เปิดซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์รองรับผลผลิตเกษตรกรรุ่นใหม่

กรุงเทพฯ  15 ก.ค. – กรมส่งเสริมสหกรณ์เร่งขับเคลื่อนโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านทำเกษตร พร้อมดันสหกรณ์เปิดพื้นที่เป็นซูเปอร์มาร์เก็ตขายผลผลิตของสมาชิก


นายวิศิษฐ์  ศรีสุวรรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ กล่าวถึงความคืบหน้าของโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านสานต่ออาชีพการเกษตร ว่า จากการเปิดรับสมัครโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้าน สานต่ออาชีพการเกษตร เมื่อวันที่ 1- 31 มกราคม 2563 มีผู้สมัครเข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศ 7,559 ราย และมีสหกรณ์เข้าร่วมโครงการแล้ว 690 สหกรณ์  ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพพนักงานบริษัท ค้าขาย รับจ้างทั่วไป ลูกจ้างหน่วยงาน  ข้าราชการ พนักงานรัฐ นักศึกษาและผู้ว่างงาน เป็นคนในช่วงวัย 30 – 39 ปีมากที่สุดและส่วนใหญ่จบระดับปริญญาตรี  โดยตั้งแต่ปลายเดือนมีนาคมเจ้าหน้าที่ของสำนักงานสหกรณ์จังหวัดติดต่อผู้สมัครเพื่อสอบถามถึงความพร้อมในการกลับไปทำการเกษตร และได้มีการลงพื้นที่เพื่อไปเยี่ยมเยียนถึงบ้านและพื้นที่  โดยมีผู้ยืนยันความพร้อมทำเกษตรในโครงการนี้แล้ว 6,079 ราย และส่วนใหญ่ต้องการให้มีการสนับสนุนและส่งเสริมในการพัฒนาทักษะสาขาต่าง ๆ ได้แก่ เกษตรผสมผสานเกษตรอินทรีย์ เทคโนโลยีการเกษตร เกษตรอัจฉริยะ เกษตรแม่นยำ การปรับปรุงการผลิตการเกษตร/ทักษะการเกษตร การบริหารจัดการธุรกิจการเกษตร การใช้เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการผลิตและช่องทางการค้าในระบบออนไลน์ เป็นต้น  ขณะนี้แต่ละจังหวัดได้มีการวางแผนในการถ่ายทอดความรู้ให้แก่ผู้สมัครเข้าร่วมโครงการตามความสนใจของแต่ละราย และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมในการแนะนำการประกอบอาชีพการทำเกษตรในด้านต่าง ๆ ด้วย

โครงการดังกล่าวมีความเชื่อมโยงกับโครงการนำลูกหลานเกษตรกรกลับบ้านที่มีวัตถุประสงค์สนับสนุนให้คนรุ่นใหม่ได้กลับมาสานต่ออาชีพการเกษตร โดยเน้นการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ พัฒนากระบวนการผลิต การแปรรูปเพื่อเพิ่มมูลค่าและการตลาด การวางแผนการผลิตที่สอดคล้องกับความต้องการของตลาด เน้นทำน้อยแต่ได้มาก ต้นทุนการผลิตต่ำ แต่ได้ผลกำไรที่คุ้มค่า และได้มีโอกาสอยู่ดูแลครอบครัวใกล้ชิด ทั้งนี้ ให้สหกรณ์เป็นพี่เลี้ยงคอยดูแลแนะนำอาชีพ โดยมุ่งหวังให้คนรุ่นใหม่เหล่านี้เข้ามาสานต่อและพัฒนางานสหกรณ์ในอนาคต สหกรณ์ให้เป็นจุดจำหน่ายสินค้าเกษตรของสหกรณ์ที่มีคุณภาพจากจังหวัดต่าง ๆ เช่น ข้าวสาร นม ไข่ไก่ ผักผลไม้ อาหารแปรรูปและเป็นช่องทางให้ผู้บริโภคเข้าถึงสินค้าสหกรณ์ได้มากขึ้น และผลักดันให้สหกรณ์เป็นศูนย์รวบรวมและจำหน่ายผลผลิตที่มีคุณภาพแก่ประชาชนในราคาที่เป็นธรรมอย่างทั่วถึงในรูปแบบซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ตามแนวคิด “สด สะอาด ปลอดภัย” Fresh From Farm by Co-op สดจากฟาร์มถึงมือคุณ


สำหรับโครงการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบาย “ตลาดนำการผลิต” ภายใต้ความร่วมมือระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ผู้ผลิตที่ทำหน้าที่ในการรวบรวม แปรรูป บริหารจัดการสินค้าของสมาชิกเกษตรกร และกระจายสินค้าตรงถึงผู้บริโภค  ซึ่งภายหลังจากได้เปิดตัวนำร่องซูเปอร์มาเก็ตสหกรณ์แห่งแรกที่ร้านสหกรณ์พระนคร จำกัด ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ เมื่อปี 2562 ทำให้มีกระแสตอบรับจากสหกรณ์ต่าง  ๆ  สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ จำนวน 94 แห่ง กระจายอยู่ในพื้นที่ 42 จังหวัด ประกอบด้วย ภาคเหนือ 10 จังหวัด 19 แห่ง ภาคกลาง 14 จังหวัด 31 แห่ง ภาคใต้ 10 จังหวัด 20 แห่ง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 8 จังหวัด 24 แห่ง

ทั้งนี้ สินค้าหลักที่จะเน้นให้สหกรณ์ที่สมัครเข้าร่วมโครงการนี้ นำมาจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ได้แก่ ข้าวสาร หลากหลายชนิด เช่น ข้าวหอมมะลิ ข้าวกล้อง  ข้าวอินทรีย์ ข้าวไรซ์เบอร์รี่  นอกจากนี้ ก็ยังมีสินค้าเพื่อบริโภคในชีวิตประจำวัน ได้แก่ นมพร้อมดื่ม ไข่ไก่  เนื้อโคขุน สินค้าประมงแปรรูป ผลิตภัณฑ์กาแฟ ผักอินทรีย์  ผักสวนครัว ผักพื้นบ้าน และผลไม้ตามฤดูกาล  รวมถึงส่งเสริมให้มีการเชื่อมโยงสินค้าและผลิตภัณฑ์ระหว่างเครือข่ายสหกรณ์ เพื่อนำไปวางจำหน่ายในซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ ไม่น้อยกว่า 73 แห่ง มูลค่าธุรกิจเฉลี่ยประมาณ 8 ล้านบาทต่อเดือน โดยสินค้าที่มีมูลค่าธุรกิจสูงสุด คือ ข้าว รองมา ได้แก่ ผลไม้ ผลิตภัณฑ์นม และกาแฟ

นอกจากนี้ กรมส่งเสริมสหกรณ์มีแผนพัฒนาความรู้ในการดำเนินธุรกิจร้านค้าสหกรณ์ในการปรับตัวรองรับการเข้าสู่ยุค New Normal เพื่อให้ร้านค้าสหกรณ์ที่เข้าร่วมโครงการได้รับการพัฒนาความรู้ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้เชื่อมโยงเครือข่ายความร่วมมือในการบริหารจัดการซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์และสามารถปรับตัวรองรับการเปลี่ยนแปลงในยุค New Normal จัดการอบรมออนไลน์ผ่านระบบ  Zoom 3 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 จัดเมื่อวันที่ 13 – 14 กรกฎาคม ครั้งที่ 2 จัดวันที่ 20 – 21 กรกฎาคม และครั้งที่ 3 จัดวันที่ 21 สิงหาคม 2563 จากนั้นจะมีการคัดเลือกซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ 10 แห่ง เพื่อเป็นต้นแบบในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์การขับเคลื่อนซูเปอร์มาร์เก็ตสหกรณ์ต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.ตร.รับทราบเหตุปะทะเดือดสงขลา ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กต่าย” พยักหน้ารับทราบ เหตุปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ พื้นที่ จ.สงขลา ระบุขอเข้าประชุมก่อน พลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมาประชุมร่วมกับกรรมาธิการการตำรวจ สภาผู้แทนราษฎร ที่อาคารรัฐสภา โดยผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการปะทะเดือด เจ้าหน้าที่ปิดล้อมกลุ่มก่อความไม่สงบ ที่บ้านห้วยเต่า สงขลา แล้วหรือไม่ โดยพลตํารวจเอก กิตติ์รัฐ พยักหน้า แต่ไม่ได้ตอบคำถาม ระบุเพียงว่าขอเข้าประชุมก่อน -สำนักข่าวไทย

“บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์ ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ

รัฐสภา 11 ก.ย.- “บิ๊กเต่า” ชี้เป้าตลก 3 พยางค์โผล่วันจับ “ทิดอลงกต” ส่อโยงเส้นเงินวัดพระบาทน้ำพุ พบพิรุธ ยังไม่มารายงานตัว พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวถึงความคืบหน้าคดีทิดอลงกต วัดพระบาทน้ำพุ ที่มีการเปิดเผยออกมาว่า ตลกชื่อ 3 พยางค์ มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินวัดพระบาทน้ำพุด้วย ว่า มีตลกอีก 1 คนที่ยังเป็นเป้าหมายยังไม่ได้มาแสดงตัวและยังไม่ได้มาให้การ พนักงานสอบสวนจะเรียกมาเอง ซึ่งพบพิรุธเยอะว่าทำอะไรที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายหรือไม่เป็นไปตามวิธีการที่ทำในการเข้าไปช่วยเหลือ ทิดอลงกต ในการขนย้ายสิ่งของ ซึ่งเป็นเอกสารสำคัญ และไม่เหมือนดาราท่านอื่น ที่เป็นการรับจ้างงาน แต่คนนี้น่าจะเป็นคนที่สนิทส่วนตัว เป็นคนที่เคยถูกดำเนินคดีอยู่ เมื่อถามว่าเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังเรื่องนี้เลยใช่หรือไม่ พลตำรวจตรี จรูญเกียรติ กล่าวว่าเป็นคนลึกลับซับซ้อน ซึ่งเป็นคนที่เคยโผล่ให้เห็นในวันที่ทิดอลงกตถูกจับ -สำนักข่าวไทย

พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที จนท.สวนสัตว์ ลงจากรถ แล้วถูกสิงโตตะปบรุมขย้ำ

กทม. 10 ก.ย.-พ.อ.นพ.ธวัชชัย เล่านาที สิงโตตะปบเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ จากนั้นสิงโตอีก 5 ตัว รุมขย้ำ โดยที่เจ้าตัวไม่ได้ขัดขืนหรือร้องขอความช่วยเหลือ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือในคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต ก็พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่งซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างล่างของรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้า เข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนก็รู้สึกแปลกอย่างมาก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที ก็มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาทางข้างหลังช้าๆ ก่อนจะตะครุบเข้าข้างหลังเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวทันที โดยที่เจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าที ขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้น สิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ เดินตามมารุมกัดตามที่ปรากฏในคลิป ตนเองไม่รู้จะต้องทำอย่างไร ทำได้เพียงแต่บีบแตรรถ เช่นเดียวกับนักท่องเที่ยวคันอื่น ที่ช่วยกันบีบแตร ผ่านไปประมาณ 10 […]

