บทบาทสื่อกับการนำเสนอข่าวโควิด

กทม. 16 มิ.ย. – วิกฤติโควิด-19 เรื่องใหญ่ของโลกที่กระทบในทุกมิติทั้งสุขภาพ ชีวิต เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อม ข้อมูลกระแสข่าวที่ไหลบ่า สร้างผลกระทบในวงกว้าง สำนักข่าวไทย อสมท ร่วมแสดงบทบาทนำในการรายงานข่าวรับมือโควิด-19 อย่างเต็มศักยภาพ ติดตามในรายงานพิเศษ บทบาทสื่อกับการรายงานข่าวโควิด-19 ในโอกาสสำนักข่าวไทยมีอายุก่อตั้งครบ 43 ปีวันนี้ 


ก่อนปิดเมือง มีชาวอู่ฮั่น 5 ล้านคน เดินทางออกจากเมือง เป้าหมายหลักของการเดินทางไปยังต่างประเทศ คือ กรุงเทพฯ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ระบุหากแมทธิว ดีน ดาราชื่อดัง ไม่ได้ป่วยโควิด-19 จริง แล้วโพสต์ลงโซเชียล เข้าข่ายผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์


นี่เป็นหนึ่งในหลายประเด็นที่ อ.บรรยงค์ สุวรรณผ่อง ประธานกรรมการจริยธรรมวิชาชีพสื่อ สมาคมนักข่าววิทยุและโทรทัศน์ไทย ยกตัวอย่างการรายงานข่าวของสื่อมวลชนไทยในช่วงวิกฤติโควิด-19 ที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิด สับสน และตื่นตระหนกไปทั้งสังคม โดยช่วงแรกของการระบาด สื่อส่วนใหญ่มุ่งแต่แข่งขันขายข่าว โดยไม่ได้รับผิดชอบต่อวิธีการนำเสนอ ข้อมูลสำคัญจากทางการไม่ได้ถูกเผยแพร่ ทำให้เกิดความตระหนักรู้ ส่งเสริมแต่ความตระหนกตกใจ กระทั่งรัฐบาลต้องตั้งศูนย์ ศบค. รวมศูนย์เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารในทิศทางเดียวกัน


ในส่วนสำนักข่าวไทย อสมท ช่อง 9 MCOT HD ได้ให้ความสำคัญต่อการรายงานข่าวสถานการณ์โควิด-19 ในทุกช่องทาง สื่อโทรทัศน์ รายงานข่าวโควิด-19 จากทั้งในและต่างประเทศในทุกภาคข่าว โดยได้รับความร่วมมือจากองค์กรสื่อต่างประเทศ เช่น China Media Group, VOA ภาคภาษาไทย และ BBCไทย รายงานข้อมูลเชิงลึกจากพื้นที่เข้ามายังสำนักข่าวไทยอย่างต่อเนื่อง

ส่วนภายในประเทศนอกจากข่าวกระแสแล้ว ยังเจาะลึกในประเด็นสำคัญต่างๆ ทั้งในกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ การรักษา ความก้าวหน้างานวิจัย และปรากฏการณ์ในสังคม สนับสนุนข้อมูลให้กับรายการ “ร่วมใจ…คนไทย สู้ภัยโควิด-19” ที่ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ และ “ศูนย์ชัวร์ก่อนแชร์” ที่นำเสนอในข่าวภาคค่ำทุกวัน ตรวจสอบความจริงที่แชร์ในโลกโซเชียล และตรวจสอบข้อสงสัยในประเด็นที่เป็นกระแส

สื่อวิทยุทุกคลื่นของ อสมท เป็นอีกช่องทางการรายงานข่าวจากสำนักข่าวไทย รวดเร็ว ทันเหตุการณ์ แต่ต้องสร้างความรู้ความเข้าใจอย่างถูกต้อง ส่วนสื่อออนไลน์ นอกจากเกาะติดรายงานข่าวโควิด ผ่าน 9 ช่องทาง เช่น เว็บไซต์ ทวิตเตอร์ เฟซบุ๊ก และยูทูบ ยังนำเสนอข้อมูลสำคัญต่างๆ เช่น พัฒนาการของโรค แนวทางป้องกันและรักษา ผ่านอินโฟกราฟิกที่เข้าใจง่าย และไลฟ์สตรีมมิ่งการแถลงข่าวจาก ศบค.และสาธารณสุข 

ปีนี้สำนักข่าวไทยครบรอบ 43 ปี ก้าวเข้าสู่ปีที่ 44 ท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของข้อมูลข่าวสารในยุคดิจิทัล การทำหน้าที่ในสถานการณ์วิกฤติ สำนักข่าวยังคงบทบาท เป็นกลาง น่าเชื่อถือ มืออาชีพ และรับผิดชอบต่อสังคมในทุกช่วงเวลา. – สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้

Pope inaugurated the Holy Year on Christmas Eve on December 24, 2024

เปิดพระประวัติโป๊ปฟรังซิส

วาติกัน 21 เม.ย.- เว็บไซต์ข่าวโทรทัศน์ซีเอ็นบีซี (CNBC) ของสหรัฐ เปิดพระประวัติที่น่าสนใจ 10 ประการของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกัน ที่สิ้นพระชนม์วันนี้ (21 เม.ย.68) ขณะมีพระชนมายุ 88 พรรษา ประการที่ 1 ทรงเป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันและเยสุอิตคนแรก สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส มีพระนามเดิมว่า ฮอร์เก มาริโอ เบร์โกกลิโอ ประสูติวันที่ 17 ธันวาคม 2479 ที่กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา เป็นพระสันตะปาปาลาตินอเมริกันคนแรกของพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก แตกต่างจากผู้ที่เคยดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปาเกือบ 200 คน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากอิตาลี ทรงมาจากนอกทวีปยุโรปในฐานะพระสันตะปาปาพระองค์ที่ 266 และเป็นนักบวชคณะเยสุอิตคนแรกที่ขึ้นดำรงตำแหน่งพระสันตะปาปา ประการที่ 2  ทรงมีพื้นเพมาจากอิตาลี แม้ว่าสมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสประสูติในอาร์เจนตินา แต่ท่านมีมรดกทางชาติพันธุ์จากอิตาลี จากการที่บิดามารดาเป็นผู้อพยพชาวอิตาลี บิดาทำงานเป็นนักบัญชีในทางรถไฟ ขณะที่มารดาอุทิศตนให้กับการเลี้ยงลูกทั้ง 5 คน ประการที่ 3 ทรงศึกษาด้านเคมีและปรัชญา สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสศึกษาปรัชญาและมีปริญญาโทในด้านเคมีจากมหาวิทยาลัยบัวโนสไอเรส ทรงศึกษาในโรงเรียนเทคนิคและได้ฝึกอบรมเป็นช่างเทคนิคเคมี ก่อนเข้าเรียนที่โรงเรียนสอนศาสนาแห่งอัครสังฆมณฑลบิญญา เดโวโต […]