ศูนย์ราชการฯ 13 พ.ย.-“อนุทิน” รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ประณามคนก่อเหตุทะเลาะวิวาทในห้องฉุกเฉินโรงพยาบาล ย้ำต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด ส่วนการพัฒนาห้องฉุกเฉินมอบ “หมอเลี้ยบ” ดำเนินงาน
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กรณีกลุ่มวัยรุ่นทะเลาะวิวาทในโรงพยาบาล ว่า โรงพยาบาลเป็นสถานที่รักษาผู้ป่วย ไม่มีกำลังตำรวจ ไว้คอยดูแลเหตุ สิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขทำได้ เมื่อเกิดเหตุแล้ว คือการร้องทุกข์กล่าวโทษ โดยจะมีการแจ้งข้อหาการก่อความไม่สงบในสถานพยาบาล ซึ่งเป็นสถานที่ราชการ โดยจะมีการเอาผิดให้ถึงที่สุด โดยเฉพาะเรื่องการทำให้ทรัพย์สินของทางราชการเสียหาย และขัดขวางการทำงานของแพทย์พยาบาลที่กำลังช่วยเหลือผู้ป่วยอยู่ และยังเป็นการทำลายความสงบเรียบร้อย ซึ่งทั้งหมดเป็นคดี อาญาที่ไม่สามารถยอมความได้ โดยประณามผู้ที่ก่อเหตุ ว่าเหตุการณ์เช่นนี้ เป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง และไม่ควรเกิดขึ้นไม่ว่ากรณีใดๆก็ตาม และไม่ควรเกิดขึ้นในเขตโรงพยาบาล
นายอนุทิน กล่าวด้วยว่า ไม่ต้องเพิ่มมาตรการใดๆ เนื่องจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นเรื่องของบุคคลที่ขาดจิตสํานึก ส่วนการป้องกันการก่อเหตุ เป็นเรื่องที่เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องเข้ามาร่วมดูแลด้วย
สำหรับแนวทางการพัฒนาห้องฉุกเฉิน นำร่อง 21 โรงพยาบาล ได้เชิญ นพ.สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข มาช่วยวางแนวทาง ในการพัฒนาเพื่อให้ห้องฉุกเฉิน เป็นห้องที่ใช้สำหรับผู้ป่วยฉุกเฉินจริงๆ อาจจะมีการแยกระดับความฉุกเฉิน ซึ่งตนพร้อมจะสนับสนุน แนวทางที่ทำให้ห้องฉุกเฉินสามารถเพิ่มความปลอดภัยและลดความแออัดลงและหากต้องเพิ่มงบประมาณก็สมควรทำ ถ้าประชาชนปลอดภัยและได้ประโยชน์
นพ.สุขุม กาญจนพิมาย ปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวถึงกรณีที่อาจมีผู้มีอิทธิพล เข้ามาช่วยเหลือไม่ให้มีการฟ้องร้องผู้ก่อเหตุนั้น ว่า ไม่มีอย่างแน่นอน โดยยืนยันเป็นคดีอาญาที่ยอมความไม่ได้ ถ้าใครยอมความ อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 157 .-สำนักข่าวไทย