มูลนิธิชัยพัฒนานำร่องระบบฟาร์มแม่นยำช่วยพัฒนาการปลูกเห็ดหลินจือ

กรุงเทพฯ 5 พ.ย. มูลนิธิชัยพัฒนา จับบมือ เนคเทค สวทชและดีแทค นำร่องโครงการฟาร์มสาธิตเห็ดหลินจือด้วยโซลูชัน “ฟาร์มแม่นยำ” ชูต้นแบบพืชเศรษฐกิจที่ใช้เทคโนโลยี ช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรไทย


นายชัย วุฒิวิวัฒน์ชัย ผู้อำนวยการศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ  เนคเทค สวทช. ) กล่าวว่าโครงการความร่วมมือวิจัยโรงเรือนเกษตรอัจฉริยะกรณีศึกษาเห็ดหลินจือ เนคเทค สวทช. มีความตั้งใจและมุ่งมั่นในการนำองค์ความรู้จากงานวิจัยมาพัฒนาต่อยอด พร้อมเผยแพร่และขยายผลให้เกษตรกรในพื้นที่ได้นำไปใช้ประโยชน์ โดยเป็นความร่วมมือระหว่างสามฝ่าย ได้แก่ มูลนิธิชัยพัฒนา ดีแทค และเนคเทค สวทช. ในส่วนของเนคเทค สวทช. ได้ศึกษาวิจัยความเป็นไปได้ในการใช้ระบบเซ็นเซอร์เพื่อการเกษตร และระบบควบคุมอัตโนมัติในโรงเรือนที่ชื่อ HandySense มาวิเคราะห์และควบคุมสภาวะที่เหมาะสมในการปลูกเห็ดหลินจือให้ได้ประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว โดยมูลนิธิชัยพัฒนาสนับสนุนองค์ความรู้เกี่ยวกับการเพาะปลูกเห็ดหลินจือ ร่วมทดสอบและเก็บข้อมูลในพื้นที่ และดีแทคสนับสนุนเครือข่ายอินเทอร์เน็ตให้สามารถรับส่งข้อมูลผ่าน IoT Sensor ผ่านแอปพลิเคชัน เพื่อนำมาวิเคราะห์และสรุปผลร่วมกัน ภายใต้โครงการความร่วมมือดังกล่าวได้มีการเริ่มติดตั้งระบบเซ็นเซอร์ และระบบควบคุมอัตโนมัติในโรงเรือนตั้งแต่ช่วงปลายปี 2562 มีความก้าวหน้าในการดำเนินโครงการฯเป็นอย่างดี อาทิ ระบบการควบคุมอุณหภูมิภายในโรงเรือนโดยระบบอัตโนมัติ ได้เลือกใช้ IR Heater เพื่อควบคุมอุณหภูมิและการกระจายของอุณหภูมิ และการออกแบบตำแหน่งในการติดตั้งระบบควบคุมอัตโนมัติภายในโรงเรือน อุณหภูมิกระจายตัวของความร้อนเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ โดยได้ผลเป็นที่น่าพอใจ และทีมวิจัยฯ จะนำผลการทดลองที่ได้ไปปรับใช้กับการทดลองในฤดูหนาวนี้ และเปรียบเทียบผลการเจริญเติบโตต่อไป ซึ่งการดำเนินการศึกษาวิจัยในพื้นที่ มีการเก็บข้อมูลโดยระบบ IoT Sensor แสดงผลข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน พร้อมทั้งได้อบรมการใช้งานให้กับเจ้าหน้าที่ของมูลนิธิชัยพัฒนา ณ ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ และมีการประชุมติดตามความก้าวหน้าโครงการฯ ร่วมกันทั้งสามฝ่ายในทุกรอบเดือน ทั้งนี้ ผลจากการดำเนินโครงการฯ จะนำไปสู่การถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีในการปลูกเห็ดหลินจือให้กับเกษตรกร และผู้เกี่ยวข้องเพื่อเพิ่มรายได้และสร้างความยั่งยืนให้กับประเทศต่อไป

