ศาลยุติธรรมแจงข้อมูลคดี-ผลประกันตัว “แป้ง-จรวด”

1 ธ.ค. – ศาลยุติธรรม แจงข้อมูลคดี-ผลประกันตัว “แป้ง นาโหนด” และ “จรวด สิทธิเดช” คดีพยายามฆ่าและลักทรัพย์เวลากลางคืนชิงตัวประกัน
 
กรณีปรากฏข่าวต่อเนื่องเกี่ยวกับการรายงานผลคดีของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด และมีการปล่อยคลิปอ้างเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประกันตัวคดีในศาล วันนี้ (1 ธ.ค.) นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลคดีและผลคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวของนายเชาวลิต จำเลย ในศาลจังหวัดพัทลุงและศาลอุทธรณ์ภาค 9 นั้น มี 2 สำนวนประกอบด้วย


1.คดีพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องนายเชาวลิตวันที่ 7 ก.พ.2565 คดีดำ อ.175/2565 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ป.อ.มาตรา 32, 33, 80, 83, 91, 92, 138, 140, 289, 296 พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ 
พ.ร.บ.สถานบริการ (เหตุเกิดวันที่ 9 ก.ย.2562) ซึ่งศาลรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกับที่อัยการยื่นฟ้องจำเลย 4 คนไปก่อนในปี พ.ศ.2564 โดยพฤติการณ์ตามฟ้องพวกจำเลยพกอาวุธปืนติดตัวไปบริเวณร้านอาหาร ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง และใช้อาวุธยิงผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจ ระหว่างเหตุต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่การจับกุมเยาวชนครอบครองอาวุธปืน

ซึ่งคดีนี้โจทก์ขอให้ศาลเพิ่มโทษ 1 ใน 3 กับนายเชาวลิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ด้วยเนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดวันที่ 30 พ.ย.2554 คดีหมายเลขแดง 2816/2554 โทษจำคุก 9 ปี 13 เดือน 15 วัน ความผิดมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยระหว่างพิจารณานายเชาวลิต ใช้สิทธิยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาลจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น 3 ครั้ง และมีการอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 
รวม 3 ครั้ง ผลคำสั่งประกันทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีความเห็นทำนองเดียวกันว่ากรณีอุกฉกรรจ์ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับประวัติของจำเลย หากได้รับการปล่อยชั่วคราวไม่น่าเชื่อว่าจำเลยจะไม่หลบหนี หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ส่วนจำเลยอื่นอีก 4 คน ในคดีเดียวกันนี้มีทั้งที่ไม่ยื่นประกันตัว ยื่นประกันตัวแล้วไม่อนุญาต และศาลจังหวัดพัทลุงอนุญาตให้ประกันโดยให้วางหลักประกัน 480,000 บาท แต่จำเลยนั้นไม่มีหลักทรัพย์มาวาง


ขณะที่คดีนี้ศาลจังหวัดพัทลุงกำหนดนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2566 แต่ปรากฏว่านายเชาวลิต จำเลยที่ 5 หลบหนีซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้รับรายงานวันที่ 31 ต.ค.2566 ว่าผู้ต้องขังหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ขณะไปตรวจรักษาทันตกรรมที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ศาลจึงได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 25 ธ.ค.2566 เวลา 09.00 น.  

