กรุงเทพฯ 24 ก.ค. ดีแทคไม่รีบไป 5G ชู TDD Massive MIMO ให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงไร้สายทั่วประเทศ รองรับความเปลี่ยนแปลงหลังโควิด19
นายชารัด เมโรห์ทรา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทดีแทค กล่าวว่า ขณะนี้เป็นเวลาที่ลูกค้าต้องการความใส่ใจและบริการที่ช่วยลูกค้าได้มากเป็นพิเศษเมื่อเจอกับภาวะเศรษฐกิจ และการระบาดของโรคโควิด19 ทุกอย่างมีผลต่อการใช้งานของลูกค้า ดีแทคตระหนักว่าในช่วงเวลานี้ ลูกค้าต้องการการสนับสนุนและการดูแลเอาใจใส่ เศรษฐกิจชะลอตัว เมื่อดูจากการคาดการภาวะเศรษฐกิจของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.)คาดการว่าเศรษฐกิจจะชะลอตัวลงร้อยละ 8 มีจำนวนนักท่องเที่ยงต่างชาติลดลงร้อยละ 80 และมีแรงงานที่เสี่ยงต่อการตกงานหรือสูญเสียรายได้ 8.3 ล้านราย ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมีตัวเลขต่ำสุดตั้งแต่เดือนตุลาคม 2541 จากภาวะดังกล่าวทำให้พฤติกรรมการใช้งานโทรศัพท์มือถือของลูกค้าเปลี่ยนแปลงไป ทำให้ความถี่ในการเปลี่ยนโทรศัพท์มือถือเครื่องใหม่ยาวนานว่า 36 เดือน มีจำนวนใช้งานโทรศัพท์มือถือระบบเติมเงินเพิ่มขึ้น 2 เท่า ดีแทคมองว่าเทคโนโลยี 5G เป็นสิ่งที่สำคัญ และต้องมีการลงทุน ณ วันที่เศรษฐกิจไม่ดี ผู้ใช้งานมองถึงการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ตามปกติและบริการนั้นช่วยสร้างรายได้ให้กับตัวเขาได้
การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้งานดาต้าและพื้นที่ที่มีผู้ใช้งานหนาแน่น เปลี่ยนแปลงไปโดยมีการใช้งานดาต้าในที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นกว่าพื้่นที่ธุรกิจ ยังพบว่ามีการออกไปใช้งานในต่างจังหวัดเพิ่มมากขึ้นตามการเคลื่อนย้ายของแรงงาน อัตราการใช้งานดาต้าในกรุงเทพฯเพิ่มขึ้น 5 เท่า ปริมาณการใช้งานดาต้าต่อเดือนต่อผู้ใช้งานจากเดินม.ค.- มิย.เพิ่มขึ้นร้อยละ 44 ดีแทคได้เอาความเปลี่ยนแปลงนี้มาปรับตัวในการดูแลผู้ใช้งานโดยพยายามส่งมอบการใช้งานให้ผู้ใช้งานแบบไร้รอยต่อ
นายชารัด กล่าวอีกว่า เพื่อรองรับการใช้งานดาต้าที่เพิ่มขี้นดีแทคได้เพิ่มประสิทธิภาพของเครือข่าย โดยขยาย massive MIMO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการส่งสัญญาณขึ้น 3 เท่า มีเสาสัญญาณระบบ TDD โดยมีเป้าหมายจะเพิ่มจำนวนเสาสัญญาณจำนวน 20,000 สถานีฐาน ภายในสิ้นปีนี้ เพื่อรองรับการให้บริการ 4G และ 5G ทั่วประเทศ รองรับการใช้งานที่ไม่ได้มีความต้องการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงเฉพาะพื้นที่ในเมือง ดีแทคมองว่ามีบริการที่สามารถตอบโจทย์ผู้ใช้บริการด้วย TDD massive MIMO ที่มีอยู่ ดีแทคไม่ได้ไม่มอง 5G ไม่สำคัญ
นายชารัด กล่าวอีกว่า ในช่วงเวลานี้เราเชื่อว่าทุกคนต้องการบริการที่ดูแลผู้ใช้งานทุกคน เราจึงมุ่งเน้นและการลงทุนกับการให้บริการที่ตอบโทย์ของลูกค้าในสิ่งที่ต้องการมากที่สุดในช่วงเวลานั้นๆ และให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงกับทุกคนที่อยู่ในทกสถานที่ การลงทุนขยายเครือข่ายในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 8000-1000 ล้านบาท มุ่งขยายเครือข่ายทั่วประเทศ โดยขยาย TDD massive MIMO จำนวน 20,000 สถานี ดีแทคมองว่าการลงทุนนี้อยู่ในระดับที่เพียงพอสำหรับการรองรับการขยายเครือข่ายเพื่อรองรับเทคโนโลยี TDD massive MIMO ส่วนการให้บริการ 5G บนเครือข่าย 2100 เมกกะเฮิรตซ์ ขณะนี้อยู่ระหว่างการขออนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)เพื่อทดสอบการให้บริการแต่ยังไม่มีแผนในการให้บริการในเชิงพาณิชย์ในเวลานี้ ดีแทคต้องการสร้างประสบการณ์ในการใช้ดาต้าบนเครือข่าย 2300 เมกกะเฮิรตซ์ 5G เป็นเครือข่ายรองรับการเชื่อมต่อไร้สายที่มากกว่าการใช้งานระดับที่ผู้ใช้ทั่วไปต้องการ ดีแทคมองว่าผู้ใช้งานต้องการใช้อินเทอร์เน็ตความเร็วสูงซึ่งดีแทคมีเครือข่ายพร้อมจะให้บริการแล้ว ส่วนการพัฒนา 5G ดีแทคจะทำในเวลาที่เหมาะสม -สำนักข่าวไทย.
ดูข่าวเพิ่มเติม