“อรรถพล”กับภารกิจนำ ปตท.ร่วมขับเคลื่อนประเทศ



กรุงเทพฯ 13 มิ.ย. –ซีอีโอ ปตท.
คนที่ 10
อรรถ​พล ฤกษ์พิบูลย์”
 กับภารกิจ ขับเคลื่อน ปตท.ระบบนิเวศน์ด้านพลังงานของประเทศ
ให้สอดคล้องกับการการเปลี่ยนแปลง ด้วยกลยุทธ์ 
 
 “PTT by
PTT


 

            อรรถ​พล ฤกษ์พิบูลย์”  ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน
)  คนที่ 10 โชว์วิสัยทัศน์ต่อสื่อครั้งแรกเมื่อ 12 มิ.ย.63 เปรียบ ปตท.เป็นต้นไม้ใหญ่เป็น
Platform
ที่หลายส่วนมาเกาะ หรือเกี่ยวข้อง
ดังนั้น การขับเคลื่อน ก็ต้องโตไปกันพันธมิตร ทุกภาคส่วน ทั้งในและต่างประเทศ  
win-win ทุกฝ่าย ด้วยPartnership&platform เช่นธุรกิจก็ดู Solution ทั้งvalue chain การปรับเปลี่ยนขับเคลื่อนทุกทุกด้าน
ทุกธุรกิจจะเกิดขึ้นให้ไวต่อการเปลี่ยนแปลง จะมีอย่างต่อเนื่อง

 


         
ธุรกิจของ ปตท. คือ Ecosystem
ด้านพลังงานของประเทศ ปตท.เป็นผู้ดูแลและต้องปรับเปลี่ยน Ecosystem นี้ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงของโลก
และจะต้องเป็นพลังขับเคลื่อนการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ  ..การทำหน้าที่ ในตำแหน่ง
CEO ปตท.ภาระหน้าที่จะต้องหลอมรวมจิตวิญญาณ
ของพนักงาน ของผู้คน ของผู้มีส่วนได้เสียที่จะทำงานร่วมกัน ให้ก้าวข้ามผ่านพ้นการเปลี่ยนแปลง
สร้างความไว้วางใจ นำมาซึ่งความผูกพัน ความสามัคคี และก้าวสู่ความสำเร็จร่วมกัน”

          

            “อรรถพล” หรือ คุณโด่ง เป็นลูกหม้อ ปตท. เริ่มทำงานในตำแหน่งวิศวกร ปี 2532
และขึ้นมาสู่ระดับบริหารหลายตำแหน่ง จนได้รับการคัดเลือก มาเป็น
CEO ช่วง การระบาดCovid-19 เศรษฐกิจติดลบทั่วโลก  หุ้นตก ราคาน้ำมันร่วงอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน
 ผลประกอบการติดลบ โดย กลุ่ม ปตท.ทั้งกลุ่ม
ขาดทุนสตอกน้ำมันไตรมาส 1/63 ถึง 7 หมื่นล้านบาท
 ปตท.ขาดทุนสุทธิ 1.5
พันล้านบาท   เป็นการซ้ำเติม
ความท้าทายเดิมของธุรกิจปิโตรเลียม จากที่ โลกกำลังเปลี่ยนผ่านการใช้เชื้อเพลิง ไปสู่
 
New Energy​  ไปสู่พลังงานทดแทน  ตามยุค
disruptive
technology
ดังนั้น น้ำผึ้งพระจันทร์​
คงไม่มีให้ดื่ม มีแต่ฝีมือต้องแสดงให้เห็น..

      องค์กร​ใหญ่​อย่างนี้ ทั้ง กลุ่มปตท.สร้างรายได้แก่ประเทศ เทียบเท่า 13% ของGDP มูลค่าหุ้นปี62 มีมูลค่าอันดับ1ในตลาดหลักทรัพย์
2.1ล้านล้านบาท และตั้งแต่ปี44-62 หรือหลังกระจายหุ้นเป็นต้นมา ปตท.สร้างรายได้รัฐทั้งรูปเงินปันผลและภาษีไปแล้ว9.6แสนล้านบาท … ใครใครก็อยากมาปฏิสัมพันธ์ด้วย ทั้งแง่ การเมือง NGO ธุรกิจ ประชาชน ประชาสังคม.. จะสร้างสมดุลย์ ( Balance
) อย่างไรให้เหมาะสม..โลกยุคใหม่
ยุคดิจิทัล​ เงินใต้โต๊ะ​ คงไม่มี มีแต่เงินทอน…จะป้องกันอย่างไร

 

        “ภารกิจ ปตท.
ยังคงต้องรักษาความเข้มแข็งของธุรกิจหลักและสร้างธุรกิจใหม่แทนที่การเติบโตในรูปแบบเดิม
โดยผมมุ่งหวังที่จะให้กลุ่ม ปตท. เป็นองค์กรด้านพลังงานของประเทศ
และเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศไทยให้ก้าวผ่านการเปลี่ยนแปลง
โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่ทุกภาคส่วน
มุ่งยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
พร้อมพัฒนาสังคมและยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทย ตามแนวคิดที่เรียกว่า
PTT หรือ Powering Thailand’s
Transformation”..
ซีอีโอ ปตท.ระบุ

           ซีอีโอ “อรรถพล” ชี้แจงว่า จะใช้ กลยุทธ์ PTT by
PTT
ขับเคลื่อน
 แนวคิด
  Powering Thailand’s Transformation  ซึ่งจะต่อยอดการดำเนินงานจากการสร้างความเข้มแข็งจากภายในผสานด้วยการเปิดกว้างทางความคิด
รับบริบทจากภายนอก (
inside-out &
outside-in)
เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคและความคาดหวังของผู้มีส่วนได้เสีย
 ประกอบด้วย

