กรุงเทพฯ 20 พ.ย. – สดช.เผยคลาวด์ภาครัฐ แจงยอดภาครัฐขอใช้ GDCC พุ่งทะลุเป้าถึงปี 2565
ผู้สื่อข่าวรายงานจาก สํานักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สดช.) โชว์ผลงานระบบคลาวด์กลางภาครัฐ GDCC ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท กสท โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) หรือ CAT ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานภาครัฐอย่างล้นหลามเกินคาด จากความตื่นตัวของภาครัฐในการให้บริการประชาชนผ่านระบบดิจิทัล เฟสแรกมีหน่วยงานรัฐเข้าใช้งานระบบเต็มจำนวน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการโอนย้ายระบบงานขึ้นสู่เซิร์ฟเวอร์เสมือน (Virtual Machine) 21,000 VM ของคลาวด์ GDCC และยังคงมีคำขอเข้าใช้ระบบในคิวเป็นจำนวนมาก สดช. จึงมีแผนขยายจำนวนเซิร์ฟเวอร์เสมือนเพื่อรองรับหน่วยงานรัฐที่อยู่ระหว่างรอเข้าใช้งาน GDCC
สดช.ให้ความสำคัญการพัฒนาบุคลากรภาครัฐ ให้มีทักษะด้านคลาวด์คอมพิวติ้ง โดยโครงการ GDCC ได้จัดอบรมพัฒนาเจ้าหน้าที่ไอทีภาครัฐให้เป็นผู้เชี่ยวชาญระบบคลาวด์แล้วกว่า 500 คน เพื่อที่สามารถใช้งานระบบคลาวด์ได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ ล่าสุดได้จัดสัมมนา Innovation Live Forum ครั้งที่ 2 หัวข้อ “EMPOWEWING DATA SHARING Making Impact with DATA” ระดมผู้แทนภาคส่วนต่าง ๆ ย้ำประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการใช้ข้อมูลร่วมกันบนระบบ GDCC โดยมีผู้ให้บริการดิจิทัล ได้แก่ CAT, AWS, Microsoft และ Huawei อัปเดตเทรนด์ความรู้ ความเข้าใจและมุมมองให้หน่วยงานภาครัฐมั่นใจและเห็นความสำคัญในการนำไปต่อยอดการใช้งานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานสร้างศักยภาพประเทศไทยด้วย Big Data จากความสำเร็จของ GDCC ที่ได้รับการตอบรับจากภาครัฐที่น่าพึงพอใจดังกล่าว จะนำไปสู่การใช้ข้อมูลบิ๊กดาต้าร่วมกันอย่างเป็นระบบและปรับเปลี่ยนการบริหารจัดการภาครัฐสู่มิติใหม่ในที่สุด
นายวันประชา เชาวลิตวงศ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายบริหารข้อมูลและดาต้าอนาไลติกส์ ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่าในปัจจุบันธนาคารแห่งประเทศไทยจำเป็นต้องใช้ข้อมูลจากหน่วยงานภาครัฐและสถาบันการเงินเป็นจำนวนมากในการวิเคราะห์และกำหนดนโยบายหรือแนวทางด้านเศรษฐกิจของประเทศ GDCC จะช่วยให้ธนาคารแห่งประเทศไทยสามารถจับภาวะเศรษฐกิจได้รวดเร็วขึ้น ภาครัฐจะสามารถออกนโยบายได้ตรงจุดและเกิดประโยชน์กับประชาชน
นายปิยะบุตร บุญอร่ามเรือง อาจารย์คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวว่า องค์ประกอบสำคัญของการใช้ข้อมูลร่วมกันก็คือผู้ปฏิบัติงาน (People) กระบวนการ (Process) และเทคโนโลยี (Technology) โดยสิ่งที่จะเป็นอุปสรรคสำคัญคือความเชื่อมั่นในกระบวนการ แต่ในปัจจุบันมีกฎหมายที่ออกมารองรับการใช้ข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐแล้ว โดยเฉพาะ พ.ร.บ. การบริหารงานและการให้บริการภาครัฐผ่านระบบดิจิทัล พ.ศ. 2562 พ.ร.บ.การรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ พ.ศ.2562 และ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หากผู้บริหารในระดับนโยบายให้ความสำคัญและผลักดัน จะทำให้ผู้ปฏิบัติงานมีความมั่นใจมากขึ้น
ด้านนายธัชพล โปษยานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซิสโก้ ซีสเต็มส์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่าในภาคเอกชนมีการแชร์ข้อมูลในทุกด้าน เช่น ด้านการเงิน โลจิสติกส์ การขายสินค้า ซึ่งมองเผิน ๆ ข้อมูลอาจไม่มีความเกี่ยวข้องกัน แต่ถ้านำข้อมูลมารวมกันจะเกิดผลลัพธ์ที่มีประโยชน์มหาศาล โดยเฉพาะข้อมูลจากภาครัฐที่มีเป็นจำนวนมาก จะช่วยให้ภาคเอกชนสามารถประสานงานกับภาครัฐได้สะดวกขึ้น โดยข้อมูลที่จัดเก็บจะต้องเป็นข้อมูลที่มีความแม่นจำ มีคุณภาพ และมีคุณค่าโดยมองจากความต้องการของประชาชนเป็นหลัก. สำนักข่าวไทย