ทยอยกราบสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิมครั้งสุดท้าย ก่อนย้าย

กทม. 16 มิ.ย.-นิสิตจุฬาฯ และประชาชน ทยอยกราบสักการะศาลเจ้าแม่ทับทิมเป็นครั้งสุดท้าย หลังสำนักทรัพย์สินจุฬาฯ เตรียมย้ายไปอยู่ที่ใหม่ภายในอุทยาน 100 ปี ด้านผู้ดูแลศาลเจ้าขอความเห็นใจยังไม่ย้ายออก หลังมีหนังสือให้ย้ายตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา     


 


บรรยากาศที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลือง ภายในซอยจุฬาลงกรณ์ 30 หลังสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีหนังสือให้ผู้ดูแลศาลเจ้าและผู้ที่อาศัยอยู่ในบริเวณศาลเจ้าย้ายออกจากพื้นที่ภายในวันที่ 15 มิ.ย.63 เนื่องจากมีโครงการที่จะพัฒนาที่ดินบริเวณนี้เป็นหอพักนักศึกษาและบุคคลากรของจุฬาฯ จนทำให้เกิดกระแสคัดค้านจากชุมชนรอบข้างและนิสิตจุฬาฯบางส่วน  เนื่องจากศาลเจ้าแม่ทับทิม เป็นศาลเจ้าเก่าแก่เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของคนย่านนี้มายาวนาน  ส่งผลให้วันนี้คนเก่าแก่ย่านศาลเจ้าและนิสิตจุฬาฯ บางส่วน เดินทางมาสักการะศาลเจ้าอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งถ่ายรูปเป็นที่ระลึก  เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้เห็น ศาลเจ้าเก่าอีกแล้ว


นางเพ็ญประภา สวนส้ม ผู้ดูแลศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลือง รุ่นที่3  ซึ่งพักอาศัยอยู่ในศาลเจ้ามาตั้งแต่ปี 2538 กล่าวว่า สำนักงานฯมีหนังสือแจ้งมา 2 ฉบับ ตั้งแต่วันที่ 27พ.ค.63 ให้ขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกจากศาลเจ้า ภายในวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา เนื่องจากจะย้ายศาลเจ้าไปอยู่ในพื้นที่อุทยาน100ปี ของจุฬาฯ ซึ่งอยู่พื้นที่บริเวณใกล้ ๆ กัน รวมทั้งได้เรียกไปหารือหลายครั้ง โดยแจ้งว่าจะหาที่พักใกล้กับศาลเจ้าแห่งใหม่ให้กับผู้ดูแล แต่ตนมองว่าพื้นที่แห่งใหม่ที่จะให้ย้ายไปไม่เหมาะสมที่จะตั้งศาลเจ้า และที่พักที่สำนักงานฯจัดหาให้ราคาเช่าค่อนข้างแพง ซึ่งตนสู้ราคาไม่ไหวจึงอยากขอความเห็นใจ ไม่อยากย้ายไปที่อื่น อยากให้ตั้งศาลเจ้าไว้ที่เดิม เนื่องจากศาลเจ้าแม่ทับทิม เป็นศาลเก่าแก่สร้างมาตั้งแต่ ปี2513 และองค์เจ้าแม่ทับทิมอายุกว่า100ปี เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจให้คนในชุมชนมายาวนาน วันนี้ยังคงยืนยันว่าไม่ย้ายออก รอให้ทางเจ้าหน้าที่สำนักงานฯ มาเจรจาอีกรอบก่อน  


ทีมข่าวสำนักข่าวไทย ติดต่อไปยังสำนักงานจัดการทรัพย์สิน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับคำชี้แจงว่า การย้ายศาลเจ้าแม่ทับทิมไปแห่งใหม่ อยู่ไม่ไกลจากพื้นที่เดิม อยู่ในพื้นที่อุทยาน 100ปี จุฬาฯ ไม่ได้เป็นการรื้อถอนทิ้งทั้งหมด การย้ายจะมีนักอนุรักษ์เข้ามาประเมิน นอกเหนือจากอัญเชิญองค์เจ้าแม่ไปแล้วจะนำสถาปัตยกรรมเก่าแก่ เช่นประตู หน้าต่าง หรือ     สถาปัตย์สำคัญๆ ย้ายไปด้วย พร้อมทำพิธีบวงสรวงและพิธีอัญเชิญไปประดิษฐานที่ใหม่ และจะมีการจัดพิธีในวันเปิดศาลเจ้าใหม่อย่างยิ่งใหญ่ด้วย คาดว่าศาลเจ้าแห่งใหม่จะเสร็จภายในเดือนธันวาคม 2563 

