กรุงเทพฯ 2 ก.ค. – “นิรุฒ” ประกาศลั่น!นำรถไฟไทยกลับมาเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐดีที่สุดในอาเซียนในปี 70 ชู 3 กลยุทธ์เน้นพัฒนาคน จับมือลาดกระบังสร้างโรงเรียนรถไฟระดับปริญาตรี ส่วนคนบุกรุกเขตทางรถไฟเจอแน่ ยอมไม่ได้ภายในปีนี้ลุยทุกพื้นที่จัดระเบียบ-สร้างรายได้ เล็งพื้นที่สถานีใหญ่ “ขอนแก่น-โคราช” ส่วนตลาดร่มหุบอันซีนเมืองไทย ยอมให้มีอยู่ แต่ขอจัดระเบียบสวยงามปลอดภัย ไม่ใช่โผล่หน้าออกนอกตัวรถเจอชายคาร่มตีหน้า
นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยถึงนโยบายและยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนองค์กร ว่า หลังจากรับตำแหน่งมีเป้าหมายที่จะเข้ามาฟื้นฟูปรับปรุง รฟท.ให้กลับมาเป็นผู้ให้บริการระบบรางของรัฐดีที่สุดในอาเซียนปี 70 ซึ่งการขับเคลื่อนได้วางยุทธศาสตร์หลักไว้ 3 ด้าน ประกอบด้วย 1.เพิ่มขีดความสามารถในการให้บริการขนส่งทางราง เพิ่มการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอีก 5 %รวมถึงการเพิ่มจำนวนผู้โดยสาร ซึ่งปัจจุบันมีผู้โดยสารประมาณ 35 ล้านคน แบ่งเป็นเชิงสังคม 20 ล้านคน และเชิงพาณิชย์ 10 ล้านคน นอกจากนี้ จะเร่งรัดดำเนินการในโครงการการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ เช่น โครงการก่อสร้างรถไฟทางคู่ โครงการระบบรถไฟชานเมืองสานสีแดง และส่วนต่อขยาย โครงการรถไฟความเร็วสูง กรุงเทพ-นครราชสีมา และโครงการรถไฟเชื่อม 3สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา)
2.การเพิ่มรายได้และลดค่าใช้จ่าย ซึ่ง รฟท.จะไม่หวังรายได้จากการเช่าที่ดินเพียงอย่างเดียว ขณะเดียวกันจะเพิ่มพันธมิตรทางธุรกิจต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน พัฒนาสร้างให้เกิดรายได้ บริหารต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ และการสร้างรายได้เสริมจากทรัพย์สินที่มีอยู่ ส่วนการลดค่าใช้จ่ายจะนำเทคโนโลยีเข้ามาบริหารจัดการ บูรณาการข้อมูลช่วยลดต้นทุนในการดำเนินงานและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ และ 3.ขับเคลื่อนและการยกระดับประสิทธิภาพการทำงานให้รถไฟเป็นองค์กรที่คนอื่นมองเข้ามาแล้วเป็นองค์กรที่ชาญฉลาด ไม่ล้าหลัง ไม่ทุจริต มีประสิทธิภาพทำงาน ซึ่งสิ่งสำคัญ คือ บูรณาการ เรื่องบุคลากรรถไฟเป็นหลัก