2.คดีพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องนายเชาวลิต วันที่ 11 ม.ค.2565 คดีหมายเลขดำ อ.49/2565 ความผิดกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับ ความผิดต่อเสรีภาพ ป.อ.มาตรา 83, 91, 92, 309, 340, 340 ตรี ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฯ กรณีวันที่ 2 ก.ค.2562 นายเชาวลิตกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนติดตัวไป ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับกลุ่มเจ้าพนักงานตำรวจแล้วร่วมกันลักเอาอาวุธปืน กระสุนปืนหลายรายการไป ในช่วงแผนประทุษร้ายชิงตัวนายสิทธิเดช ทรงเดชะ หรือจรวด ที่ถูกจับคดียาเสพติด โดยศาลจังหวัดพัทลุงมีคำพิพากษาวันที่ 30 พ.ย.2565เป็นคดีหมายเลขแดง อ.1861/2565 ลงโทษในความผิดร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธฯ ป.อ.มาตรา 335(1)(7) วรรคสองประกอบมาตรา 336 ทวิ ความผิดต่อเสรีภาพ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งศาลเพิ่มโทษหนึ่งในสามตามที่อัยการขอท้ายฟ้องกรณีที่จำเลยนั้นเคยรับโทษความผิดคดีอาญาอื่นที่ถึงที่สุดแล้ว จึงจำคุก
นายเชาวลิต ทั้งสิ้นเป็นเวลา 20 ปี 16 เดือน พร้อมกับให้จำเลยคืนอาวุธและเครื่องกระสุน หรือใช้เงินแทนแก่ตำรวจผู้เสียหายสามรายด้วย โดยจำเลยยื่นอุทธรณ์คดีตามสิทธิและเมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 ศาลจังหวัดพัทลุงได้ส่งสำนวนคดีที่จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 9 คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ซึ่งคดีนี้จำเลยใช้สิทธิยื่นขอประกันในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น 4 ครั้ง และยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันรวมทั้งยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดีรวม 4 ครั้ง โดยทั้งสองชั้นศาลมีความเห็นไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง ด้วยเหตุผลลักษณะเดียวกันว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ข้อหามีอัตราโทษสูง ตามฟ้องใช้อาวุธปืนสงครามในการก่อเหตุ และจำเลยยังถูกฟ้องข้อหาพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในคดีหมายเลขดำ อ.175/2565 ของศาลจังหวัดพัทลุงอีกคดีหนึ่งซึ่งเป็นการกระทำหลังเกิดเหตุคดีนี้ 2 เดือนอีกทั้งจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษในข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนทำนองเดียวกับคดีนี้มาก่อน หากอนุญาตเกรงว่าจะก่อเหตุอันตรายซ้ำอีกและเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนีหรือจะเกิดความเสียหาย

คดีทั้ง 2 สำนวนไม่ปรากฏข้อมูลว่า นายเชาวลิตใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวต่อศาลฎีกา ส่วนข้อมูลที่อ้างถึงการใช้ดุลยพินิจไม่ให้ประกันตัวนายเชาวลิต แต่ให้ประกันตัวจำเลยอื่นนั้น จากข้อเท็จจริงในสำนวนกรณีที่ศาลมิได้อนุญาตปล่อยชั่วคราวนายเชาวลิต เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายแล้ว โดยตามคำสั่งที่ไม่ให้ประกันตัวนายเชาวลิตของทั้งศาลจังหวัดพัทลุงและศาลอุทธรณ์ภาค 9 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นเพราะพฤติการณ์กระทำความผิดร้ายแรง มีการใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ นายเชาวลิตถูกดำเนินคดีสองคดีในระยะเวลาใกล้ ๆ กันในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.2562 ห่างกันเพียง 2 เดือนเศษ อีกทั้งมีประวัติการกระทำความผิดหลายคดี ทั้งยังมีการตรวจสอบประวัติของจำเลยในสารบบความของศาล มีประวัติการกระทำผิดมาหลายครั้ง ซึ่งนายเชาวลิตเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ความผิดบุกรุก ความผิดต่อชีวิตเสรีภาพฯ ช่วงปี พ.ศ.2550 ถึงปี พ.ศ.2553 นับ 10 คดี ทำให้น่าเชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวไปอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อให้เกิดอันตรายประการอื่นอีก อันเป็นเหตุที่กฎหมายกำหนดให้ศาลอาจใช้ดุลพินิจไม่ให้ปล่อยชั่วคราวก็ได้