สำหรับระบบฟาร์มแม่นยำ และการติดตั้งอุปกรณ์ IoT และเซ็นเซอร์ในพื้นที่แปลงเกษตร หรือโรงเรือน เพื่อทำหน้าที่วัดความชื้นในน้ำ ในอากาศ ในดิน วัดค่าอุณหภูมิ ชุดอุปกรณ์ดังกล่าวจะทำหน้าที่ร่วมกับแอพพลิเคชั่นบนอุปกรณ์มือถือ โดยส่งสัญญาณผ่านการเชื่อมต่อไร้สาย แจ้งผลเกษตรกรให้สามารถดูแลผลผลิตจากที่ใดก็ได้ในโลก เกษตรกรสามารถใช้ข้อมูลดังกล่าวตัดสินใจปรับเปลี่ยนสภาพแวดล้อมที่แจ้งเตือนผ่านแอปได้อย่างเหมาะสม ทันท่วงที หากเกษตกรใช้งานโซลูชั่นดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง จะสามารถช่วยลดต้นทุนภาคการผลิตไปในตัว และมีข้อมูลสถิติที่จัดเก็บและเรียกใช้ได้อย่างเป็นระบบเพื่อประโยชน์ในการสังเกตการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศและพื้นที่การเกษตรได้ ทั้งหมดนี้ ก็เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและผลิตผลทางการเกษตร ยกระดับคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของเกษตรกรให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน


ด้านนายบุญชัย เบญจรงคกุล ประธานกรรมการ บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทคกล่าวว่า ความร่วมมือดังกล่าวสืบเนื่องจากดีแทคมีความตั้งใจจริง และความมุ่งมั่นทุ่มเท ที่จะนำความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีดิจิทัล นวัตกรรม องค์ความรู้ ทรัพยากรต่างๆ เพื่อช่วยยกระดับสังคมไทยในมิติต่างๆ โดยเฉพาะการลดความเหลื่อมล้ำ และการยกระดับมาตรฐานการดำเนินธุรกิจของประเทศไทย ในภาคการเกษตรเป็นอีกมิติหนึ่งที่ดีแทคให้ความสำคัญมาโดยตลอด ผ่านโครงการเพื่อสังคม dtac Smart Farmer ซึ่งทำงานร่วมกับมูลนิธิสำนึกรักบ้านเกิดเริ่มตั้งแต่การส่งข้อมูลที่จำเป็นให้แก่เกษตรกร เช่น พยากรณ์อากาศ ราคาพืชผล ผ่านทาง SMS จนพัฒนามาถึงการทำแอปพลิเคชั่น Farmer Info ต่อยอดพัฒนามาเรื่อย ๆ มาถึง “ดีแทค ฟาร์มแม่นยำ” ให้เป็นฟาร์มต้นแบบโดยใช้เทคโนโลยี IoT เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพการเพาะปลูก ซึ่งได้มีการทดลองใช้กับ30 ฟาร์ม ใน 23 จังหวัด

