รร.แมนดาริน สามย่าน 9 ก.ค.-เครือข่ายเยาวชนฯเปิดผลสำรวจในช่วง อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ เพื่อคุมการระบาดโควิด-19 พบเยาวชน อายุ 15-19 ปี เล่นพนันออนไลน์เพิ่มขึ้น เสียเงินสูงสุด กว่า 1 แสนบาท เรียกร้องให้หน่วยงานบังคับใช้กฏหมาย ตรวจสอบ เอาจริงเอาจัง กับเครือข่ายพนันออนไลน์ให้หมดจากสังคมไทย
เครือข่ายเยาวชนลดปัจจัยเสี่ยง แถลงผลสำรวจพฤติกรรมของเด็กและเยาวชนกับการใช้สื่อออนไลน์และภัยจากพนันออนไลน์ในช่วง “อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ” และเวทีเสวนา “กักตัวเลี่ยงโควิด กลับเสี่ยงติดพนันออนไลน์”
นายสุรเชษฐ์ โพธิ์แสง รองเลขาธิการสถาบันยุวทัศน์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า นอกจากการแพร่บาดของเชื้อโควิด-19 ยังมีภัยร้ายอีกอย่างที่แฝงมาคือการติดพนันออนไลน์ ในระยะ3-4 เดือนที่ผ่านมา เครือข่ายเยาวชนได้สำรวจเว็บพนันออนไลน์ แบ่งเป็น2 ระยะ คือก่อนการแพร่ระบาดของโควิด-19 และหลังการแพร่ระบาด พบว่าในช่วงโควิด-19 มีเว็บพนันเพิ่มขึ้น เกือบ1เท่าตัว โดยตั้งแต่ 1ม.ค.-15 มี.ค.63 มีเว็บพนันจำนวน 240 เว็บไซต์ แต่ในช่วง หยุดอยู่บ้าน 16มี.ค.-31 พ.ค.พบว่ามีเว็บพนันออนไลน์เพิ่มถึง 200 เว็บไซต์ รวม 440 เว็บไซต์
และพบว่าเน็ตไอดอลและอินฟลูเอ็นเซอร์ ผู้ที่มีผู้ติดตามทางเฟซบุ๊กจำนวนมาก รับโปรโมทพนันออนไลน์อย่างกว้างขวางและอวดเงินในบัญชีจากการเล่นพนัน ทำให้เยาวชนที่ติดตามตกเป็นเหยื่อ และขณะนี้พบว่า ผู้เสียหายจากพนันออนไลน์ จำนวน 2.4 หมื่นคนที่รวมตัวกันตั้งกลุ่มเฟซบุ๊ก เพื่ออยากออกมาเรียกร้องในการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเครือข่ายพนันออนไลน์ และกลุ่มเหล่านี้ต้องการให้ข้อมูลช่วยเหลือคนที่ตกเป็นเหยื่อ และเข้าแจ้งความ แต่อยากให้เจ้าหน้าที่ไม่ดำเนินคดีเนื่องจากเป็นผู้เล่นมาก่อน โดยเครือข่ายเยาวชนได้ร่วมแจ้งและร้องเรียนปัญหาพนันออนไลน์ไปยังส่วนราชการต่างๆแล้ว และอยากให้จัดหาหน่วยงานรับผิดชอบเรื่องนี้อย่างจริงจัง
น.ส.เมธาวี เมฆอ่ำ กรรมการฝ่ายบริหาร สมาคมไอเซคผู้นำนักศึกษาระหว่างประเทศ กล่าวว่า จากการสำรวจพบว่า ในช่วงก่อนโควิด เด็กและเยาวชนส่วนใหญ่ใช้เวลาในแต่ละวันกับการท่องโลกออนไลน์ เฉลี่ย 6 ชั่วโมงขึ้นไป และพบว่า ในระหว่างออนไลน์พบเห็นโฆษณาชวนเล่นพนันหรือเสี่ยงโชค มากถึง ร้อยละ 70.06 โดยในช่วงอายุที่พบเห็นโฆษณาชวนให้มาเล่นพนันมากที่สุด คือ อายุ 15-19 ปี ผ่านช่องทางทางเฟซบุ๊กมากที่สุด ถึงร้อยละ 76.53 รองลงมาคือแอปพลิเคชันดูหนังฟังเพลง เล่นเกม ร้อยละ70.64 และ ไลน์ 32.50 โดยเมื่อพบเห็นโฆษณาพนันออนไลน์แล้วเข้าไปเล่นพนัน ถึงร้อยละ 13.24 แบ่งเป็น 5 ประภท คือยิงปลา , แทงหวย,เกมสล็อต ,บาคาร่า,ทายผลกีฬา และร้อยละ82.18 เสียมากกว่าได้ และพบว่า เด็กเยาวชน เสียมากที่สุดสูงสุดถึง 100,000 บาท เสียน้อยสุด 7,000 บาท
นายบี (นามสมมุติ) อดีตเยาวชนที่เคยเล่นพนันออนไลน์จนได้รับผลกระทบ กล่าวว่า 2-3 ปีที่แล้วตัดสินใจเลิกเล่นพนันออนไลน์ เนื่องจากมีปัญหาหนี้สินจำนวนมาก สูญเสียความสัมพันธ์กับคนในครอบครัวและเสียสุขภาพจิต เครียด เสียอนาคต จุดเริ่มต้นการเล่นพนัน คือเริ่มจากคาสิโน ออนไลน์ บาคาร่า ยิ่งเล่นยิ่งติด แรกๆคิดว่าจะเล่นเป็นรายได้เสริม ซึ่งจำนวนที่ได้สูงสุดหลักแสนต่อวัน แต่มีได้มีเสีย เคยเสียสูงสุดหลัก3-4 แสนต่อสัปดาห์ ซึ่งเงินนำมาเล่นพนันคือเงินที่ได้จากการเงินทำงานหลัก เริ่มเล่นช่วงอายุ22 ปี แรงใจหลักที่ทำให้เลิก คือครอบครัวสำคัญที่สุด ให้โอกาสปรับตัว เคลียร์หนี้สิน เป็นหนี้2-3 แสน
“การพนันสามารถเข้าถึงคนได้ทุกเพศทุกวัยเพราะตอนนี้ทุกคนมีโทรศัพท์ อยากให้ภาครัฐมาช่วยกำกับดูแล เพราะมีการโฆษณาชวนเชื่อได้ง่ายมาก เฟซบุ๊กเข้าถึงได้ง่ายที่สุด ช่วงโควิดยังเห็นคนใกล้ชิดเล่นอยู่จำนวนมาก มีตั้งแต่ ระดับ ม.ปลาย พร้อมฝาก หากไม่อยากสูญเสียทุกอย่าง อย่าเข้าไปตั้งแต่แรกดีที่สุด อย่าไปเชื่อโฆษณาชวนเชื่อต่างๆดีที่สุด” นายบี กล่าว
พ.ต.ต.ปกรณ์ ทองจีน นักวิชาการด้านอาชญาวิทยาและการบังคับใช้กฏหมาย กล่าวว่า ต้นตอของปัญหาพนันออนไลน์ และประสิทธิภาพการบังคับใช้กฏหมาย พนันออนไลน์ในปัจจุบัน ต้องสร้างความตระหนักรู้ถึงพิษพนันออนไลน์ และสร้างฉันทามติของสังคมว่าจะต้องปราบปรามให้หมดสิ้น เช่นเดียวกับการบังคับใช้กฏหมายในด้านอาชญกรรมด้านอื่นๆอย่างจริงจัง .-สำนักข่าวไทย