สุราษฎร์ธานี 15 มิ.ย.- ครูสอนดำน้ำเกาะเต่าเล่านาทีพบฉลามวาฬบาดเจ็บถูกเชือกรัดโคนหาเป็นแผลลึก เผยว่ายเข้าหาถึง 3 รอบ เหมือนขอให้ช่วย แต่ใช้มีดตัดเชือกแล้วไม่สำเร็จ ก่อนฉลามวาฬว่ายหายไป วอนเรือทัวร์-เรือประมงร่วมแจ้งเบาะแส ด้านผู้ว่าฯ สุราษฎร์ธานี เร่งประสาน ทช.ส่งผู้เชี่ยวชาญช่วยเหลือ
กลุ่มครูสอนดำน้ำแบนส์ไดวิ่งเกาะเต่า อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี ที่ลงสำรวจบริเวณจุดดำน้ำหินใบ (Sail Rock) ทิศใต้ของเกาะเต่า เมื่อวันที่ 13 มิ.ย.ที่ผ่านมา พบฉลามวาฬ (Whale Shark) ความยาวกว่า 3 เมตร ถูกเชือกรัดบริเวณโคนหางและมีบาดแผลเจ็บที่รอยเชือก คาดว่าเชือกรัดติดมาหลายวันแล้ว เนื่องจากสภาพเชือกมีตะไคร่เขียวและมีเพรียงทะเลเกาะติดเชือก
นางพรรณี แมคคาที (Phannee Mccarthy) ครูสอนดำน้ำประสบการณ์เกือบ 20 ปี เล่าว่า ขณะนั้นเวลาประมาณ 11.00 น. เป็นช่วงดำน้ำรอบที่ 2 กัปตันเรือแจ้งว่ามีฉลามวาฬอยู่ข้างเรือ จึงลงไป 4-5 คน เห็นฉลามวาฬถูกเชือกรัดบริเวณโคนหาง ตอนแรกไม่กล้าเข้าช่วย จึงดำน้ำอยู่สักพักและเห็นฉลามวาฬว่ายเข้ามาหา 2 รอบ เหมือนขอความช่วยเหลือ จึงพยายามใช้มีดประจำตัวนักดำน้ำช่วยตัดเชือกด้วยความระมัดระวัง ขณะเดียวกันก็ต้องระวังหางฉลามวาฬที่โบกสะบัดไปมาไม่ให้ฟาดใส่ตัวเอง โดยพยายามเข้าไปตัดเชือกอยู่หลายครั้ง แต่ไม่สำเร็จ ตัดได้เพียงครึ่งเดียว เพราะเชือกหนา ประกอบกับมีดเล็กเกินไป และฉลามวาฬว่ายเคลื่อนไหวตลอดเวลา
“พอน้องว่ายวนมาหารอบที่ 3 เลยตัดสินใจช่วย พยายามตัดแล้ว แต่ตัดได้เกือบครึ่ง มีดที่ติดตัวไปเป็นอันเล็ก ถ้ามีมีดที่ใหญ่และคมกว่านี้น่าจะตัดออกได้ และตอนนั้นอากาศในถังออกซิเจนใกล้หมด พยายามว่ายตามหาอีกที ก็หาไม่เจอ จึงต้องรีบขึ้นจากใต้น้ำ คิดว่ายังอยู่ในพื้นที่ระหว่างหินใบเกาะเต่า-ชุมพร เพราะยังไม่โตเท่าไหร่”
นางพรรณี กล่าวอีกว่า เป็นห่วงเชือกที่ยังติดหางฉลามวาฬ เพราะอาจจะเป็นอันตรายและเชือกเริ่มรัดเข้าไปลึกถึงเนื้อแล้ว ขอฝากเรือประมง เรือนำเที่ยวและแท่นขุดเจาะ หากพบเห็นฉลามวาฬช่วยแจ้งพิกัดให้กับเจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเข้าไปช่วยเหลือ
ด้านนายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี กล่าวว่า ได้รับแจ้งจากผู้ประกอบการดำน้ำเกาะเต่าแล้วด้วยความเป็นห่วง จึงประสานกับกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง เพื่อขอสนับสนุนผู้เชี่ยวชาญด้านสัตว์ทะเลเข้าตรวจสอบหาทางช่วยเหลือ โดยทีมครูดำน้ำเกาะเต่าพร้อมเข้าร่วมดำเนินการด้วย เพราะฉลามวาฬถือเป็นสัตว์ทะเลที่ควรอนุรักษ์.-สำนักข่าวไทย
ขอบคุณภาพ : “ครูพรรณี”
