สธ.เข้มมาตรการป้องกันเหตุวิวาทในโรงพยาบาล

สธ.21 ก.ค.-สธ.ย้ำทุกโรงพยาบาลเข้มมาตรการป้องกันเหตุวิวาท จัดเวรยามเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัย ติดตั้งกล้องวงจรปิดทุกพื้นที่เสี่ยง  แจ้งความดำเนินคดีอาญาจนถึงที่สุดกับผู้ก่อเหตุทุกราย และถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยไม่มีการรอลงอาญา


นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข (ปลัดสธ.)ให้สัมภาษณ์ว่า เมื่อเกิดกรณีทะเลาะวิวาทหรือทำร้ายร่างกายบุคลากรทางการแพทย์ขณะปฏิบัติหน้าที่ภายในโรงพยาบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มีความห่วงใยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและเน้นความปลอดภัยเป็นสำคัญ หากมีผู้เข้ามาก่อเหตุทะเลาะวิวาทภายในโรงพยาบาล เกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สิน หรือมีการทำร้ายร่างกาย ล่วงละเมิดบุคลากรขณะปฏิบัติหน้าที่ มีนโยบายให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดให้ถึงที่สุด หากผู้บริหารในพื้นที่ละเลย หรืออะลุ่มอล่วย จะดำเนินคดีมาตรา 157 ฐานละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ กระทรวงสาธารณสุขได้สั่งการให้สถานพยาบาลทุกแห่ง ดูแลความปลอดภัยของผู้ป่วยและบุคลากรผู้ปฏิบัติหน้าที่ (2P Safety) ทบทวนและเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัย เพื่อป้องกันเหตุทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาลให้เข้มงวดมากยิ่งขึ้น และขอให้ทุกคนช่วยกันการยุติการก่อเหตุความรุนแรงในโรงพยาบาลทุกรูปแบบ

นพ.สุขุม กล่าวต่อว่า ในปี 2562 เกิดเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกายในโรงพยาบาลจำนวน 6 ครั้ง ได้แจ้งความดำเนินคดีทุกราย ซึ่งคดีถึงที่สุดแล้วทั้งหมด 3 คดี คือกรณีที่โรงพยาบาลสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ศาลตัดสินจำคุก 10 เดือน 20 วัน และปรับคนละ 2,000 บาทจำนวน2 คน อีก 6 คนถูกตัดสินจำคุกคนละ 8 เดือน ปรับคนละ 2,000 บาท ไม่รอการลงโทษ และอยู่ในระหว่างการพิจารณาคดีของศาลอีก 1 คน เนื่องจากให้การปฏิเสธ


กรณีผู้ป่วยทำลายทรัพย์สินของโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสงคราม อ.โนนสูง จ.นครราชสีมา ศาลมีคำพิพากษาผิดตามประมวลกฎหมายอาญาฐานพกพาอาวุธไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุสมควร ปรับ1,000 บาท ฐานบุกรุกสำนักงานในความครอบครองของผู้อื่นโดยมีอาวุธ ขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้าย จำคุก 6 เดือน ฐานสูบบุหรี่ในเขตปลอดบุหรี่ จำคุก 5 เดือน ปรับ 2,500 บาท ริบของกลาง ไม่รอการลงโทษ

ล่าสุดคือ กรณีวัยรุ่นทะเลาะวิวาทที่ห้องฉุกเฉินโรงพยาบาลอ่างทอง ศาลจังหวัดอ่างทองพิพากษาเมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2562 มีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ให้ผู้ก่อเหตุที่บริเวณหน้าห้องฉุกเฉินจำนวน 8 คน รับโทษจำคุกคนละ 6 เดือน แต่ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 3 เดือน และลงโทษจำคุกผู้ก่อเหตุภายในห้องฉุกเฉินทั้ง 3 คน คนละ 3 ปี ฐานบุกรุกในเวลากลางคืน ทำร้ายร่างกายและทำให้เสียทรัพย์ แต่ผู้ก่อเหตุให้การรับสารภาพ จึงลดโทษให้กึ่งหนึ่ง เหลือจำคุกคนละ 1 ปี 6 เดือน ตามคำพิพากษาศาลจังหวัดอ่างทองเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563