เห็ดหลินจือ พืชเศรษฐกิจมูลค่าสูง กับ โซลูชั่นฟาร์มแม่นยำมูลนิธิฯ ดีแทค และเนคเทค ได้ร่วมกันจัดทำโครงการวิจัยโรงเรือนเกษตรอัจฉริยะ กรณีศึกษา เห็ดหลินจือ ซึ่งเป็นแปลงฟาร์มวิจัยและสาธิต โดยเริ่มลงพื้นที่ศึกษาและวิจัยสำรวจสถานที่มาตั้งแต่ 1 พ.ค. 2562 จากนั้นได้นำเอาเทคโนโลยีไอโอที เซ็นเซอร์ และเครื่องมือตรวจวัดค่าที่จำเป็นเข้ามาประยุกต์ และศึกษาวิจัยโดยแบ่งเป็น 3 โรงเรือน คือ โรงเรือนควบคุม โรงเรือนที่ไม่ควบคุม และโรงเรือนแบบธรรมดา ว่าได้ผลลัพธ์ออกมาแตกต่างกันอย่างไร เนื่องจากมูลนิธิชัยพัฒนาเห็นว่า เห็ดหลินจือเป็นพืชเศรษฐกิจสำหรับส่งออกที่มีมูลค่าสูง ราคารับซื้อต่อกิโลกรัมอยู่ที่หลายหมื่นบาท ผลผลิตต่อโรงเรือนมากกว่า 100,000 บาท ดังนั้น ควรดึงเทคโนโลยีให้มาช่วยในการสร้างผลผลิต และที่ผ่านมาเห็ดหลินจือก็มีข้อจำกัดในการเพาะปลูก เนื่องจาก เห็ดหลินจือสามารถปลูกได้เพียงแค่ 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน แต่ในฤดูหนาวไม่สามารถทำได้ เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยที่โรงเรือนจะต่ำลงเหลือเพียง 7-10 องศา ทำให้ดอกเห็ดไม่แตกออก และสปอร์เห็ดไม่ทำงาน ในขณะที่อุณหภูมิเหมาะสมในการเพาะปลูกอยู่ที่เฉลี่ย 15-28 องศา และเนื่องจากตัวโรงเรือนที่ไม่สามารถเข้า-ออกได้ตลอดเวลาอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงในการปนเปื้อน จึงได้ติดกล้อง CCTV เพื่อดูความเปลี่ยนแปลงของผลผลิตและดูว่ามีศัตรูพืชเข้ามากัดกินผลผลิตหรือไม่ และแม้การทำงานในพื้นที่นั้นทั้งเกษตรกรเองหรือผู้เชี่ยวชาญมีความรู้ความเข้าใจอย่างมากในผลผลิต มูลนิธิชัยพัฒนา จะเป็นผู้สนับสนุนดูแลและควบคุมกระบวนการผลิตเห็ดหลินจือในโรงเรือน ตลอดระยะเวลาการผลิต 2 ปี เริ่มตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 จนถึงวันที่ 31ตุลาคม พ.ศ. 2564 โดยจะเก็บข้อมูลปริมาณผลผลิตเห็ดหลินจือ และข้อมูลความเข้มข้นของสารสำคัญของเห็ดหลินจือในการปลูกแต่ละพื้นที่การปลูก ศึกษาต้นทุนและรายได้ ในการผลิตเห็ดหลินจือ โดยการใช้ระบบการควบคุมโรงเรือนอัตโนมัติ เปรียบเทียบกับกระบวนการปลูกแบบเดิม ประกอบด้วยการศึกษาปริมาณผลผลิตทุกช่วงการปลูกตลอดทั้งปี รายได้จากการปลูก ปริมาณสารสำคัญ ต้นทุนการผลิต ต้นทุนอุปกรณ์ ต้นทุนค่าแรง ต้นทุนสาธารณูปโภค และต้นทุนค่าบำรุงรักษา ร่วมกับนักวิจัยเนคเทค-สำนักข่าวไทย.


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

Chaos and crowds at Poipet International Border Gate

สื่อกัมพูชาลงภาพคนแออัดที่ด่านปอยเปต

พนมเปญ 8 มิ.ย. – สื่อกัมพูชาเผยแพร่ภาพชาวกัมพูชาและชาวต่างชาติแออัดที่จุดผ่านแดนถาวรปอยเปต ในเช้าวันนี้ เพื่อรอข้ามแดน หลังจากไทยประกาศมาตรการจำกัดการข้ามแดนระหว่าง 2 ประเทศ เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์เผยแพร่ภาพชุดจากเฟรชนิวส์ ซึ่งเป็นสื่อออนไลน์ของกัมพูชา เป็นภาพสถานการณ์ที่จุดผ่านแดนถาวรด้านปอยเปต จังหวัดบันเตียเมียนเจยของกัมพูชาที่ติดกับบ้านคลองลึก จังหวัดสระแก้วของไทย เจ้าหน้าที่กัมพูชารายงานว่า สถานการณ์ช่วงเช้าวันนี้มีคนหนาแน่นมาก หลังจากทางการปรับเวลาเปิดปิดประตูจุดผ่านแดน อย่างไรก็ดี เจ้าหน้าที่ชายแดนของทั้ง 2 ฝ่ายยังคงพูดคุยกันและอำนวยความสะดวกให้แก่การผ่านแดนระหว่างกัน แขมร์ไทมส์รายงานว่า ไทยตัดสินใจปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดประตูแต่เพียงฝ่ายเดียว โดยได้ปรับเปลี่ยนเวลาเปิดปิดจุดผ่านแดนถาวรที่เป็นด่านสากลทั้งหมดเป็น 08.00-16.00 น. และปิดประตูที่เป็นด่านทวิภาคี.-814.-สำนักข่าวไทย

