ศาลยุติธรรมแจงข้อมูลคดี-ผลประกันตัว “แป้ง-จรวด”

1 ธ.ค. – ศาลยุติธรรม แจงข้อมูลคดี-ผลประกันตัว “แป้ง นาโหนด” และ “จรวด สิทธิเดช” คดีพยายามฆ่าและลักทรัพย์เวลากลางคืนชิงตัวประกัน
 
กรณีปรากฏข่าวต่อเนื่องเกี่ยวกับการรายงานผลคดีของนายเชาวลิต ทองด้วง หรือ แป้ง นาโหนด และมีการปล่อยคลิปอ้างเรื่องไม่ได้รับความเป็นธรรมในการประกันตัวคดีในศาล วันนี้ (1 ธ.ค.) นายสรวิศ ลิมปรังษี โฆษกศาลยุติธรรม กล่าวว่า จากการตรวจสอบข้อมูลคดีและผลคำสั่งขอปล่อยชั่วคราวของนายเชาวลิต จำเลย ในศาลจังหวัดพัทลุงและศาลอุทธรณ์ภาค 9 นั้น มี 2 สำนวนประกอบด้วย


1.คดีพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องนายเชาวลิตวันที่ 7 ก.พ.2565 คดีดำ อ.175/2565 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่า ป.อ.มาตรา 32, 33, 80, 83, 91, 92, 138, 140, 289, 296 พ.ร.บ.อาวุธปืน ฯ 
พ.ร.บ.สถานบริการ (เหตุเกิดวันที่ 9 ก.ย.2562) ซึ่งศาลรวมสำนวนเป็นคดีเดียวกับที่อัยการยื่นฟ้องจำเลย 4 คนไปก่อนในปี พ.ศ.2564 โดยพฤติการณ์ตามฟ้องพวกจำเลยพกอาวุธปืนติดตัวไปบริเวณร้านอาหาร ต.ปรางหมู่ อ.เมืองพัทลุง และใช้อาวุธยิงผู้ช่วยเจ้าพนักงานตำรวจ ระหว่างเหตุต่อสู้ขัดขวางเจ้าพนักงานที่ปฏิบัติหน้าที่การจับกุมเยาวชนครอบครองอาวุธปืน

ซึ่งคดีนี้โจทก์ขอให้ศาลเพิ่มโทษ 1 ใน 3 กับนายเชาวลิต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 92 ด้วยเนื่องจากเคยต้องคำพิพากษาถึงที่สุดวันที่ 30 พ.ย.2554 คดีหมายเลขแดง 2816/2554 โทษจำคุก 9 ปี 13 เดือน 15 วัน ความผิดมียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีนไฮโดรคลอไรด์) เพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยระหว่างพิจารณานายเชาวลิต ใช้สิทธิยื่นคำร้องขอประกันตัวต่อศาลจังหวัดพัทลุง ซึ่งเป็นศาลชั้นต้น 3 ครั้ง และมีการอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 
รวม 3 ครั้ง ผลคำสั่งประกันทั้งศาลชั้นต้นและศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีความเห็นทำนองเดียวกันว่ากรณีอุกฉกรรจ์ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง คดีมีอัตราโทษสูง ประกอบกับประวัติของจำเลย หากได้รับการปล่อยชั่วคราวไม่น่าเชื่อว่าจำเลยจะไม่หลบหนี หรือก่อเหตุร้ายประการอื่น ส่วนจำเลยอื่นอีก 4 คน ในคดีเดียวกันนี้มีทั้งที่ไม่ยื่นประกันตัว ยื่นประกันตัวแล้วไม่อนุญาต และศาลจังหวัดพัทลุงอนุญาตให้ประกันโดยให้วางหลักประกัน 480,000 บาท แต่จำเลยนั้นไม่มีหลักทรัพย์มาวาง


ขณะที่คดีนี้ศาลจังหวัดพัทลุงกำหนดนัดฟังคำพิพากษาครั้งแรกเมื่อวันที่ 22 พ.ย.2566 แต่ปรากฏว่านายเชาวลิต จำเลยที่ 5 หลบหนีซึ่งศาลจังหวัดพัทลุงได้รับรายงานวันที่ 31 ต.ค.2566 ว่าผู้ต้องขังหลบหนีการควบคุมของเจ้าหน้าที่เมื่อวันที่ 22 ต.ค.ขณะไปตรวจรักษาทันตกรรมที่โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช ศาลจึงได้เลื่อนนัดฟังคำพิพากษาเป็นวันที่ 25 ธ.ค.2566 เวลา 09.00 น.  