ทั้งนี้ ข้อมูลย้อนหลัง 9 ปี (2555 -2563) พบว่ามีเหตุการณ์รุนแรงเกิดขึ้นจำนวน 66 ครั้ง แบ่งเป็น   ปี 2555 จำนวน 1 ครั้ง, ปี 2556 ไม่มีเหตุ, ปี 2557 จำนวน 1 ครั้ง, ปี 2558 จำนวน 7 ครั้ง, ปี 2559 จำนวน 1 ครั้ง,ปี 2560 จำนวน 10 ครั้ง, ปี 2561 จำนวน 17 ครั้ง, ปี 2562 จำนวน 28 ครั้ง และปี 2563 จำนวน 1 ครั้ง ส่งผลให้มีบุคลากรสาธารณสุข เสียชีวิตรวม 3 ราย บาดเจ็บ 15 ราย ประชาชน เสียชีวิต 9 ราย บาดเจ็บ 58 ราย ทุกคดีถูกดำเนินคดีตามกฎหมายทันทีโดยไม่มีการรอลงอาญา.-สำนักข่าวไทย 


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เครื่องบินภูเก็ตมุ่งหน้ามอสโก ขอลงจอดฉุกเฉินที่สุวรรณภูมิ

เที่ยวบิน 777-300ER สายการบิน Aeroflot ขึ้นจากภูเก็ตไปมอสโก เตรียมลงสุวรรณภูมิ หลังบินวนกลางทะเลอันดามันหลายชั่วโมง จากปัญหาระบบลงจอดขัดข้อง

ไข้หวัดใหญ่ระบาด

ไข้หวัดใหญ่ระบาดในสหรัฐ-เสียชีวิตแล้ว 13,000 ราย

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ หรือซีดีซี รายงานว่า พบผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ในฤดูกาลนี้อย่างน้อย 24 ล้านคนแล้วทั่วสหรัฐ

ตัดไฟเมียนมา

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันปลดพนักงานแล้วกว่าร้อยคน

มาตรการตัดไฟเมียนมาได้ผล กลุ่มเว็บพนันออนไลน์และกลุ่มสแกมเมอร์ที่จังหวัดท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา ปลดพนักงานแล้วกว่า 100 คน เนื่องจากขาดแคลนกระแสไฟฟ้า ทำให้พนักงานทยอยเดินทางออกจากท่าขี้เหล็ก กลับมาทางด่าน อ.แม่สาย จ.เชียงราย อย่างต่อเนื่อง

ข่าวแนะนำ

เข้มทางบก แก๊งลักลอบเข้าเมือง หนีไปทางน้ำ

หลังมาตรการ Seal Stop Safe ชายแดนของรัฐบาล ซึ่งเริ่มตั้งแต่ 30 มกราคม เพื่อเข้มงวด ตั้งจุดตรวจ จุดสกัดตามเส้นทางต่างๆ พบขบวนการลักลอบเข้าเมืองด้านชายแดนกาญจนบุรี ซึ่งฝั่งตรงข้ามคือ เมืองพญาตองซู ของเมียนมา เลี่ยงไปใช้เส้นทางน้ำแทน

ทองไทยใกล้เป้าหมายบาทละ 5 หมื่น

ทองไทยเข้าภาวะกระทิง เปลี่ยนแปลงคึกคักวันนี้ (11 ก.พ.) ปรับเปลี่ยน 27 รอบ เข้าใกล้ 48,000 บาทต่อบาททองคำ มองเป้าหมายถัดไปที่ 50,000 บาทต่อบาททองคำ ด้านสภาทองคำโลก ชี้การซื้อทองเป็นการลงทุนมากกว่าการใช้เป็นเครื่องประดับ ประเทศไทยก้าวขึ้นเป็นตลาดทองคำที่แข็งแกร่งในปี 67 สูงเป็นอันดับ 7 ของโลก