กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- มีกว่า 30,000 โครงการ ที่ยื่นขอใช้เงินตาม พ.ร.ก.ฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้าน แต่วงเงินที่ยื่นมาสูงกว่าเท่าตัว บางโครงการถูกวิจารณ์ว่าไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ มีเรื่องการเมืองแอบแฝง จึงมีข้อเสนอให้มีกระบวนการตรวจสอบคู่ขนาน ติดตามจากรายงาน
หลังเปิดให้ยื่นโครงการเพื่อขอใช้เงินกู้ตาม พ.ร.ก.ในส่วนของการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม 400,000 ล้านบาท กับสภาพัฒน์ ล่าสุดมีตัวเลขกว่า 34,000 โครงการ วงเงินกว่า 800,000 ล้านบาท ซึ่งมากกว่าเท่าตัว
หลายคนกลัวว่า โครงการที่เสนอไม่ตรงกับวัตถุประสงค์ นำโครงการเก่ามาตัดแปะหรือปัดฝุ่น ไม่เกี่ยวกับการฟื้นฟูจากวิกฤติโควิด-19 ซึ่งเห็นได้จากตัวอย่างหลายโครงการที่เสนอมามากกว่า 70% ไม่ตรงตามวัตถุประสงค์ เช่น โครงการก่อสร้างถนน ประปา โครงการที่ใช้เครื่องจักรเป็นตัวก่อสร้าง ที่ควรอยู่ในงบประมาณปกติ เพราะผู้ที่จะได้รับเงินก็คือผู้รับเหมาไม่เกิดการจ้างงาน และยังมีโครงการซื้อกล้อง CCTV ทำเงินออกนอกประเทศอีกกว่า 90%
นักวิชาการมองว่า คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้เงินกู้ ต้องพิจารณาโครงการที่ประชาชนได้ประโยชน์เป็นที่ตั้ง ควรมีกระบวนการตรวจสอบความโปร่งใส แม้จะหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะมีเรื่องการเมืองแอบแฝง ไม่เช่นนั้นอาจเกิดแรงกระเพื่อม หากโครงการกระจุกตัว
ด้าน ป.ป.ช.ออกโรงตั้งการ์ดรับ โดยตั้งทีมงานศึกษาแผนงานใช้เงินกู้ หากมีผู้ร้องจะดำเนินการทันทีแบบฟาสต์แทร็ค
หลังปิดรับข้อเสนออย่างเป็นทางการรอบแรกวันนี้ จะมีการวิเคราะห์และเปิดฟังความคิดเห็นจากหลายภาคส่วน ก่อนที่คณะกรรมกลั่นกรองโครงการจะคัดเลือกเสนอคณะรัฐมนตรีอนุมัติ และดำเนินโครงการ ซึ่งคงต้องรอติดตามว่าเงินกู้ 400,000 ล้านบาท จะเป็นไปตามวัถตุประสงค์ที่ต้องการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิดหรือไม่.-สำนักข่าวไทย