2.คดีพนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องนายเชาวลิต วันที่ 11 ม.ค.2565 คดีหมายเลขดำ อ.49/2565 ความผิดกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์โดยมีและใช้อาวุธปืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือเพื่อให้พ้นการจับ ความผิดต่อเสรีภาพ ป.อ.มาตรา 83, 91, 92, 309, 340, 340 ตรี ความผิดเกี่ยวกับอาวุธปืนฯ กรณีวันที่ 2 ก.ค.2562 นายเชาวลิตกับพวกที่ยังไม่ได้ตัวมาฟ้องร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนติดตัวไป ต.แพรกหา อ.ควนขนุน จ.พัทลุง ทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายกับกลุ่มเจ้าพนักงานตำรวจแล้วร่วมกันลักเอาอาวุธปืน กระสุนปืนหลายรายการไป ในช่วงแผนประทุษร้ายชิงตัวนายสิทธิเดช ทรงเดชะ หรือจรวด ที่ถูกจับคดียาเสพติด โดยศาลจังหวัดพัทลุงมีคำพิพากษาวันที่ 30 พ.ย.2565เป็นคดีหมายเลขแดง อ.1861/2565 ลงโทษในความผิดร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืนโดยมีอาวุธฯ ป.อ.มาตรา 335(1)(7) วรรคสองประกอบมาตรา 336 ทวิ ความผิดต่อเสรีภาพ และ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ซึ่งศาลเพิ่มโทษหนึ่งในสามตามที่อัยการขอท้ายฟ้องกรณีที่จำเลยนั้นเคยรับโทษความผิดคดีอาญาอื่นที่ถึงที่สุดแล้ว จึงจำคุก
นายเชาวลิต ทั้งสิ้นเป็นเวลา 20 ปี 16 เดือน พร้อมกับให้จำเลยคืนอาวุธและเครื่องกระสุน หรือใช้เงินแทนแก่ตำรวจผู้เสียหายสามรายด้วย โดยจำเลยยื่นอุทธรณ์คดีตามสิทธิและเมื่อวันที่ 30 ส.ค.66 ศาลจังหวัดพัทลุงได้ส่งสำนวนคดีที่จำเลยยื่นอุทธรณ์คำพิพากษาศาลชั้นต้นไปยังศาลอุทธรณ์ภาค 9 คดีอยู่ในระหว่างการพิจารณาของศาลอุทธรณ์ภาค 9 ซึ่งคดีนี้จำเลยใช้สิทธิยื่นขอประกันในชั้นพิจารณาของศาลชั้นต้น 4 ครั้ง และยื่นอุทธรณ์คำสั่งประกันรวมทั้งยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดีรวม 4 ครั้ง โดยทั้งสองชั้นศาลมีความเห็นไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว ให้ยกคำร้อง ด้วยเหตุผลลักษณะเดียวกันว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ พฤติการณ์แห่งคดีเป็นเรื่องร้ายแรง ข้อหามีอัตราโทษสูง ตามฟ้องใช้อาวุธปืนสงครามในการก่อเหตุ และจำเลยยังถูกฟ้องข้อหาพยายามฆ่าผู้ช่วยเหลือเจ้าพนักงานในคดีหมายเลขดำ อ.175/2565 ของศาลจังหวัดพัทลุงอีกคดีหนึ่งซึ่งเป็นการกระทำหลังเกิดเหตุคดีนี้ 2 เดือนอีกทั้งจำเลยเคยถูกศาลพิพากษาให้ลงโทษในข้อหาเกี่ยวกับอาวุธปืนทำนองเดียวกับคดีนี้มาก่อน หากอนุญาตเกรงว่าจะก่อเหตุอันตรายซ้ำอีกและเชื่อว่าจำเลยจะหลบหนีหรือจะเกิดความเสียหาย

