จักษุแพทย์แนะวิธีใช้ดวงตาให้ห่างไกล “โรคตา” ช่วงเรียนออนไลน์

สธ.19 มิ.ย.-จักษุแพทย์ ห่วงนักเรียนนักศึกษา เรียนออนไลน์ช่วงโควิด-19ใช้สายตาอยู่กับหน้าจอมาก แนะวิธีถนอมดวงตาให้ห่างไกลโรคตา อาทิกระพริบตาให้บ่อย ใช้น้ำตาเทียม พักสายตาทุกครึ่งชั่วโมง มองไกลๆหลับตา พักการทำงานทุก1-2ชั่วโมง และใช้แผ่นกรองแสงจากหน้าจอ ฯลฯ



นพ.วีรวุฒิ  อิ่มสำราญ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด-19 รูปแบบการเรียนการสอนของสถาบันการศึกษา ต้องมีการปรับเปลี่ยน ตั้งแต่การเลื่อนเปิดเทอมออกไป และมีวิธีการเรียนผ่านออนไลน์  ซึ่งมีความแตกต่างจากการเรียนในห้องเรียนมาก พ่อแม่ ผู้ปกครองต้องเข้ามามีบทบาทสำคัญ และการกำหนดแผนการเรียนเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเรียนเพราะการเรียนผ่านออนไลน์ต้องใช้เวลาอยู่กับหน้าจอเป็นเวลานานๆ ต้องใช้สายตาในการเพ่งมองดูข้อมูลหน้าจอ อาจมีผลให้เกิดอาการแสบตา ตาแห้ง ปวดตา   ซึ่งอาการดังกล่าวจะเกิดขึ้นชั่วคราว เมื่อพักตาอาจช่วยบรรเทาอาการ แต่หากเกิดอาการผิดปกติทางตา ควรพบจักษุแพทย์เพื่อรับการตรวจวินิจฉัย  รับคำแนะนำที่ถูกต้องเหมาะสม


นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเมตตาประชารักษ์(วัดไร่ขิง) กล่าวเพิ่มเติมว่าการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กระตุ้นให้เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาพัฒนาขึ้นกว่าเดิม  เมื่อสถานการณ์บังคับให้ต้องนำเทคโนโลยีมาใช้กับการศึกษาอย่างจริงจัง  โดยเริ่มเปิดให้โรงเรียนและครูใช้เว็บไซต์ หรือแอปพลิเคชันผ่านอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ แท็ปเล็ตหรือโทรศัพท์มือถือ ซึ่งเกิดจากการใช้สายตาเพ่งมองหน้าจอมากเกินไป แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อตาอย่างเฉียบพลัน แต่ทำให้เกิดความไม่สบายตา ระคายเคือง และเป็นปัญหารบกวนการใช้สายตาอยู่เสมอ ซึ่งหากมีปัญหาสายตาควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจหาความผิดปกติและรับการรักษาอย่างทันท่วงที 


อย่างไรก็ตามสามารถถนอมดวงตาได้ด้วยวิธีการ ดังนี้ กระพริบตาให้บ่อย เมื่ออยู่หน้าจอเพื่อป้องกันตาแห้ง หากมีอาการตาแห้งควรใช้น้ำตาเทียม เพื่อลดการระคายเคืองตา , ควรพักสายตาเป็นระยะทุก 20-30นาที ให้พักจากจอประมาณ 30-60 วินาที โดยการมองออกไปไกลๆ หรือหลับตาหากจำเป็นต้องอยู่หน้าจอนานเกิน30นาที , ควรพักการทำงานทุก1-2ชั่วโมงประมาณ 5-15 นาที , ใช้แผ่นกรองแสงจากหน้าจอหรือใส่แว่นกรองแสงปรับแสงหน้าจอให้พอเหมาะไม่สว่างเกินไป  

