กรุงเทพฯ 20 ก.ค.- สำนักงานศาลยุติธรรมจับมือธนาคารและสถาบันการเงินทั่วประเทศตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้ประกันในคดีอาญาที่ผิดสัญญาประกันต่อศาลผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ช่วยอายัดเงินได้ทันท่วงที
นายสราวุธ เบญจกุล เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม และนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย แถลงข่าวความร่วมมือระหว่างสำนักงานศาลยุติธรรมกับธนาคารและสถาบันการเงินในการรับ-ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันในคดีอาญาผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) เพื่อให้การตรวจสอบบัญชีเงินฝากของผู้ประกันในคดีอาญาเป็นไปอย่างสะดวก รวดเร็ว ถูกต้อง ครบถ้วน ประหยัดค่าใช้จ่าย ลดการใช้ทรัพยากรกระดาษ และทำให้การบังคับคดีผู้ประกันในคดีอาญามีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
เลขาธิการสํานักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า แต่เดิมการสืบหาทรัพย์สินของบุคคลซึ่งเป็นผู้ประกันในคดีอาญาที่ผิดสัญญาประกันต่อศาล สำนักงานศาลยุติธรรม จะดำเนินการสืบทรัพย์และอายัดบัญชีเงินฝากผู้ประกันผ่านทางธนาคารและสถาบันการเงิน โดยวิธีส่งเอกสารประกอบการสืบทรัพย์ทางไปรษณีย์ ซึ่งมีค่าใช้จ่ายในการส่งแต่ละครั้งเป็นจำนวนมาก และใช้เวลาในการสืบทรัพย์แต่ละครั้งเป็นเวลานาน ซึ่งกว่าจะทราบข้อมูลบัญชีเงินฝากของผู้ประกันนั้น ใช้ระยะเวลาไม่น้อยกว่า 1 เดือน ดังนั้น เพื่อให้การสืบหาทรัพย์สินของผู้ประกันในคดีอาญาเป็นไปตามเจตนารมณ์ของประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 119 และข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยการบังคับคดีผู้ประกันในคดีอาญา พ.ศ. 2560 และเป็นการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
ในการทำงานระหว่างองค์กร สำนักงานศาลยุติธรรมจึงได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการรับ-ส่งข้อมูลบัญชีเงินฝากธนาคารของผู้ประกันในคดีอาญาผ่านทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) กับธนาคารสมาชิกสมาคมธนาคารไทย สมาคมธนาคารนานาชาติ และสมาคมสถาบันการเงินของรัฐ
โดยสำนักงานศาลยุติธรรมจะส่งหมายให้ธนาคารและสถาบันการเงินตรวจสอบข้อมูลบัญชีเงินฝากของผู้ประกันในคดีอาญาและให้ธนาคารอายัดเงินในบัญชีเงินฝาก (หากมี) และนำส่งข้อมูลผลการตรวจสอบหรือผลการอายัดบัญชีเงินฝากให้แก่ศาลผ่านสำนักงานศาลยุติธรรมทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ (E-mail) ภายในระยะเวลาไม่เกินกว่า 3 – 4 วัน นับจากวันที่ธนาคารได้รับหมายจากสำนักงานศาลยุติธรรม และในกรณีที่ศาลจะให้ธนาคารนำส่งเงินของผู้ประกันในคดีอาญา ศาลจะส่งหมายบังคับคดีหรือคำสั่งอื่นใดของศาลให้แก่ธนาคารเพื่อให้ธนาคารนำส่งเงินให้ศาลเพื่อชำระค่าปรับผู้ประกันต่อไป ซึ่งการดำเนินการตามความร่วมมือดังกล่าวจะทำให้ทราบได้ว่าผู้ประกันในคดีอาญามีบัญชีเงินฝากในธนาคารและสาขาใดบ้าง ส่งผลให้สามารถดำเนินการอายัดบัญชีเงินฝากของผู้ประกันได้อย่างทันท่วงที .-สำนักข่าวไทย