กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมการขนส่งทางรางและผู้ให้บริการรถไฟฟ้า หารือหน่วยงานสาธารณสุข เล็งคลายล็อกมาตรการให้ผู้โดยสารนั่งติดกันได้ และเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกินร้อยละ 70 รองรับช่วงเปิดเทอม คาดว่าผู้โดยสารจะหนาแน่นขึ้นอีก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (17 มิ.ย.) นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ อธิบดีกรมการขนส่งทางราง (ขร.) ได้หารือเตรียมการรองรับการกำหนดมาตรการดูแลผู้โดยสารในข่วงเปิดเทอมของนักเรียน นักศึกษาต้นเดือนกรกฎาคม 2563 ร่วมกับผู้ให้บริการทุกรายและกรมควบคุมโรค และศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
นายสรพงศ์ กล่าวว่า การหารือวันนี้ได้ข้อสรุปที่เป็นแนวคิด 3 เรื่อง คือ ทุกฝ่ายเห็นพ้องกันให้เสนอรัฐบาลคลายล็อกมาตรการเว้นระยะห่างในรถไฟฟ้า รถไฟชานเมือง เนื่องจากปัจจุบันมีผู้โดยสารกลับมาในระบบประมาณถึง 800,000 เที่ยวคนต่อวัน และคาดว่าหากเปิดเทอมจะมีผู้โดยสารเกินกว่า 1 ล้านเที่ยวคนต่อวัน หากคงมาตรการเดิมอาจทำให้เกิดการติดเชื้ออื่น ๆ เช่น ไข้หวัด จากการมีผู้โดยสารต้องยืนรอรอบบริเวณสถานีจำนวนมากในชั่วโมงเร่งด่วนได้
โดยสมควรกำหนดเพิ่มความหนาแน่นได้ไม่เกินร้อยละ 70 และกำหนดจุดยืนแบบหันหลังชนกัน ในรถ และอนุญาตให้นั่งในที่นั่งติดกันได้ จากเดิมหากเป็นมาตรการเข้มงวดจะได้เพียงร้อยละ 25 และขณะนี้สภาพบังคับในชั่วโมงเร่งด่วน ได้ดำเนินการจำกัดความหนาแน่นที่ร้อยละ50 เนื่องจากงานวิจัยทั่วโลกหากมีการเข้มงวด ในเรื่องการ คัดกรอง (กรองอุณหภูมิ) ป้องกัน (สวมหนากาก) และ ควบคุม (การบริการเจละแอลกอฮอล์ และการทำความสะอาด) จะไม่ปรากฏว่าพบผู้ติดเชื้อในระบบรถสาธารณะ รวมทั้งขณะนี้ประเทศไทยไม่พบการแพร่ระบาดในประเทศถึง 23 วันแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันยังต้องต้องเข้มงวด 3 ประเด็น คือ 1. ประเด็นด้านระบบการจัดการ เช่น กำหนดให้มี Safety manager ตรวจสอบ ความสะอาด ความหนาแน่น และการดูแลการบริการตามมาตรฐานสากล สาธารณสุขเสมอ 2. ประเด็นระบบการใช้บริการ คือ กำหนดให้ต้องสวมหน้ากาก 100% กำหนดห้ามการพูดกันในตู้โดยสาร กำหนดให้ยอมรับ การทำ Group release บ้างหากสภาพหนาแน่นในขบวน 3. ประเด็นการติดตามผู้โดยสาร ด้วยแอปฯ “ไทยชนะ” ควรใช้ เฉพาะในระบบรถไฟเดินทางเกินกว่า 1 ชม. เพราะผู้โดยสารรถไฟฟ้าจะใช้เวลาเฉลี่ยเพียง 8 สถานี ๆ ละ 3 นาที รวม 24 นาทีเท่านั้น จึงอาจไม่เหมาะที่จะใช้ ทั้งนี้ ทุกฝ่ายจะร่วมกันทำ Guideline แนวทางการปฏิบัติเพื่อป้องกัน ควบคุมการแพร่ระบาดสำหรับการโดยสารในระบบรางต่อไป
นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางรางพร้อมด้วยผู้ให้บริการทุกรายประสงค์จะทำ MOU กับโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ด้านการให้คำแนะนำ ติดตาม และตรวจสอบสภาพการแพร่ระบาดในรถไฟฟ้า รถไฟเสมอ เพื่อนำไปสู่การตรวจสอบที่ประชาชนสามารถวางใจได้ รวมทั้งกรมการขนส่งทางรางจะรายงานผลการหารือไปยังกระทรวงคมนาคม เพื่อพิจารณาเสนอศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) ปลดล็อกการเว้นที่นั่งในรถไฟฟ้า รถไฟต่อไป รวมทั้งกรมการขนส่งทางรางก็จะมีประกาศเรื่องการคลายล็อกมาตรการออกมา.-สำนักข่าวไทย