Colombian Senator Miguel Uribe

ลอบยิงผู้สมัคร ปธน.โคลอมเบีย เป็นตายเท่ากัน

โบโกตา 8 มิ.ย. – หนึ่งในผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียถูกลอบยิงอย่างอุกอาจ ระหว่างปราศรัยหาเสียงต่อหน้าฝูงชนจำนวนมากในกรุงโบโกตา ภรรยาระบุว่า ขณะนี้อาการเป็นตายเท่ากัน คลิปเหตุการณ์ที่มีผู้บันทึกไว้ได้ เผยให้เห็นวินาทีที่นายมิเกล อูริเบ สมาชิกวุฒิสภา วัย 39 ปี หนึ่งในผู้สมัครรับเลือกตั้งชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโคลอมเบียปี 2569 ถูกมือปืนยิงหมายลอบสังหารขณะกำลังยืนปราศรัยหาเสียงต่อหน้าประชาชนจำนวนมากภายในสวนสาธารณะแห่งหนึ่งในกรุงโบโกตาเมื่อช่วงบ่ายวานนี้ตามเวลาท้องถิ่น ผู้คนในที่เกิดเหตุพากันกรีดร้องตกใจ จากนั้นมีเสียงปืนตามมาอีกหลายนัด คาดว่าเป็นการยิงปะทะกันระหว่างเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของอูริเบกับมือปืน มีรายงานผู้ถูกยิงบาดเจ็บเพิ่มอีก 1 คน ขณะที่นายอูริเบซึ่งถูกยิงเลือดอาบ ถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลใกล้เคียงอย่างเร่งด่วน พรรคศูนย์กลางประชาธิปไตยซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่นายอูริเบสังกัดอยู่ออกแถลงการณ์ประณามและเปิดเผยเพียงสั้น ๆ ว่า คนร้ายยิงจากด้านหลัง ขณะที่สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานอ้างเจ้าหน้าที่แพทย์ว่า เขาถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 2 นัด และเข้าที่เข่า 1 นัด ภรรยาของเขาโพสต์ในเอ็กซ์ (X) ว่า สามีอาการเป็นตายเท่ากัน รัฐบาลโคลอมเบียแจ้งในเวลาต่อมาว่า ตำรวจจับกุมผู้ต้องสงสัย 1 คน ซึ่งยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ในที่เกิดเหตุ และกำลังสอบสวนว่ามีผู้เกี่ยวข้องอีกหรือไม่ โดยได้ตั้งเงินรางวัล 730,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ราว 24 ล้านบาท) แก่ผู้แจ้งเบาะแส สื่อท้องถิ่นรายงานว่า […]