สิงโตสวนสัตว์เอกชน ลาก จนท.ไปรุมกัด สาหัส

กทม. 10 ก.ย.-สิงโตในสวนสัตว์เอกชน ทำร้ายเจ้าหน้าที่ ลากไปรุมกัด อาการสาหัส นักท่องเที่ยวบันทึกเหตุการณ์ไว้ได้ พ.ต.อ.นิรุชพล โยธามาตย์ ผกก.สน.คันนายาว เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (10 ก.ย.68) ได้รับรายงานว่า เกิดเหตุสิงโตทำร้ายเจ้าหน้าที่ ภายในสวนสัตว์ของเอกชน จากการตรวจสอบพบว่า เจ้าหน้าที่ลงไปให้อาหาร โดยไม่ปฏิบัติตามกฎของบริษัท จึงทำให้ถูกสิงโตรุมทำร้าย เบื้องต้นอาการสาหัส นำตัวส่งโรงพยาบาล ประสานพนักงานสอบสวนเชิญตัวเจ้าหน้าที่ของสวนสัตว์มาสอบปากคำ และลงบันทึกประจำวัน โดยยังไม่มีญาติของเจ้าหน้าที่ที่ถูกทำร้ายมาแจ้งความแต่อย่างใด ทั้งนี้ ในคลิปเป็นเหตุการณ์ที่นักท่องเที่ยวบันทึกไว้ได้ บริเวณส่วนจัดแสดงสิงโต มีรั้วขนาดใหญ่เปิดให้รถเข้า-ออก เป็นพื้นที่เปิด ให้นักท่องเที่ยวขับรถเข้าไปด้านใน มีป้ายกำกับชัดเจนห้ามเปิดกระจกและห้ามลงจากรถ ด้านในจะมีรถของสวนสัตว์จอดดูแลความปลอดภัย และบางช่วงมีการจัดแสดงโชว์ให้อาหารสิงโตที่อยู่ด้านใน.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ไทยฝนฟ้าคะนอง ตกหนักบางแห่ง

กทม. 13 ก.ย.-กรมอุตุฯ รายงานไทยยังมีฝนฟ้าคะนอง และฝนตกหนักบางแห่งในภาคอีสาน ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพฯ และปริมณฑล ตะวันออก และใต้ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม กรมอุตุนิยมวิทยา พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนอง และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ภาคตะวันออก และภาคใต้ ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง และอ่าวไทยมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทย 06.00 น. วันนี้ ถึง 06.00 น. วันพรุ่งนี้ ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน […]

“พล.ท.บุญสิน” ยันยังไม่ดำเนินการโครงการอบรมโดรนเกษตร

กทม. 12 ก.ย.- “พล.ท.บุญสิน” แจงบริษัทเอกชนมามอบของ-ถ่ายรูป พร้อมเสนอโครงการอบรมโดรนเกษตร ยืนยันยังไม่ดำเนินการใดๆ ทั้งสิ้น เมื่อวันที่ 12 ก.ย.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงกรณีที่มีบริษัทเอกชนเข้ามาถ่ายรูปร่วมกับแม่ทัพภาคที่ 2 โดยมีการนำโครงการ “อบรมการใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือโดรน ให้กับทหารเพื่อเป็นการเพิ่มทักษะ เพื่อใช้ในการเกษตร” วานนี้ (11 ก.ย.) ว่า บริษัทดังกล่าวได้เข้ามาพบเหมือนกับพี่น้องประชาชนและบริษัทต่างๆ ที่เข้ามาพบมอบของ เพียงแต่ว่าทางบริษัทนี้เข้ามานำเสนอโครงการโดรน ตนก็ไม่ได้พูดคุยอะไรมาก เพียงแต่รับฟังไว้ ประมาณ 10 นาที ทางคณะดังกล่าวก็ขอถ่ายภาพ ก่อนเดินทางกลับ “ผมยืนยันว่า ยังไม่ได้มีการดำเนินการทำอะไรเลย ยังไม่ผ่านการตรวจสอบให้รอบคอบ ยืนยันอีกครั้งยังไม่ได้ดำเนินการอะไรทั้งนั้น” พล.ท.บุญสิน กล่าว.-313.-สำนักข่าวไทย