และไม่ควรทำงานในที่มืด จัดวางจอให้อยู่ในระยะพอเหมาะที่ตามองสบาย ไม่ต้องเพ่ง  โดยเฉลี่ยระยะจากตาถึงจอควรมีระยะ45-50 เซนติเมตร , รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเกิดจอประสาทตาเสื่อม  ได้แก่  ผักผลไม้ที่มีสีเหลืองส้มอาทิ แครอท ฟักทอง ผักใบเขียว เช่น คะน้า ปวยเล้งฯลฯ และดื่มน้ำให้เพียงพอเนื่องจากการดื่มน้ำบ่อยๆจะช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้แก่ดวงตา.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ฆ่าควักหัวใจ

รวบชายชาวจีนฆ่าโหดคู่ขา กรีดหน้าอก ควักหัวใจ-ปอด

ตำรวจรวบชายชาวจีน ก่อเหตุสะเทือนขวัญฆ่าขู่ขาหมกห้องน้ำอพาร์ตเมนต์ กลางเมืองพัทยา พบร่องรอยถูกกรีดหน้าอก ควักหัวใจ ปอดหายไปข้างหนึ่ง

อุทาหรณ์! จอดรถยนต์ติดเครื่องไว้ เจอขโมยขับหนีหาย

อากาศร้อนเป็นเหตุ หนุ่มสตาร์ทเครื่องเปิดแอร์รถยนต์จอดไว้ ก่อนลงไปซื้อของ เดินออกมาอีกที เจอคนขโมยรถ ขับหนีหายไปแล้ว

ดับแล้ว 8 ราย รถชนบนมอเตอร์เวย์ อัดก๊อปปี้พังยับ

เกิดอุบัติเหตุใหญ่ช่วงกลางดึก บนมอเตอร์เวย์ สาย 7 มุ่งหน้าชลบุรี รถเทรลเลอร์ 2 คัน กับเอสยูวีอีก 1 คัน คนในรถเอสยูวี เสียชีวิต 8 ราย

ข่าวแนะนำ

ญาติเศร้ารับร่าง ตร.เสียชีวิตจากเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ

ตั้งแถวรับร่างอย่างสมเกียรติ 2 ตำรวจเสียชีวิตจากเหตุเครื่องบินเล็กตกทะเลชะอำ ตั้งบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง และราชบุรี ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว ด้านพ่อของ “ร.ต.อ.จตุรงค์” เผยลางบอกเหตุก่อนเครื่องบินตก ลูกมาขอนอนค้างที่บ้าน รู้ข่าวแทบช็อก

“กล้าธรรม” ขอบคุณคะแนนเสียงชาวนครฯ ลั่นพร้อมพัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้

หัวหน้าพรรคกล้าธรรม ขอบคุณทุกคะแนนเสียงของชาวนครฯ เขต 8 ที่ให้โอกาสพรรคกล้าธรรม เข้ามารับใช้ ลั่นพร้อมช่วย “บิ๊กโอ” พัฒนาแก้ปัญหาให้คนใต้ เพราะเราคือครอบครัวเดียวกัน

“บิ๊กโอ” กล้าธรรม นำโด่งเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีฯ เขต 8

“บิ๊กโอ” ผู้สมัครจากพรรคกล้าธรรม นำโด่งทิ้งห่าง “ไสว” จากภูมิใจไทย แล้วกว่าหมื่นคะแนน ในการเลือกตั้งซ่อม สส.นครศรีธรรมราช เขต 8

ตำรวจได้เบาะแสสำคัญโจรชิงทอง กลางห้างฯ อุดรธานี

วงจรปิดเผยคนร้ายใช้เวลาไม่ถึง 30 วินาที ก่อเหตุชิงทองมูลค่ากว่าล้านบาท กลางห้างฯ จ.อุดรธานี ล่าสุดตำรวจได้เบาะแสสำคัญ ทั้งเส้นทางหลบหนี รวมถึงพาหนะที่คนร้ายใช้ก่อเหตุแล้ว