คดีทั้ง 2 สำนวนไม่ปรากฏข้อมูลว่า นายเชาวลิตใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวต่อศาลฎีกา ส่วนข้อมูลที่อ้างถึงการใช้ดุลยพินิจไม่ให้ประกันตัวนายเชาวลิต แต่ให้ประกันตัวจำเลยอื่นนั้น จากข้อเท็จจริงในสำนวนกรณีที่ศาลมิได้อนุญาตปล่อยชั่วคราวนายเชาวลิต เป็นไปตามหลักเกณฑ์ตามที่กฎหมายแล้ว โดยตามคำสั่งที่ไม่ให้ประกันตัวนายเชาวลิตของทั้งศาลจังหวัดพัทลุงและศาลอุทธรณ์ภาค 9 ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าเป็นเพราะพฤติการณ์กระทำความผิดร้ายแรง มีการใช้อาวุธสงครามในการก่อเหตุ นายเชาวลิตถูกดำเนินคดีสองคดีในระยะเวลาใกล้ ๆ กันในช่วงเดือน ก.ค.-ก.ย.2562 ห่างกันเพียง 2 เดือนเศษ อีกทั้งมีประวัติการกระทำความผิดหลายคดี ทั้งยังมีการตรวจสอบประวัติของจำเลยในสารบบความของศาล มีประวัติการกระทำผิดมาหลายครั้ง ซึ่งนายเชาวลิตเคยถูกดำเนินคดีเกี่ยวกับ พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ ความผิดบุกรุก ความผิดต่อชีวิตเสรีภาพฯ ช่วงปี พ.ศ.2550 ถึงปี พ.ศ.2553 นับ 10 คดี ทำให้น่าเชื่อว่าหากให้ปล่อยชั่วคราวไปอาจหลบหนีหรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือไปก่อให้เกิดอันตรายประการอื่นอีก อันเป็นเหตุที่กฎหมายกำหนดให้ศาลอาจใช้ดุลพินิจไม่ให้ปล่อยชั่วคราวก็ได้


ส่วนกรณีนายสิทธิเดช ทรงเดชะ หรือจรวด ที่ถูกดำเนินคดีจากพฤติการณ์เกี่ยวพันกับนายเชาวลิตในการชิงตัวประกัน พนักงานอัยการจังหวัดพัทลุง ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดพัทลุง เมื่อวันที่ 30 ส.ค.2564 
คดีหมายเลขดำ อ.1031/2564 ข้อหาพยายามฆ่า ร.ต.อ.อภิชาติ สกุลกิจ เมื่อวันที่ 2 ก.ค.2562 ชั้นพิจารณานายสิทธิเดชยื่นขอประกันตัว ศาลจังหวัดพัทลุงมีคำสั่งอนุญาตปล่อยชั่วคราว ให้ทำสัญญาประกันและวางหลักประกัน 480,000 บาท แต่เมื่อคดีอ่านคำพิพากษาวันที่ 20 ธ.ค.2565 ศาลจังหวัดพัทลุงซึ่งเป็นศาลชั้นต้นตัดสินลงโทษว่ามีความผิดตาม ป.อ.มาตรา 288, 80 และให้เพิ่มโทษหนึ่งในสามตามป.อ.มาตรา 92 จากกรณีที่เคยต้องโทษถึงที่สุดคดีอื่นมาแล้วตามที่โจทก์ขอด้วย รวมจำคุกทั้งสิ้น 13 ปี 4 เดือนพร้อมริบลูกกระสุน
ของกลาง และให้จำเลยชดใช้ค่าสินไหมทดแทนแก่ ร.ต.อ.อภิชาติ ด้วยจำนวน 100,000 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปีของต้นเงินนับแต่วันละเมิด (2 ก.ค.62) เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 10 เม.ย.64 และชำระดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.64 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ นายสิทธิเดชได้ยื่นประกันตัวระหว่างอุทธรณ์คดี โดยศาลจังหวัดพัทลุงส่งศาลอุทธรณ์ภาค 9 พิจารณาและศาลอุทธรณ์ภาค 9 มีคำสั่ง
ยกคำร้อง ไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราวเพราะเห็นว่าจำเลยเคยต้องคำพิพากษาให้ลงโทษจำคุกแล้วหลายคดี และครั้งสุดท้ายศาลมีคำพิพากษาให้จำคุกตลอดชีวิต (คดีความผิดต่อชีวิต พยายาม, พ.ร.บ.อาวุธปืนฯ, ลหุโทษ, ละเมิด มีคำพิพากษาวันที่ 19 ก.พ.2557) สำหรับคดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษาลงโทษจำคุกจำเลยถึง 13 ปี 4 เดือนซึ่งเป็นอัตราโทษสูง หากได้รับอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวในระหว่างพิจารณาชั้นอุทธรณ์เกรงว่าจำเลยจะหลบหนี โดยจำเลยใช้สิทธิยื่นอุทธรณ์คำสั่งขอประกันตัวต่อศาลอุทธรณ์ภาค 9 ด้วยแต่ศาลก็ไม่อนุญาต ให้ยกคำร้อง กระทั่งวันที่ 27 ธ.ค.2565 นายสิทธิเดช ยื่นคำร้องอุทธรณ์คำสั่งขอปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ต่อศาลฎีกา แล้วศาลฎีกามีคำสั่งว่าจำเลยให้การปฏิเสธต่อสู้คดีและจำเลยเคยได้รับการปล่อยชั่วคราวมาก่อนไม่มีพฤติการณ์หลบหนี อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราวระหว่างอุทธรณ์ ตีราคาประกัน 480,000 บาท ให้ศาลชั้นต้นพิจารณาหลักประกันแล้วดำเนินการต่อไป ขณะที่คดีนี้ศาลจังหวัดพัทลุงกำหนัดนัดฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ภาค 9 ในวันที่ 12 ธ.ค.2566 ซึ่งในวันนัดจำเลยจะต้องเดินทางมาฟังคำพิพากษาชั้นอุทธรณ์ตามนัด หากผลเป็นอย่างไรจำเลยก็ใช้สิทธิยื่นประกันตัวรวมถึงการยื่นฎีกาสู้คดีต่อไปได้เหมือนคดีอาญาอื่น ๆ  

ทั้งนี้ การพิจารณาคำร้องขอปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญาใด ๆ ศาลย่อมต้องพิเคราะห์จากปัจจัยต่าง ๆ และข้อมูลรายงานคดีตั้งแต่ชั้นสอบสวนเรื่อยมาประกอบด้วย ซึ่งแต่ละรายอาจแตกต่างกันไม่ว่าจะเป็นข้อหาที่ถูกดำเนินคดี บทบาทของผู้ต้องหาและจำเลยแต่ละคนในการกระทำที่ถูกกล่าวหา ตลอดจนประวัติและความเกี่ยวเนื่องกับคดีอื่น การที่คดีหนึ่งให้ประกันแต่อีกคดีไม่ให้จึงเป็นผลจากพฤติการณ์ในแต่ละกรณี ไม่ได้เกิดจากการเลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหาและจำเลยในคดีใดคดีหนึ่งโดยเฉพาะ การที่ศาลไม่ให้ประกันไม่ได้หมายความว่าศาลจะฟังและเชื่อเป็นยุติตามที่เจ้าพนักงานตำรวจระบุมาเท่านั้นตามที่มีการกล่าวอ้าง แต่ข้อมูลของเจ้าพนักงานตำรวจย่อมเป็นข้อมูลเบื้องต้นที่จะต้องใช้ประกอบการพิจารณา เพราะเป็นพยานหลักฐานที่มีการรวบรวมได้และมีอยู่ในขณะนั้น ส่วนการพิพากษาจะเป็นอย่างไรย่อมขึ้นอยู่กับการสืบพยานหลักฐานในชั้นพิจารณาต่อไปศาลยุติธรรมยืนยันว่าในการพิจารณาให้ปล่อยชั่วคราว ศาลให้การพิจารณาแก่ผู้ต้องหาหรือจำเลยทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน ไม่ได้เลือกปฏิบัติกับผู้ต้องหาหรือจำเลยคนหนึ่งคนใดเป็นการเฉพาะ และในกรณีนี้ก็เช่นเดียวกันที่ศาลได้พิจารณาพฤติการณ์และมีคำสั่งที่เหมาะสมตามรูปคดีและสอดคล้องกับบทบัญญัติแห่งกฎหมายแล้ว. -413-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญถกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างฯ

จับตา ศาลรัฐธรรมนูญ “รับ/ไม่รับ” คำร้องปม “ทักษิณ-พรรคเพื่อไทย” ใช้สิทธิเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครองหรือไม่

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น