ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ 8 ก.ค.- “วัชระ” ยื่นนายกฯ ตรวจสอบทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ อ้างคำพูดอดีตประธาน สนช.ที่ระบุ มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้านบาท พร้อมขอให้สั่ง ปปง.ติดตามเส้นทางการเงิน
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ประชาธิปัตย์ เข้ายื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล เพื่อแจ้งเบาะแสการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ มี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือ
นายวัชระ อ้างคำพูดของ นายพรเพชร วิชิตชลชัย อดีตประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ที่ระบุว่า “มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้านบาท” ในการสืบพยานปากที่ 13 (ขอสงวนชื่อและนามสกุล) เมื่อวันที่ 2 ก.ค.ที่ผ่านมา ของจำเลยในคดีที่ อ.838/2561 นายชัชวาลย์ อภิบาลศรี อดีตสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือสนช. ได้ฟ้องคดีหมิ่นประมาทตน เรื่องการทุจริตงบ ICT ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ จำนวน 8,648 ล้านบาท
นายวัชระ กล่าวว่า พยานคนดังกล่าวได้ให้การต่อหน้าผู้พิพากษาศาลอาญา 4 ท่าน โจทก์ ทนายโจทก์ จำเลย และ ทนายจำเลย ในห้องพิจารณาคดี 904 ว่า คณะข้าราชการระดับสูงของสภาฯ ได้เข้าไปรับนโยบายจากนายพรเพชร เนื่องในโอกาสรับตำแหน่งประธาน สนช. โดยนายพรเพชรกล่าวถึงโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ว่า “อะไรก็ไม่พร้อม แต่ให้เดินหน้าต่อไป มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้าน”
“คำพูดดังกล่าวออกจากปากของผู้ที่มีตำแหน่งเป็นถึงประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ และกล่าวต่อหน้าคณะผู้บริหารสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรในขณะนั้นจำนวนไม่น้อยกว่า 4 คน จึงน่าเชื่อถือว่าต้องเป็นเรื่องจริง อีกทั้ง คำให้การของพยานก็ได้สาบานตนต่อหน้าศาลแล้ว จึงน่าเชื่อถือว่าต้องเป็นเรื่องจริงเช่นกัน” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวว่า ดังนั้น เพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติ และปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ฉบับปราบโกง จึงขอให้นายกรัฐมนตรีพิจารณาเร่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนเรื่องการทุจริตโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ว่าคำพูดของนายพรเพชรที่ว่า “มีเงินหล่นใต้โต๊ะ 500 ล้าน” เป็นความจริงหรือไม่ ? หากเป็นเรื่องจริง ใครคือคนทำเงินจำนวนมหาศาลนี้หล่น ใครเก็บที่เงินที่หล่นไว้ และการกระทำดังกล่าวผิด พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต และกฎหมายอาญาอื่นๆ หรือไม่ จะต้องดำเนินคดีอย่างเฉียบขาดต่อไป
นายวัชระ กล่าวว่า นอกจากนี้ ขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงิน 500 ล้านบาท สืบหาผู้ร่วมกระทำผิด และติดตามยึดทรัพย์กลับมาเป็นของแผ่นดิน เพราะเป็นเงินภาษีอากรของคนไทยทั้งชาติ
สำหรับโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่นี้มีวงเงิน 12,280 ล้านบาท ไม่รวมงบ ICT ที่ลดลงในสมัยรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ เหลือ 3,351 ล้านบาท จากที่สภาขอไป 8,648 ล้านบาทในสมัยรัฐบาล คสช.นอกจากนี้ บริษัทผู้รับเหมายังขอเงินค่าเร่งรัดงานก่อสร้างห้องประชุมสุริยัน-จันทรา อีก 215 ล้านบาท และฟ้องศาลปกครองกลางเรียกค่าเสียหายจากสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2563 เป็นเงิน 1,596,592,305.46 บาท .- สำนักข่าวไทย