ส่วนกรณีนายสิทธิเดช ทรงเดชะ หรือจรวด ที่ถูกดำเนินคดีจากพฤติการณ์เกี่ยวพันกับนายเชาวลิตในการชิงตัวประกัน พนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 
คดีหมายเลขดำ อ.1031/2564 ข้อหาพยายามฆ่า ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2562 ชั้นพิจารณานายสิทธิเดชยื่นขอประกันตัว ศาลจังหวัดพัทลุงมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ให้ทำสัญญาประกันและวางหลักประกัน 480,000 บาท แต่เมื่อคดีอ่านคำพิพากษาวันที่ 20 ธ.ค.2565 ศาลจังหวัดพัทลุงซึ่งเป็นศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษว่ามีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 288, 80 และให้เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามป.อ.มาตรา 92 จากกรณีที่เคยต้องโทษถึงที่สุดคดีอื่นมาแล้วตามที่โจทก์ขอด้วย รวมจำคุกทั้งสิ้น 13 ปี 4 เดือนพร้อมริบลูกกระสุน
ของกลาง และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ ร.ต.อ.อภิชาติ ด้วยจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินนับแต่วันละเมิด (2 ก.ค.62) เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เม.ย.64 และชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.64 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นายสิทธิเดชได้ยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยศาลจังหวัดพัทลุงส่งศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิจารณาและศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำสั่ง
ยกคำร้อง ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวเพราะเห็นว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกแล้วหลายคดี และครั้งสุดท้ายศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต (คดีความผิดต่อชีวิต พยายาม, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ, ลหุโทษ, ละเมิด มีคำพิพากษาวันที่ 19 ก.พ.2557) สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยถึง 13 ปี 4 เดือนซึ่งเป็นอัตราโทษสูง หากได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาชั้นอุทธรณ์เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี โดยจำเลยใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 ด้วยแต่ศาลก็ไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.2565 นายสิทธิเดช ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา แล้วศาลฎีกามีคำสั่งว่าจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีและจำเลยเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาก่อนไม่มีพฤติการณ์หลบหนี อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 480,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป ขณะที่คดีนี้ศาลจังหวัดพัทลุงกำหนัดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในวันที่ 12 ธ.ค.2566 ซึ่งในวันนัดจำเลยจะต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ตามนัด หากผลเป็นอย่างไรจำเลยก็ใช้สิทธิยื่นประกันตัวรวมถึงการยื่นฎีกาสู้คดีต่อไปได้เหมือนคดีอาญาอื่น ๆ  

ทั้งนี้ การพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาใด ๆ ศาลย่อมต้องพิเคราะห์จากปัจจัยต่าง ๆ และข้อมูลรายงานคดีตั้งแต่ชั้นสอบสวนเรื่อยมาประกอบด้วย ซึ่งแต่ละรายอาจแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นข้อหาที่ถูกดำเนินคดี บทบาทของผู้ต้องหาและจำเลยแต่ละคนในการกระทำที่ถูกกล่าวหา ตลอดจนประวัติและความเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่น การที่คดีหนึ่งให้ประกันแต่อีกคดีไม่ให้จึงเป็นผลจากพฤติการณ์ในแต่ละกรณี ไม่ได้เกิดจากการเลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหาและจำเลยในคดีใดคดีหนึ่งโดยเฉพาะ การที่ศาลไม่ให้ประกันไม่ได้หมายความว่าศาลจะฟังและเชื่อเป็นยุติตามที่เจ้าพนักงานตำรวจระบุมาเท่านั้นตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่ข้อมูลของเจ้าพนักงานตำรวจย่อมเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องใช้ประกอบการพิจารณา เพราะเป็นพยานหลักฐานที่มีการรวบรวมได้และมีอยู่ในขณะนั้น ส่วนการพิพากษาจะเป็นอย่างไรย่อมขึ้นอยู่กับการสืบพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาต่อไปศาลยุติธรรมยืนยันว่าในการพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราว ศาลให้การพิจารณาแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหาหรือจำเลยคนหนึ่งคนใดเป็นการเฉพาะ และในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกันที่ศาลได้พิจารณาพฤติการณ์และมีคำสั่งที่เหมาะสมตามรูปคดีและสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว. -413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ครม.แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​-​คดีพิเศษ-​พศ.

ทำเนียบฯ 24 ก.ย. – ครม. แบ่งงาน​ 6 รองนายกฯ​ มอบ​ “บวรศักดิ์​” คุม​ยุติธรรม​ -​ คดีพิเศษ -​ สำนักพุทธฯ​ ขณะที่ “เอกนิติ​” คุมพาณิชย์​ -​ สำนักงบฯ ด้าน “ธรรมนัส​” คุมท่องเที่ยว​ -​ เกษตร​ ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี​นัดพิเศษ นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ นายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย​ มีมติแบ่งงานรองนายกรัฐมนตรี​ 6 คน​ ประกอบด้วย นายพิพัฒน์​ รัชกิจประการ​ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ดูแลกระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพลังงาน​ สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์​แห่งชาติ​ สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒฒาพิเศษ​ภาคตะวันออก​ (อีอีซี) นายโสภณ​ ซารัมย์​ รองนายกรัฐมนตรี กำกับดูแลด้านสังคม​ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ​ (ส​ทนช.) […]

ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างหน้าวชิรพยาบาล แนะเลี่ยงเส้นทาง

