16 พ.ย. – สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วม ASEAN-ACT จัดสัมมนาผู้พิพากษาศาลสูง-ศาลชั้นต้น พัฒนาแนวปฏิบัติพิจารณาคดีค้ามนุษย์ การปฏิบัติต่อผู้เสียหาย-พยาน เทียบสากล อนาคตเล็งจัดทำหลักสูตรอบรม-สร้างเป้าหมายศาลคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์
สำนักงานศาลยุติธรรม ร่วมกับโครงการอาเซียน-ออสเตรเลียเพื่อต่อต้านการค้ามนุษย์ (ASEAN – ACT) จัดโครงการสัมมนาผู้พิพากษาว่าด้วยแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาคดีค้ามนุษย์ และแนวทางการปฏิบัติต่อผู้เสียหายและพยานที่มีความเปราะบาง โดยมีผู้พิพากษาในพื้นที่สำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 8 เขตอำนาจครอบคลุมภาคใต้ตอนบน เข้าร่วมการสัมมนาฯ ระหว่างวันที่ 16-17 พ.ย.นี้ ณ โรงแรมเดอะเวสทิน สิเหร่ เบย์รีสอร์ท แอนด์สปา ภูเก็ต โดยโครงการนี้ดำเนินการมาแล้ว 4 ครั้ง นับตั้งแต่เดือน ก.พ.2566 ครอบคลุมเขตอำนาจของศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ซึ่งมีทั้งผู้พิพากษาศาลฎีกา ศาลอุทธรณ์ ผู้พิพากษาในเขตกรุงเทพมหานคร และในเขตอำนาจสำนักงานอธิบดีผู้พิพากษาภาค 1-7 และภาค 9 เข้าร่วมสัมมนาแล้วกว่า 150 คน
โดยสืบเนื่องจากปัญหาการค้ามนุษย์เป็นปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชนที่มีความร้ายแรง มีความซับซ้อน และกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ สำนักงานศาลยุติธรรมได้ตระหนักถึงบทบาทที่สำคัญของผู้พิพากษาในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ซึ่งนอกจากการพิจารณาพิพากษาว่าจำเลยกระทำความผิดหรือไม่แล้วศาลยังมีบทบาทสำคัญในการตีความกฎหมาย วางหลักเกณฑ์การรับฟังพยานหลักฐาน การบริหารจัดการคดีและการพิจารณาคดี โดยคำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจของผู้เสียหาย “โครงการสัมมนาของผู้พิพากษาว่าด้วยแนวทางปฏิบัติในการพิจารณาคดีค้ามนุษย์” จึงเกิดขึ้นเพื่อส่งเสริมให้ผู้พิพากษาที่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาคดีค้ามนุษย์มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายวิธีพิจารณาความที่เกี่ยวข้อง แนวปฏิบัติในการดำเนินกระบวนพิจารณาเพื่อให้การพิจารณาคดีเป็นไปด้วยความสะดวก รวดเร็ว ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมาย และมีการปฏิบัติต่อผู้เสียหายในคดีค้ามนุษย์อย่างเหมาะสมเพื่อให้สอดคล้องกับหลักการตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และมาตรฐานขององค์การสหประชาชาติ และสอดคล้องกับนโยบายของประธานศาลฎีกา ข้อที่ 2 “เที่ยงธรรม” คือ ศาลยุติธรรมเป็นองค์กรผู้ใช้อำนาจตุลาการด้วยความบริสุทธิ์ ยุติธรรม โดยการจัดทำโครงการเพื่อส่งเสริมและพัฒนาองค์ความรู้ของบุคลากรในศาลยุติธรรมนี้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ทั้งนี้ ในอนาคตสำนักงานศาลยุติธรรมกำลังพิจารณาและศึกษาการจัดทำหลักสูตรอบรมที่เกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ รวมถึงการดำเนินกระบวนพิจารณาที่คำนึงถึงบาดแผลทางจิตใจของผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกฝ่ายให้แก่ผู้พิพากษาที่ปฏิบัติหน้าที่ในแผนกคดีค้ามนุษย์ในศาลอาญาและศาลอุทธรณ์ เพื่อคุ้มครองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาคของประชาชน ภายใต้หลักนิติธรรม และสามารถขับเคลื่อนนโยบายการพัฒนามาตรฐานการอำนวยความยุติธรรมของศาลยุติธรรมในระดับสากลอย่างเป็นรูปธรรม และสัมฤทธิ์ผลตามแผนงานและนโยบายที่วางไว้. -สำนักข่าวไทย