ยธ.-แรงงาน จับมือฝึกอาชีพผู้อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัย

ยธ.20ก.ค.-กระทรวงยุติธรรม-กระทรวงแรงงาน ผนึกกำลังฝึกทักษะอาชีพ ให้ผู้ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบ ป้อนตลาดแรงงานทั้งในและต่างประเทศ ชี้ปีที่ผ่านมา ผู้ผ่านอบรมมีงานทำร้อยละ80



นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานร่วมในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนาฝีมือแรงงาน เพื่อส่งเสริมการมีงานทำของผู้ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบ ระหว่าง กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงแรงงาน เพื่อส่งเสริมการมีงานทำของกลุ่มผู้ผ่านกระบวนการบำบัดพัฒนาพฤตินิสัยจากกระทรวงยุติธรรม ทั้งงานในประเทศ และต่างประเทศ  เพื่อให้สามารถอยู่ในสังคมได้เมื่อพ้นโทษแล้ว 


ม.ร.ว.จัตุมงคล กล่าวว่า กระทรวงแรงงาน โดยกรมการจัดหางานและกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจะทำหน้าที่ในการแนะนำอาชีพ จัดหาตำแหน่งงาน จัดฝึกอบรมพัฒนาฝีมือแรงงานให้แก่ผู้ต้องขังก่อนพ้นโทษและให้การรับรองแก่สถานประกอบการในการรับผู้พ้นโทษเข้าทำงาน ซึ่งมองตลาด แรงงานทั้งในและต่างประเทศ ที่พร้อมรับแรงงานฝีมือด้านต่างๆ ที่ผ่านการอบรม 

ที่ผ่านมาทั้ง 2 กระทรวงมีความร่วมมือในการ พัฒนาฝีมือแรงงานให้กับผู้ที่อยู่ในกระบวนการพัฒนาพฤตินิสัยทั้งระบบมาอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 มีผู้ผ่านอบรม 8,084 คน รับการพิจารณารับเข้าทำงานร้อยละ 70- 80 ส่วนในปี2563 มีเป้าหมายในการอบรม1,840คน โดยเน้นการฝึกอาชีพในกลุ่มอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานฝีมือทั่วไป เช่น งานก่อสร้าง ช่างไม้ ช่างไฟ เป็นต้น  ซึ่งเห็นว่าเป็นโครงการที่ดี ที่ให้โอกาสแก้ผู้ที่เคยกระทำผิด สามารถมีอาชีพมีรายได้ และได้รับโอกาสในการกลับคืนสู่สังคมอีกครั้งหลังพ้นโทษ 


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า กระทรวงยุติธรรม มีหน้าที่คัดเลือกกลุ่มเป้าหมายที่ประสงค์จะเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรที่สอดคล้องกับตลาดแรงงาน  ซึ่งมีความต้องการแรงงานฝีมือ สิ่งสำคัญคือต้องเพิ่มทักษะด้านภาษาให้ กับแรงงานที่ต้องการจะไปทำงานในต่างประเทศทั้งภาษาอังกฤษหรือภาษาท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับแรงงานไทย ซึ่งในเบื้องต้นมีกลุ่มเป้าหมาย ประมาณ20,000-30,000 ราย แต่คงไม่สามารถฝึกทักษะอาชีพกับกระทรวงแรงงานได้ทั้งหมด จึงได้ให้แนวทางกับกรมราชทัณฑ์ ดึงศักยภาพของผู้ต้องขังที่มีหลากหลายมาช่วยในการฝึกอบรมทักษะที่มีความชำนาญ โดยใช้หลักสูตรของกระทรวงแรงงาน เช่น การดึงผู้ต้องขังชาวต่างชาติที่มีอยู่ในเรือนจำประมาณ 2,000 คน มาเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ เป็นต้น 

ทั้งนี้ คาดหวังว่าความร่วมมือครั้งนี้ จะเป็นก้าวที่สำคัญในการส่งเสริมและให้โอกาสแก่ผู้ที่อยู่ในระบบพัฒนาพฤตินิสัย ทั้งผู้ต้องขัง ผู้ถูกคุมประพฤติเด็กและเยาวชนที่อยู่ระหว่างกระบวนการบำบัด ซึ่งมีจำนวนกว่า 500,000 คน ได้มีโอกาศกลับคืนสู่สังคมในการกลับเข้ามาใช้ชีวิตอย่างปกติในสังคมอีกครั้ง และลดการกระทำผิดซ้ำ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]