24 ก.ย.- ถนนทรุดตัวเป็นหลุมกว้างบริเวณหน้าวชิรพยาบาล จนท.เร่งเคลื่อนย้ายผู้ป่วย-ประชาชนใกล้เคียง ออกนอกพื้นที่เสี่ยง แจ้งเตือนหลีกเลี่ยงเส้นทางอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจร ช่วงประมาณ 07.13 น. ศูนย์วิทยุพระราม199 รางานเหตุถนนทรุดตัวเป็นบริเวณกว้างใกล้เคียงอาคารของโรงพยาบาลวชิรพยาบาล เจ้าหน้าที่สถานีดับเพลิงและกู้ภัยสามเสน ถึงที่เกิดเหตุ ลักษณะที่เกิดเหตุเป็นถนนทรุดตัวขนาดใหญ่ เป็นหลุมกว้าง 30 x 30 เมตร ลึก 50 เมตร ทรุดตัวเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทั้งบริเวณหน้าโรงพยาบาลและหน้าสถานีตำรวจสามเสน เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเคลื่อนย้ายผู้ป่วยและประชาชนใกล้เคียง ออกจากจุดที่เกิดเหตุ ล่าสุดสำนักงานเขตดุสิต แจ้งปิดการจราจรแยกวชิรพยาบาล – แยกซังฮี้ และบริเวณใกล้เคียงโดยรอบ เนื่องจากเหตุผิวจราจรทรุดตัวส่งผลกระทบต่อระบบสาธารณูปโภคโดยรอบ และอาจเป็นอันตรายต่อผู้สัญจรใกล้เคียงได้ -สำนักข่าวไทย

ครม. ตั้ง “ไตรศุลี” นั่งเลขาธิการนายกฯ อายุน้อยที่สุด

ทำเนียบ24 ก.ย. – ครม.นัดพิเศษ ตั้ง “ไตรศุลี ไตรสรณกุล” เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดพิเศษ วันนี้ (24 ก.ย.) มีนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานการประชุม ครม. มีมติแต่งตั้งให้นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล เป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี หรือเรียกกันว่า “นายกฯ น้อย” ถือเป็นตำแหน่งสำคัญ ต้องคอยสนับสนุนการทำงานของนายกรัฐมนตรี รวมถึงการบริหารจัดการงานทั่วไป และประสานงานให้กับนายกรัฐมนตรีโดยตรง นอกจากนี้ ยังเป็นตำแหน่งที่จะต้องรวบรวมวิเคราะห์ และกลั่นกรองข้อมูลต่าง ๆ เพื่อนำเสนอความเห็นประกอบการพิจารณา และการสั่งการของนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม นางสาวไตรศุลี ถือเป็นผู้ที่รับตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ที่อายุน้อยที่สุด ปัจจุบันนางสาวไตรศุลี อายุ 35 ปี และเป็นลูกสาวของ นายวิชิต ไตรสรณกุล นายก อบจ.ศรีสะเกษ จบการศึกษาจากคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และเริ่มต้นการทำงานทางการเมืองด้วยการดำรงตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในสมัยรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อดีตนายกรัฐมนตรี […]

เจ้าของห้องคอนโด ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด

23 ก.ย. – เจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวายทำลายทรัพย์สิน ยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษ หนุ่มเจ้าของห้องคอนโด ย่านพระราม 9 ที่ถูกคู่กรณี ก่อความวุ่นวาย ทำลายทรัพย์สิน รวมถึงใช้อาวุธมีดมาเคาะประตูเชิงข่มขู่กลางดึก เปิดใจว่าขณะเกิดเหตุตกใจกลัวมาก หากประตูพังอาจเกิดเหตุไม่คาดคิด ต้องวิ่งไปหลบในห้องนอนและเอาของมาวางกั้นไว้ แต่ก็ยังโทรฯ หาตำรวจและแจ้งนิติบุคคลคอนโด แต่ก็ไม่มีใครขึ้นมา ตอนนี้ต้องย้ายที่อยู่ชั่วคราวและลางาน เพราะกังวลเรื่องความปลอดภัย โดยมีหลายคนที่เจอเหตุการณ์เหมือนกับตนเอง ส่วนทางคู่กรณี ตนอยากจะบอกว่า ถ้าหากมีอาการจิตเวชจริงก็ขอให้เข้ารับการรักษา ตอนนี้ไม่ต้องการคำขอโทษเพราะเกินเวลานั้นมานานแล้ว ยืนยันจะดำเนินการตามกฎหมาย เพราะสุดท้ายแล้วเชื่อว่ากฎหมายจะให้ความเป็นธรรมกับตนได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย