ทำเนียบฯ 22 มิ.ย.-ที่ปรึกษา รมว.ศึกษาฯ แจงมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโควิค-19 รองรับเปิดภาคเรียน 1 ก.ค.นี้ ยอมรับมาตรการจัดที่นั่งเรียนเว้นระยะหว่าง เป็นสิ่งที่ดำเนินการยาก โดยใช้วิธีสลับมาเรียนร่วมกับเรียนออนไลน์
นายวราวิช กําภู ณ อยุธยา ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวในการแถลงข่าวศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. ว่า กระทรวงศึกษาธิการกำหนดเปิดภาคเรียนที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2563 ในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้ แม้ว่าจำนวนวันเรียนจะลดลงจากในปีที่ผ่านมา แต่ได้ให้อิสระโรงเรียนในการบริหารจัดการสอนชดเชยเพื่อให้นักเรียนได้เรียนครบตามหลักสูตร
นายวราวิช กล่าวด้วยว่า ส่วนมาตรการในการดูแลเรื่องการป้องกันการแพร่ระบาดโควิค-19 ในโรงเรียนนั้น กระทรวงศึกษาธิการร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข จัดทำคู่มือการปฏิบัติสำหรับสถานศึกษาในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิค-19 ให้สถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศต้องปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวทั้ง 20 ข้อ จึงจะสามารถเปิดการเรียนการสอนได้ และมีอีก 24 ข้อที่ให้โรงเรียนดำเนินการเพิ่มเติม ซึ่งจากการประเมิณ พบโรงเรียนกว่าร้อยละ 90 ได้ดำเนินการผ่านเรียบร้อย ส่วนที่เหลือ คาดว่าจะดำเนินการได้ทันในช่วงเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 กรกฎาคมนี้อย่างแน่นอน
นายวราวิช กล่าวอีกว่า ขณะที่มาตรการระหว่างเปิดภาคเรียน ได้กำหนดแนวทางให้สถานศึกษาได้ปฏิบัติ อาทิ จุดคัดกรองสุขภาพ ตรวจสอบการใส่หน้ากากอนามัย การจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง การทำความสะอาดสถานที่ การกำหนดให้นอน ให้เท้าชนกัน สำหรับเด็กเล็ก เพื่อเลี่ยงการไอจามใส่กัน เพราะเวลานอน เห็นควรให้เด็กถอดหน้ากากอนามัย ทั้งนี้ยอมรับว่ามาตรการจัดห้องเรียนเว้นระยะห่างเป็นสิ่งที่ดำเนินการได้ยากที่สุด โดยมีโรงเรียน 31,000 แห่งที่สามารถดำเนินการได้ ซึ่งจะเปิดให้มีการเรียนการสอนตามปกติ ส่วนอีก 4,500 แห่งที่ไม่สามารถดำเนินการได้ ใช้วิธีสลับมาเรียนร่วมกับการเรียนออนไลน์
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวอีกว่า ทั้งนี้หากเปิดการเรียนการสอนแล้วพบผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อโควิค-19 จะมีการคัดแยกผู้ต้องสงสัย พักเรียน 14 วัน เจ้าหน้าสาธารณสุขจะดำเนินการตรวจหาเชื้อ หากพบว่าติดเชื้อจริง โรงเรียนจะปิดการเรียนการสอนเป็นเวลา 3 วัน และทำความสะอาดโรงเรียน กักตัวผู้ใกล้ชิดเป็นเวลา 14 วัน.-สำนักข่าวไทย