเภอใกล้เคียง ลงพื้นที่ตรวจสอบผลกระทบจากแรงสั่นสะเทือน เบื้องต้นยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตและความเสียหาย […]

ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง

2 มิ.ย.- ศาลออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหา ปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลาง ย่านท่าเรือคลองเตย ส่วนคนขับรถชน รปภ. เสียชีวิต โดนฆ่าคนตาย เพิ่มอีก 1 ข้อหา 13.00 น. ความคืบหน้าล่าสุดเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา การดำเนินคดี 6 ทรชนผู้ก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากรและก่อเหตุถอยรถตู้พุ่งชนเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ให้ข้อมูลว่า ศาลอาญากรุงเทพใต้อนุมัติออกหมายจับ 6 ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าวเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับทั้ง 6 คนถูกดำเนินคดีในข้อหา 4 ข้อหา ในแก่ ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ในเคหสถาน โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำความผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือให้พ้นการจับกุม ร่วมกันบุกรุกเคหสถานในเวลากลางคืน โดยใช้กำลังประทุษร้าย และกระทำความผิดตั้งแต่ 2 คนขึ้นไป ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ขณะที่นายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ถูกดำเนินคดีเพิ่มอีกหนึ่งข้อหา คือ ฆ่าผู้อื่นเพื่อปกปิดความผิดของตนหรือหลีกเลี่ยงให้พ้นอาญาในความผิดที่ตนกระทำไว้ ทั้งนี้ หลังศาลอนุมัติออกหมายจับเป็นที่เรียบร้อยแล้ว […]