ที่ประชุม สมช.มีมติต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ อีก 1 เดือน

ทำเนียบฯ  25 มิ.ย.-ที่ประชุม สมช.มีมติ ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน อีก 1 เดือน ถึงเดือนกรกฎาคม  เหตุจากคลายล็อกเฟส 5 เป็นกลุ่มกิจการเสี่ยงสูง เป็นช่วงล่อแหลม ต่อการแพร่ระบาด ระลอก 2 ย้ำนักธุรกิจที่จะเข้ามา ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจได้ 


พล.อ.สมศักดิ์ รุ่งสิตา เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) แถลงผลการประชุม สมช. ว่า ที่ประชุมเห็นชอบให้ต่ออายุพ.ร.ก.การบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน (พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ) ต่ออีก 1 เดือน ในเดือน กรกฎาคม เนื่องจาก การผ่อนคลายระยะที่ 5 เป็นสถานที่ล่อแหลมต่อการแพร่ระบาด ของโรคโควิด-19  และเป็นห่วงกลุ่มเป้าหมายเด็ก – ผู้สูงอายุ เนื่องจากในเดือนกรกฎาคม จะเริ่มเปิดภาคเรียน ทำให้เด็ก และผู้ปกครอง เข้ามารวมตัวกัน หากไม่ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะมีความยุ่งยากในการควบคุมการแพร่ระบาดได้ ซึ่งจะไม่มี มาตรการป้องกัน ที่ดีมากพอ รวมถึงควบคุมการแพร่เชื้อ ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ที่มากับคนไทยด้วย เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับนัยยะทางการเมือง และไม่กระทบต่อการดำเนินชีวิตของประชาชน 

เลขาฯ สมช. กล่าวว่า การต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ออกไปอีก 1 เดือน เพื่อให้เกิดความมั่นใจในกิจการต่าง ๆ ที่ได้ผ่อนปรนในระยะที่ 5 ที่เป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญ และสถานการณ์การแพร่ระบาดทั่วโลกก็ไม่ยังไม่ดีขึ้น พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ สามารถเสนอให้พิจารณายกเลิกได้ตลอดเวลา และสามารถเพิ่มความเข้มงวดได้เช่น หากพบแนวโน้มการแพร่ระบาดระลอกที่ 2  ส่วนการแข่งขันกีฬาที่มีผู้ชม จะอนุญาตแค่การถ่ายทอดสดเท่านั้น 


“หากเกิดการแพร่ระบาดรอบ 2 ซึ่งเราไม่ต้องการเห็น ถ้าไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะทำให้การบริหารจัดการมีความยุ่งยาก หรือหากจะใช้กฎหมายปกติต้องใช้ถึง 5 ฉบับอย่างพ.ร.บ.โรคติดต่อ ที่เราคุ้นก็เป็นการแก้เฉพาะจุดเท่านั้น เช่นการสั่งปิดร้าน เฉพาะบางพื้นที่ แต่หากเป็นพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ จะเป็นคำสั่งที่สามารถใช้ได้ทั่วประเทศ และการประกาศพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องในการพิจารณาใช้เฉพาะเรื่องการสาธารณสุขเท่านั้น ที่ผ่านมามีวันสำคัญ มีกลุ่มมาเคลื่อนไหวชุมนุมหลายกลุ่ม รัฐบาลก็ไม่ได้นำพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ เข้าไปดำเนินการ” พล.อ.สมศักดิ์กล่าว

เลขาฯ สมช. กล่าวว่า การท่องเที่ยวแบบ  travel bubble ยังไม่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ อย่างแน่นอน  แต่หากจะให้นักธุรกิจเดินทางเข้ามาในประเทศ จะต้องพิจารณาว่าธุรกิจดังกล่าว ต้องกระตุ้นเศรษฐกิจดีจริง และเดินทางมาจากประเทศที่เสี่ยงแค่ไหน และต้องตรวจโรคก่อนเดินทางเข้ามายังประเทศไทย รวมทั้ง จะจำกัดประเภทธุรกิจ ที่ส่งผลเชิงบวกกับประเทศ และจำนวนนักธุรกิจ รวมถึงตรวจสอบได้ตลอดเวลาที่อยู่ภายในประเทศไทย 

พล.อ.สมศักดิ์ กล่าวว่า ผลการประชุมวันนี้ จะนำเข้าเสนอที่ประชุม ศบค. ในวันจันทร์ ที่ 29 มิถุนายน และเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อเห็นชอบให้ขยาย ประกาศใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ ต่อไปอีก 1 เดือน ในวันอังคาร ที่ 30 มิถุนายน นี้.-สำนักข่าวไทย       


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล

เปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุน

นายกฯ ย้ำบทบาทของไทยในเวทีโลก ที่ดาวอส พร้อมเปิดรับการลงทุนสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ด้วยจุดแข็งด้านเกษตรกรรม Soft Power และอุตสาหกรรมที่มีความยั่งยืน มุ่งมั่นพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลและการค้าเสรี เร่งสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าที่เสรี เปิดกว้าง และยั่งยืน

ช้างหลุดเดินถนน

ระทึก! ช้างหลุดจากปางช้างเดินบนถนน รถเสียหาย 1 คัน

ระทึก! ควาญช้างและตำรวจเร่งติดตามช้างหลุดจากปาง เดินบนถนน ชนกระจกมองข้างรถยนต์เสียหาย 1 คัน สุดท้ายไปเจอเล่นน้ำอยู่ในลำธารอย่างสบายใจ