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ในส่วนของความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงนั้น ยอมรับว่าการก่อสร้างจะไม่เสร็จตามกำหนดเวลา คาดว่าภายใน 2-3 เดือนนี้จะได้ข้อสรุปเรื่องรูปแบบการเดินรถ และการขยายเวลาการก่อสร้าง เบื้องต้นคาดว่าหากขยายเวลาเพิ่มก็จะเสร็จเดือนพฤษภาคมปี 2564 ส่วนความคืบหน้าโครงการรถไฟทางคู่เฟส 2 อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยเฉพาะเส้นทางเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอให้ ครม.พิจารณาโดยแบ่งเป็น 3 สัญญา เนื่องจากก่อนหน้านี้ซูเปอร์บอร์ดเห็นว่าควรแบ่งสัญญา เพราะจะได้ประโยชน์สูงสุด ส่วนการเวนคืนจะทำคู่ขนานกันไป ส่วนเส้นทางบ้านไผ่-นครพนม ขณะนี้ ครม.อนุมัติและคาดว่าจะเริ่มเปิดประมูลทั้ง 2 เส้นปลายปีนี้
นอกจากนี้ ในส่วนของการพัฒนาบุคลากรรถไฟนั้น รฟท.มีโรงเรียนวิศวกรรมรถไฟ ซึ่งปัจจุบันได้มีการหารือกับสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เพื่อเข้ามาพัฒนาหลักสูตรให้ได้ตามมาตรฐานโดยหลักสูตรจะเป็นปริญญาตรี ซึ่งความร่วมมือนี้จะช่วยยกระดับคุณภาพบุคลากรคนรถไฟ โดยจะเปิดรับสมัครปี 2564 อีกทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการพัฒนาประเทศที่มุ่งทางระบบราง ขณะเดียวกันรถไฟถือได้ว่าเป็นแหล่งปฎิบัติที่ครบมากที่สุด
นายนิรุฒ กล่าวต่อว่า ส่วนการเข้ามาบริหารจัดการทรัพย์สินที่ดินของรถไฟ เพื่อเพิ่มมูลค่าขณะนี้ที่มีกว่า 20,000 ไร่ แต่มีรายได้จากการเก็บค่าเช่าเพียงปีละ 2,000-3,000 ล้านบาทเท่านั้น จากที่ดินทั่วประเทศกว่า 240,000 ไร่ หลังจากนี้จะเข้าไปดูและปรับการบริหารจัดการทรัพย์สินให้เพิ่มมูลค่ามากขึ้น ซึ่งจะเห็นเป็นรูปธรรมปีนี้ทั้งการปรับค่าเช่าบางพื้นที่ ลดขั้นตอนการบริหารจัดการ เป็นต้น โดยเฉพาะพื้นที่มีศักยภาพเส้นทางภาคตะวันออกเชื่อมต่อท่าเรือแหลมฉบัง สถานีรถไฟขอนแก่น สถานีรถไฟนครราชสีมา
ส่วนพื้นที่บุกรุกตามเขตทางรถไฟ ยอมรับว่ามีหลายพื้นที่ที่มีการบุกรุก และมีการจ่ายค่าเช่าที่ไม่เข้ารถไฟโดยตรง ซึ่งไม่สามารถยอมได้ ดังนั้น ต้องเข้าไปจัดระบียบ บริหารจัดการให้ชัดเจนและเป็นรูปธรรมขึ้น รวมถึงจะมีการประสานกับธนาคารกรุงไทย เพื่อให้เข้ามาจัดระบบการจ่ายเงินค่าเช่าผ่านธนาคารหรือผ่านแอปพลิเคชั่นเพื่อให้ผู้เช่าที่พื้นที่ของรถไฟจ่ายค่าเช่าผ่านแอปพลิเคชั่นตรง ทำให้เงินไม่รั่วไหล โดยเรื่องนี้จะเสนอบอร์ด รฟท.เร็ว ๆ นี้ ส่วนกรณีพื้นที่ตลาดที่อยู่ตามเขตทางรถไฟนั้น บางพื้นที่ต้องจัดระเบียบใหม่เนื่องจากไม่ปลอดภัยต่อการเดินรถไฟ ประกอบกับพื้นที่ชิดติดเขตทาง รางรถไฟ เช่น ตลาดคลองตัน ส่วนตลาดร่มหุบแม่กลองนั้น ถือเป็นอันซีนเมืองไทยจะยังให้คงมีอยู่ แต่ รฟท.จะเข้าไปจัดระเบียบให้เรียบร้อย รวมถึงความสะอาดด้วย แต่ยังคงต้องสอดคล้องกับวิถีชีวิตของประชาชนในพื้นที่.-สำนักข่าวไทย