“เฉลิมชัย” ไขก๊อกหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว

พรรคประชาธิปัตย์ 12 ก.ย.-“เฉลิมชัย” ไขก๊อกจากหัวหน้าพรรค ปชป. แบบไม่บอกกล่าว ด้าน “ชัยชนะ” ยันไม่มีขัดแย้ง ในพรรครักกันดี ไม่มีแพแตก นายชัยชนะ เดชเดโช รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน ยื่นหนังสือลาออกจากหัวหน้าพรรค ประชาธิปัตย์ว่า ตนก็เพิ่งทราบข่าว โดยไม่ได้มีการบอกกล่าวล่วงหน้ามาก่อน แต่ยืนยันว่าในพรรคไม่ได้มีปัญหาขัดแย้งอะไร รักกันดี ทุกคนแต่การตัดสินใจลาออกครั้งนี้เป็นอย่างไรต้องไปถามนายเฉลิมชัยเอง แต่ยืนยันว่า หัวหน้าพรรคกรรมการบริหารพรรค ทุกคนมีความรักใคร่กันดี และตนเชื่อว่านายเฉลิมชัยก็เป็นคนหนึ่งที่รักพรรคประชาธิปัตย์ และทำงานให้กับพรรคมาโดยตลอด ซึ่งตนก็รู้สึกเสียดายและใจหายซึ่งที่ผ่านมานายเฉลิมชัย ก็ไม่ได้ส่งสัญญาณหรือบอกอะไร สำหรับขั้นตอนหลังจากนี้ จะดำเนินการอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า ก็ต้องดำเนินการตามข้อบังคับพรรคและตามกฎหมาย โดยต้องเรียกประชุมวิสามัญ เพื่อนเลือก หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคใหม่เมื่อถามว่าบทบาทของพรรคประชาธิปัตย์หลังจากนี้จะเป็นอย่างไรนั้น นายชัยชนะกล่าวว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องทำหน้าที่กันต่อไป ส่วนกรรมการบริหารพรรคก็มาเลือกคัดสรรกันใหม่ และหลังจากนี้ต้องรอดูว่าใครจะเข้ามาบริหารพรรค และกำหนดนโยบายทิศทางพรรคอย่างไร แต่ตนก็เป็นสมาชิกพรรคคนหนึ่งที่ยังยืนหยัด อยู่กับพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อถามว่าการที่นายเฉลิมชัย ลาออกตอนนี้ เป็นสัญญาณอะไรหรือไม่เนื่องจาก มีไทม์ไลน์ จะยุบสภา ภายใน สี่ เดือน จะไปสังกัดพรรคอื่นหรือไม่ ได้ชัยชนะกล่าวว่าอย่ามองเช่นนั้น เพราะตนเชื่อว่านายเฉลิมชัย […]

ผลักดัน “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว 7 คน กลับกัมพูชา

จันทบุรี 12 ก.ย. – ตม.ศรีสะเกษ ประสาน ตม.จันทบุรี ส่งตัว “นางเขื่อน” พร้อมครอบครัว รวม 7 คน กลับกัมพูชา หลังถูกกล่าวหาเป็นไส้ศึก และถูกชาวบ้านรวมตัวขับไล่ ทั้งยังพบอาศัยอยู่ในไทยอย่างผิดกฎหมาย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดศรีสะเกษ นำตัวนางเขื่อน ชาวกัมพูชา และสมาชิกครอบครัว รวมทั้งหมด 7 คน เดินทางไปที่ด่านผ่านแดนถาวรบ้านแหลม จ.จันทบุรี โดยมีเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจันทบุรี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รอรับตัวอยู่ก่อนแล้ว เพื่อผลักดันกลับประเทศกัมพูชา เนื่องจากที่ผ่านมา นางเขื่อน ถูกชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ รวมตัวกันขับไล่ หลังจากถูกกล่าวหาว่าเป็น “ไส้ศึก” คอยส่งข้อมูลเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของทหารไทยให้กับฝ่ายกัมพูชา และยังพบว่าทั้งหมดอาศัยอยู่ในประเทศไทยอย่างผิดกฎหมาย จึงดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายและระเบียบการต่างประเทศ เพื่อส่งตัวกลับภูมิลำเนา. – สำนักข่าวไทย