นอกจากนี้ระหว่างจัดสร้างศาลเจ้าแห่งใหม่ ได้จัดหาที่พักชั่วคราวให้กับผู้ดูแลเจ้าศาล โดยไม่เก็บค่าเช่าเป็นเวลา 6 เดือน ในระหว่างที่ไม่มีรายได้ แต่หลังจากศาลเจ้าแล้วเสร็จจึงจะเก็บค่าเช่า แต่เป็นราคาที่ไม่แพง 

สำหรับพื้นที่เดิม จะมีการพัฒนาเป็นที่พักอาศัย 2 อาคาร อาคารหนึ่งเป็น ที่พักอาศัยสำหรับนิสิตจุฬาฯ เพื่อรองรับการเติบโตในด้านการศึกษาและอำนวยความสะดวกการเดินทาง สิ่งแวดล้อมที่ดี อีกอาคารจะเป็นที่พักอาศัยสำหรับบุคลากร  .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มพาลูก-เมียกลับจากฉลองวันเกิด รถยางระเบิดเสียหลักชนเสาไฟ ดับ 3 สาหัส 2

พ่อแม่ลูก 5 คน กลับจากฉลองวันเกิด รถกระบะยางระเบิดเสียหลักหมุนชนอัดเสาไฟฟ้า พ่อและแม่พร้อมลูกคนโตเสียชีวิตคาที่ ส่วนลูกคนกลางและคนเล็กอาการสาหัส

สุดโหด! ไล่แทงหนุ่มดับปมขัดแย้งยาเสพติด

วงจรปิดจับภาพชัด คนร้ายวิ่งข้ามถนนไล่แทงหนุ่มเสียชีวิต ชาวบ้านแตกตื่น ขณะที่ตำรวจรวบตัวทันควัน คาดปมขัดแย้งยาเสพติด

กยศ.เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน พ.ค.-มิ.ย.68

กยศ. เปิดทางปรับลดยอดหักเงินเดือน ช่วยเหลือชั่วคราว พ.ค.-มิ.ย.68 ให้นายจ้างลดยอดการหักเงินเดือน ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเริ่มผ่อนชำระใหม่เป็นรายเดือนในอัตราลดลง

ข่าวแนะนำ

“อัศนี” ประกาศชัยชนะนายกเล็กเชียงใหม่ หลังนับคะแนนผ่านไป 78%

เชียงใหม่ 11 พ.ค. – “อัศนี บูรณุปกรณ์” ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย ประกาศชัยชนะ หลังนับคะแนนผ่านไปกว่า 78% ทิ้งห่างคู่แข่งจากพรรคประชาชน 4,000 คะแนน นายอัศนี บูรณุปกรณ์ ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคเพื่อไทย พร้อมผู้สนับสนุน ต่างปรบมือแสดงความดีใจ หลังการนับคะแนนอย่างไม่เป็นทางการผ่านไปเกินร้อยละ 78 ได้คะแนนกว่า 17,000 คะแนน ทิ้งห่างนายธีรวุฒิ แก้วฟอง จากพรรคประชาชน กว่า 4,000 คะแนน พร้อมประกาศชัยชนะ โดยขอบคุณทุกคะแนนเสียง รวมทั้งพรรคเพื่อไทย และนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เชื่อว่าชัยชนะครั้งนี้มาจากความใกล้ชิดประชาชนในพื้นที่ ยืนยันเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ไม่ใช่เก้าอี้ที่สืบทอดของบ้านใหญ่บูรณุปกรณ์ แต่มาจากการทำงานใกล้ชิดประชาชนจนมีความเชื่อมั่น ยืนยันพร้อมเดินหน้านโยบายเร่งด่วนใน 100 วันแรก เร่งป้องกันปัญหาน้ำท่วม เพราะเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว เมื่อถามว่า หนักใจกับการถูกร้องเรียนหลังเลือกตั้งหรือไม่ นายอัศนี ยืนยันว่า ทีมงานของตนมั่นใจว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง และพร้อมจะดูแลพี่น้องประชาชนต่อไป.-713-สำนักข่าวไทย

เฮลั่น “ธัญญก้าวหน้า” ชนะยกทีม เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี

ปทุมธานี 11 พ.ค. – นับคะแนนเสร็จสิ้นแล้วอย่างไม่เป็นทางการ เลือกตั้งเทศบาลธัญบุรี จ.ปทุมธานี “นายกเบี้ยว” ประกาศลั่น “ธัญญก้าวหน้า” คว้าชัยชนะยกทีม “ยุพเยาว์” นั่งนายกเทศมนตรี ส่วน “ลูกพีช” ได้เป็น สท. -สำนักข่าวไทย

