กทม. 9 ก.ค. – แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจและปอด ยืนยันเชื้อโควิด-19 สามารถแพร่เชื้อทางอากาศได้จริง หลักฐานที่ชี้ชัดของไทยคือ กรณีเซียนมวยที่เป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” แพร่เชื้อให้คนสนามมวยลุมพินีกว่า 50 คน และลักษณะการติดเชื้อส่วนใหญ่ที่เกิดจาก “แอร์บอร์น” ฝอยละอองขนาดเล็กกว่า 5 โมครอน
หลังนักวิทยาศาสตร์ 239 คน จาก 32 ประเทศทั่วโลก ส่งจดหมายเปิดผลึกถึงองค์การอนามัยโลก ยืนยันหลักฐานโควิด-19 เป็นแอร์บอร์น ละอองฝอยขนาดเล็กกว่า 5 ไมครอน สามารถแพร่เชื้อทางอากาศได้ เรียกร้องให้ทบทวนและออกคำเตือนใหม่
นพ.มนูญ ลีเชวงวงศ์ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคระบบทางเดินหายใจและปอด บอกว่าในไทยก็มีหลักฐานที่ชี้ชัดว่าโควิด-19 เป็นแอร์บอร์น จากกรณีเซียนมวยที่ติดเชื้อมาจากคนในครอบครัวที่กลับมาจากอิตาลี แล้วมาเป็น “ซูเปอร์สเปรดเดอร์” แพร่เชื้อให้คนในสนามมวยลุมพินีอีกกว่า 50 คน ก่อนแพร่เชื้อไปสู่วงกว้างในต่างจังหวัด
อีกเหตุผลที่ค้นพบคือ ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ส่วนใหญ่มีอาการไข้ ไอ เหนื่อย ซึ่งเป็นอาการทางเดินหายใจส่วนล่าง คือถุงลมในปอด มากกว่ามีอาการจากระบบทางเดินหายใจส่วนบน เช่น มีน้ำมูก คัดจมูก และเจ็บคอ แสดงให้เห็นว่าการติดเชื้อส่วนใหญ่เกิดจากแอร์บอร์น ละอองฝอยขนาดเล็กที่แพร่เชื้ออยู่ในอากาศ มากกว่าการติดเชื้อจากละอองฝอยขนาดใหญ่ หรือดรอปเลท ที่เกิดจากการสัมผัสเชื้อบนพื้นผิว
นพ.มนูญ บอกอีกว่าเชื้อโควิด-19 สามารถมีชีวิตอยู่ในอากาศได้เกือบ 3-4 ชั่วโมง แต่การที่จะทำให้ผู้รับเชื้อป่วยได้ขึ้นอยู่กับระยะเวลาและปริมาณของเชื้อโควิดในอากาศที่แต่ละคนหายใจเข้าไปด้วย ทุกสถานที่ปิด เช่น ผับ บาร์ สถานบันเทิง หรือห้องเรียน ห้องทำงานที่ใช้เครื่องปรับอากาศ จึงมีโอกาสเสี่ยงมากที่จะติดเชื้อทางอากาศ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดในตอนนี้คือ การสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และนี่ก็เป็นสิ่งที่นักวิทยาศาสตร์กว่า 30 ประเทศ พยายามเรียกร้องให้องค์การอนามัยโลกยอมรับว่าโควิด-19 ไม่ได้ติดต่อเฉพาะจากการไอจามหรือสัมผัสร่วมเท่านั้น แต่สามารถติดต่อทางอากาศได้ด้วย ซึ่งจำเป็นต้องมีคำเตือนและออกมาตรการป้องกันที่เข้มข้นขึ้น มากกว่าการสวมหน้ากาก ล้างมือบ่อยๆ และเว้นระยะห่างทางสังคม.-สำนักข่าวไทย