สนามบินพร้อมสกัดกลุ่มเทาต่างชาติบินเข้าไทย หลังคุมเข้มเข้า-ออกด่านบก

7 มิ.ย. – ตามที่รัฐบาลมีนโยบายควบคุมการเข้า-ออกด่านชายแดนทางบก และมีคำสั่งจากกองทัพบกให้อำนาจกองทัพภาคที่ 1 และ 2 พิจารณาคัดกรองการเข้าออกด่านชายแดนทางบก โดยเฉพาะ จ.จันทบุรี และสระแก้ว โดยมีผลตั้งแต่ 7 มิ.ย.2568 ในส่วนของการเข้าทางอากาศ โดยเฉพาะทางสนามบินสุวรรณภูมิ และดอนเมือง ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มต่างชาติที่ใช้เส้นทางเข้าออกไทย-กัมพูชา หันมาเดินทางเข้าแทนช่องทางบกนั้น วันนี้ (7 มิ.ย.2568 ) พล.ต.ต.เชิงรณ ริมผดี ผบก.ตม.2 เปิดเผยว่า ตม.สนามบิน พร้อมขานรับนโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร ที่มีจุดยืนด้านความมั่นคงชัดเจน โดยเฉพาะ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม. ได้เคยกำชับการสกัดกั้นคนต่างชาติที่มีพฤติกรรมเข้าออกประเทศด้วยฟรีวีซ่าที่ผิดวัตถุประสงค์ และกลุ่มที่เสี่ยงต่อการกระทำผิด โดยเฉพาะแก็งค์คอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ ซึ่งอาจใช้ไทยเป็นแหล่งทำธุรกิจฟอกเงิน จากการทำธุรกิจผิดกฎหมายในประเทศเพื่อนบ้าน และการปิดด่านชายแดน อาจมีกลุ่มต่างชาติที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิด ใช้เส้นทางเข้าไทยทางเครื่องบินแทนการผ่านแดนทางบก ทาง บก.ตม.2 จึงมีการสั่งการกำชับให้ด่าน ตม.สนามบินในสังกัด โดยเฉพาะสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เพิ่มความเข้มในการเฝ้าสังเกตสกัดกั้นคนต่างชาติลักษณะเสี่ยงดังกล่าว โดยเน้นต่างชาติกลุ่มเฝ้าระวังสัญชาติเพื่อนบ้านที่มีลักษณะการใช้ฟรีวีซ่าเข้าออกผิดประเภท […]

ข่าวแนะนำ

ลอบวางระเบิด 2 จุด กลางตลาดโต้รุ่งเมืองปัตตานี

ปัตตานี 8 มิ.ย. – คนร้ายลอบวางระเบิดกลางตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี รถจักรยานยนต์เสียหาย 2 คัน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต วันที่ 8 มิ.ย.68 เวลา 20.00 น. เกิดเหตุคนร้ายไม่ทราบกลุ่มจำนวน ลอบวางระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 2 ลูก โดยจุดแรก วางระเบิดในถังขยะ หน้าร้านทอง บริเวณตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต รถจักรยานยนต์ได้รับความเสียหาย จำนวน 2 คัน และจุดที่ 2 วางระเบิดในถังขยะ บริเวณในซอยข้างโรงแรม หลังตลาดโต้รุ่ง เขตเทศบาลเมืองปัตตานี เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต การก่อเหตุครั้งนี้ คาดว่าเป็นการก่อเหตุเพื่อสร้างสถานการณ์ให้เกิดขึ้นในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลข่าวสารที่หน่วย ส.จว.ปัตตานี ได้ออกข่าวแจ้งเตือนไปแล้ว เมื่อวันที่ 26 พ.ค.68 เวลา 15.00 น. ปรากฏข่าวสารว่า นายมะกอเซ็ง หม้าแอ สมาชิก ผกร.ระดับปฏิบัติการ และสมาชิกจำนวน […]

นายกฯ เผยหารือกัมพูชา ตกลงปรับกำลังทหารทั้ง 2 ฝ่าย ลดเผชิญหน้า

ทำเนียบรัฐบาล 8 มิ.ย. – นายกฯ เผยหารือกับรัฐบาลกัมพูชา ทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดการเผชิญหน้า เดินหน้าใช้กลไก JBC 14 มิ.ย.นี้ นำพาความสัมพันธ์เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า ความพยายามคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งตามแนวชายแดน โดยการปฏิบัติงานของทั้งระดับนโยบาย โดยรัฐบาล ฝ่ายความมั่นคง กองทัพ กระทรวงการต่างประเทศ และทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีพัฒนาการในทางที่ดีขึ้นเป็นลำดับค่ะ ดิฉันได้หารือกับรัฐบาลกัมพูชา มีข้อสรุปที่ส่งผลดีต่อสถานการณ์ โดยทั้ง 2 ฝ่ายตกลงจะร่วมกันปรับกำลังทหาร ณ จุดที่มีการกระทบกระทั่ง เพื่อลดบรรยากาศการเผชิญหน้า และจะพัฒนาความร่วมมือโดยใช้กลไก JBC ในวันที่ 14 มิถุนายนนี้ และจะมีการพูดคุยกันในทุกระดับ เพื่อนำพาความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศเข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็วค่ะ ขอให้พี่น้องประชาชนติดตามสถานการณ์และข้อเท็จจริงจากรัฐบาล พร้อมทั้งเป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานจนประสบผลสำเร็จต่อไป สุดท้ายนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้โปรดคลายความกังวล และมีความมั่นใจในการแก้ไขปัญหาของรัฐบาลว่า จะไม่มีเหตุกระทบกระทั่งที่รุนแรงเกิดขึ้นแน่นอนค่ะ.-316-สำนักข่าวไทย