กกต.พอใจภาพรวมเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศ

11 พ.ค. – กกต.พอใจภาพรวมการเลือกตั้งเทศบาลทั่วประเทศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย หวังมีผู้มาใช้สิทธิตามเป้า 70% พร้อมกำชับ จนท.ขานคะแนนให้ชัด และเตรียมแผนเผชิญเหตุกรณีฝนตก-ไฟดับ นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง กล่าวถึงการลงพื้นที่ตรวจดูการใช้สิทธิของประชาชน ในการใช้สิทธิเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี พื้นที่เพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ ภาพรวมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ขณะที่สถานการณ์ทั่วประเทศที่ได้รับรายงานพบบางจังหวัดมีข่าวซื้อเสียงได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบ ไม่พบตามที่มีการแจ้ง และไม่น่าจะส่งผลกระทบให้ต้องเลือกตั้งใหม่ ประธาน กกต. เผยในการเลือกตั้งตรวจดูตามหน่วยเลือกตั้ง ได้กำชับกรรมการประจำหน่วยเลือกตั้งเรื่องการนับคะแนน เพื่อหลีกเลี่ยงการร้องเรียนว่าขานคะแนนไม่ชัด หรือไม่ได้ยิน แสงสว่างน้อย จึงขอให้ขานคะแนนช้าๆ ชัดๆ เพื่อไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เกิดความสงสัย และหากมีฝนตกก็ต้องมีแผนเผชิญเหตุ โดยเฉพาะหากไฟฟ้าดับ ส่วนผู้ใช้สิทธิจะมากกว่าครั้งที่แล้ว โดยครั้งนี้ตังเป้าไว้ร้อยละ 70 เพราะดูจากการมาใช้สิทธิตลอดทั้งวันเป็นไปด้วยความคึกคัก แต่ในแต่ละจังหวัดจะไม่เท่ากัน ขณะที่การนับคะแนน หลังปิดการลงคะแนนเมื่อเวลา 17.00 น. ที่ผ่านมา กรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง โรงเรียนหัวหินวิทยาคม ซึ่งมี 6 หน่วยเลือกตั้ง เจ้าหน้าที่แจ้งหมดเวลาปิดการลงคะแนน และเริ่มการนับคะแนนทันที โดยเป็นการนับคะแนนนายกเทศมนตรี และมานับคะแนนสมาชิกสภาเทศบาล ท่ามกลางตัวแทนผู้สมัครมาเฝ้าสังเกตการณ์ สำหรับการเลือกตั้งเทศบาลมีจำนวน 2,463 แห่ง และหน่วยเลือกตั้งทั้งหมด […]

เร่งล่ามือฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์ม

ตรัง 11 พ.ค. – เร่งล่าคนร้ายโหดฆ่าเผานั่งยาง 4 ศพ กลางสวนปาล์มใน อ.สิเกา จ.ตรัง ล่าสุดตำรวจรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว วันนี้ (11 พ.ค. 68) เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สิเกา จ.ตรัง เข้าตรวจสอบภายในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่ง พื้นที่หมู่ 1 หลังได้รับแจ้งมีเหตุฆ่าเผานั่งยาง ที่เกิดเหตุเป็นสวนปาล์มน้ำมัน สภาพรกทึบ ห่างจากถนนสายตรัง-สิเกา ไปตามถนนลูกรังกว่า 5 กม. พบเศษยางรถยนต์นับสิบเส้น และพบชิ้นส่วนคล้ายเศษเนื้อและอวัยวะของมนุษย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน และหน่วยกู้ภัย เข้าเก็บชิ้นส่วน พบร่างมนุษย์ในกองเถ้าถ่าน 3 ร่าง จึงส่งชันสูตรหาร่องรอยหลักฐานที่เกี่ยวข้อง หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตรัง พร้อมเจ้าหน้าที่กองปราบฯ เจ้าหน้าที่ สภ.สิเกา ฝ่ายสืบสวน และฝ่ายปกครอง ร่วมตรวจพื้นที่คลี่คลายคดีและเก็บพยานหลักฐาน โดยในที่เกิดเหตุเป็นร่องสวนปาล์มติดกับขนำร้างคอนกรีตมุงกระเบื้อง ซึ่งเจ้าของสวนสร้างเอาไว้ให้คนงานหลบแดด แต่ไม่มีผู้พักอาศัย พบร่องรอยกองเลือด ปลอกกระสุน แกลลอนน้ำมัน จึงเก็บรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้เดินตรวจสอบบริเวณโดยรอบ […]