รัฐสภา 18 มิ.ย.-สภาฯ รับทราบรายงานผู้สอบบัญชี รายงานการเงินกองทุนประกันสังคม ขอประชาชนมั่นใจมีเงินพอดูแลสิทธิประโยชน์ผู้ประกันตน
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้(18 มิ.ย.) มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรเป็นประธานการประชุม ซึ่งพิจารณารับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนประกันสังคม สำนักงานประกันสังคมสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561 โดยมีสมาชิกอภิปรายอย่างกว้างขวางถึงประสิทธิภาพการบริหารงานในสำนักงานประกันสังคม พร้อมท้วงติงเรื่องการจ่ายเงินเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโรคโควิด -19
นายทศพล กฤตวงศ์วิมาน เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ชี้แจงว่า ในปี 2561 กองทุนประกันสังคมมีรายได้ทั้งสิ้นกว่า 262,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 กว่า 8,800 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 3.47 เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของเงินสมทบ เงินเพิ่มตามกฎหมายและเงินปันผล ขณะที่มีค่าใช้จ่ายทั้งสิ้นกว่า 93,000 ล้านบาท ซึ่งส่งผลให้ในปี 2561 กองทุนประกันสังคมมีรายได้สูงกว่าค่าใช้จ่ายสุทธิ
“สำหรับในช่วงสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สำนักงานประกันสังคมได้จ่ายเงินเยียวยาให้ผู้ใช้สิทธิ 1,600,000 ราย เป็นจำนวนเงินกว่า 11,200 ล้านบาท ตั้งแต่วันที่ 20 เมษายน 2563 คิดเป็นร้อยละ 98 ส่วนอีกร้อยละ 2 อยู่ระหว่างดำเนินการ นอกจากนี้ ยังดูแลสิทธิประโยชน์ให้ผู้ประกันตนทั้ง 16 ล้านรายให้ได้รับสิทธิประโยชน์ด้านเจ็บป่วย ทุพพลภาพ คลอดบุตรและเสียชีวิตด้วย รวมถึงประสานงานกับกระทรวงการคลังให้ติดตามจ่ายเงินเยียวยาให้ลูกจ้างกว่า 70,000 ราย ในสถานประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการสั่งปิดสถานที่ด้วย” เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าว
นายทศพล กล่าวว่า ในส่วนการลงทุนของกองทุนประกันสังคม จะพิจารณายุทธศาสตร์การลงทุนในแต่ละปี ซึ่งกฎหมายกำหนดให้ลงทุนหลักทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงไม่เกินร้อยละ 60 พร้อมยืนยันไม่ได้ถือหุ้นของบริษัทการบินไทย จำกัด(มหาชน) สำหรับสถานะของกองทุนฯ ในอนาคตยังมีความมั่นคงสูง แม้ว่าจะมีประชากรสูงอายุเพิ่มขึ้น แต่วัยแรงงานลดลง โดยกองทุนมีแนวทางแก้ไขคือผู้ประกันตนต้องจ่ายเงินสมทบมากขึ้นร่วมกับการลงทุนที่มีผลตอบแทนสูงเพียงพอ ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นว่ากองทุน ฯ ไม่มีปัญหาสภาพคล่องและยังสามารถจ่ายเงินให้กับผู้ใช้สิทธิประกันสังคมได้
จากนั้นที่ประชุมสภาฯ พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษา เรื่องแนวทางการป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ซึ่งคณะกรรมาธิการการป้องกันและบรรเทาผลกระทบจากภัยธรรมชาติและสาธารณภัยพิจารณาเสร็จแล้ว โดยนายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.จังหวัดพิษณุโลก พรรคก้าวไกล เสนอให้เร่งควบคุมภาคอุตสาหกรรมไม่ให้ปล่อยฝุ่นละอองเข้าสู่บรรยากาศเกินค่ามาตรฐาน พร้อมปรับปรุงมาตรฐานผังเมืองโดยแยกเขตอุตสาหกรรมและชุมชน อีกทั้งตั้งข้อสังเกตการร้องเรียนปัญหาฝุ่นละอองจากภาคประชาชน แต่หน่วยงานรัฐขาดความใส่ใจและไม่ตอบสนอง แก้ไขปัญหาไม่ทันสถานการณ์.-สำนักข่าวไทย