โฆษก ทบ. ยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลัง-กลบคูเลต ลดตึงเครียด

8 มิ.ย. – โฆษก ทบ. ยืนยันทหารกัมพูชายอมถอนกำลังกลับไปอยู่จุดเดิม พร้อมกลบคูเลตให้คืนสู่สภาพเดิม หลังบรรลุข้อตกลงการหารือ เพื่อคลี่คลายสถานการณ์ในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก ลดความตึงเครียด วันนี้ (8 มิ.ย.68)​ พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยว่า ฝ่ายกัมพูชา นำโดย พล.ท.สรัย ดึก รองผู้บัญชาการทหารบก และผู้บัญชาการกองพลสนับสนุนที่ 3 ได้เชิญฝ่ายทหารไทย โดย พล.ต.สมภพ ภาระเวช ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี เข้าร่วมหารือ เพื่อเจรจาเกี่ยวกับกรณีปัญหาการรุกล้ำดินแดนในพื้นที่พิพาทบริเวณช่องบก จากการหารือเบื้องต้น ทั้งสองฝ่ายได้บรรลุข้อตกลงในประเด็นสำคัญ คือ ฝ่ายทหารกัมพูชายินยอมถอนกำลังกลับไปยังจุดที่เคยประจำการอยู่เดิม ซึ่งอยู่ห่างจากบริเวณที่เกิดเหตุปะทะ หรือแนวต้นพญาสัตบรรณ ลึกเข้าไปในเขตแดนของประเทศกัมพูชา จุดดังกล่าวเป็นพื้นที่ที่ฝ่ายกัมพูชาเคยใช้เป็นแนววางกำลังฐานมาโดยตลอดในอดีต นอกจากนี้ ฝ่ายกัมพูชายังแสดงความยินยอมที่จะดำเนินการกลบคูเลตให้กลับคืนสู่สภาพธรรมชาติตามเดิม ตามข้อเสนอของฝ่ายไทย เพื่อเป็นการลดความตึงเครียด และสร้างบรรยากาศแห่งความร่วมมือ ภายหลังจากนี้ ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องร่วมกันที่จะใช้กลไกระดับคณะกรรมการชายแดนส่วนท้องถิ่น เป็นช่องทางในการหารือแนวทางบริหารจัดการพื้นที่อย่างเหมาะสมและยั่งยืนต่อไป.-313-สำนักข่าวไทย

ถึงไทยแล้ว “วิว กุลวุฒิ” เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด

สนามบินดอนเมือง 8 มิ.ย.- “วิว กุลวุฒิ” นักแบดมินตันชายเดี่ยว มือ 1 ของโลก ถึงไทยแล้ว เผยพยายามรักษาแชมป์ให้นานที่สุด เตรียมลุยเป้าหมาย “ออล อิงแลนด์” “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ นักกีฬาแบดมินตันประเภทชายเดี่ยวของไทย พร้อม “โค้ชเป้” ภัททพล เงินศรีสุข เดินทางกลับถึงประเทศไทย หลังเข้าร่วมการแข่งขันแบดมินตันรายการใหญ่ อินโดนีเซีย โอเพ่น 2025 รายการระดับเวิลด์ทัวร์ ซูเปอร์ 1000 ชิงเงินรางวัลรวม 1,450,000 ดอลลาร์สหรัฐ ที่อิสโตร่า เสนายัน ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย ระหว่างวันที่ 3-8 มิถุนายน 2568 โดยรอบรองชนะเลิศ “วิว” กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มือ 1 ของโลกและมือ 2 ของรายการ พบกับ โจว เทียนเฉิน มือ 7 ของโลกจากไต้หวัน […]