         Partnership and Platform เน้นการดำเนินธุรกิจด้วยการสร้างพันธมิตรและพัฒนาธุรกิจของปตท.ให้มีลักษณะเป็นแพลตฟอร์มากกว่าการเป็นผู้ผลิตสินค้าและจำหน่าย
, Technology for All เทคโนโลยีที่เกิดจากการผสมผสานด้วยความรู้ความเชี่ยวชาญ
นวัตกรรม และดิจิทัล และ
Transparency
and Sustainability
สร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ

          แนวบริหารจัดการระยะยาวนั้น
ยุทธศาสตร์ของกลุ่มธุรกิจ จัดแยกเป็น 3 กลุ่มหลัก

           1.ธุรกิจขั้นต้น  ( Upstream)  มุ่งสู่การสร้างห่วงโซ่อุปทานธุรกิจก๊าซธรรมชาติเหลว
(
LNG) หรือ LNG Value Chain ที่จะมองถึงการพัฒนาตั้งแต้ต้นไปถึงการสร้างโรงไฟฟ้า  Gas to Power  โดยในส่วนของธุรกิจบมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม
(
PTTEP) จะเน้นการขยายในธุรกิจก๊าซฯเป็นหลักเพราะก๊าซฯยังเป็นเชื้อเพลิงสำคัญในช่วงเปลี่ยนถ่ายเทคโนโลยีพลังงานที่คาดว่าจะใช้เวลา
20 ปี
ซึ่งจะต้องพัฒนาต้นทุนให้ต่ำที่สุดเพื่อสร้างขีดความสามารถทางการแข่งขัน

              ส่วนธุรกิจก๊าซฯ เน้นการเป็น Regional Hub เน้นเรื่องการตลาดนำเข้าส่งออกในอาเซียน
 และขายโซลูชันแก่ลูกค้าทั้งในและต่างประเทศแบบครบวงจน
และใช้ศักยภาพ ปตท.เจรจาจากผู้ค้าแอลเอ็นจีทั่วโลกก็จะ สามารถนำเข้าได้ในราคาที่ถูก
 ก็จะทำให้ลูกค้าผู้ใช้ก๊าซฯจากปตท.ไม่ลดลงไป  ในขณะที่ กิจก๊าซฯและไฟฟ้า
ต้องมีการปรับโครงสร้างเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในอนาคตด้วย
ซึ่งในส่วนของธุรกิจไฟฟ้าก็จะรุกในต่างประเทศเพิ่มขึ้น เพราะ
ในประเทศความต้องการไฟฟ้าไม่ขยายตัว  

         2.ธุรกิจขั้นปลาย (Downstream) ในส่วนของโรงกลั่นน้ำมันต้องวางตัวให้เป็นลำดับต้นของอุตสาหกรรมเพื่อที่จะให้สามารถยืนอยู่ได้จนรายสุดท้าย
เพราะยอมรับว่าราคาน้ำมันผันผวนอย่างหนัก
มองว่าปีนี้แม้ราคาน้ำมันดิบตลาดโลกจะขยับขึ้นมาแล้ว สุดท้ายก็คงจะยืนอยู่ประมาณ
40 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล  ด้านธุรกิจปิโตรเคมีต้องแข่งขันได้แม้จะเผชิญวัฏจักรขาลง
โดยต้องเน้นสินค้ามูลค่าเพิ่มและ
Specialty   รวมทั้งในภาวะเช่นนี้ก็ต้องมองถึงโอกาสการซื้อกิจการควบคู่กันไป
พร้อมทั้งมองต่อยอดในสินค้ากลุ่มไบโอเคมิคอลด้วย,ธุรกิจเทรดดิ้งจะมีบทบาทสำคัญในการสร้างความมั่นคงให้กับประเทศและการสร้างรายได้จากการทำธุรกิจ
 , ด้านธุรกิจน้ำมันและค้าปลีกนั้น
จะมุ่งสร้างแบรนด์คนไทยไปขยายในต่างประเทศ ในรูปพาเอสเอ็มอีไทย
และธุรกิจที่ไม่ใช้น้ำมัน (
Non-oil ) เติมโตไปพร้อมกัน

         3 ธุรกิจนวัตกรรมใหม่ รับ NEW S-Curve

 พัฒนา พลังงานใหม่ พลังงานทดแทน
โดยมองให้ครบไปทั้งห่วงโซ่อุปทานของธุรกิจไฟฟ้า,ธุรกิจโลจิสติกส์
การร่วมทุนกับสตาร์ทอัพต่างๆ การพัฒนานวัตกรรมตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงไป
การพัฒนา
5 จี ที่มุ่งสู่ทุกด้วย ไม่ว่าจะเป็น Smart Manufacturing  ,Smart city , Smart
Mobility
 

        “อรรถพล”  เกิดวันที่ 19 ก.ค. 2508 ปัจจุบันอายุ 54 ปี จบการศึกษาปริญญาตรีวิศวกรรมศาสตรบัณฑิต
สาขาวิชาวิศวกรรมโยธา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ก่อนศึกษาต่อปริญญาโท
พัฒนาการเศรษฐกิจมหาบัณฑิต สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์
รวมทั้งอบรมในหลักสูตรต่างๆมาย  เข้ารับตำแหน่ง ซีอีโอ ปตท. เมื่อวันที่ 13
พฤษภาคม 2563  วาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปี  -สำนักข่าวไทย  

 

 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทย เจ้าตัวคุม “โยธาฯ-ปค.”

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. –“ภูมิธรรม” แบ่งงาน 2 รมช.มหาดไทยแล้ว เจ้าตัวคุม “โยธาฯ – ปค.” ฟาก “เดชอิศม์” คุม “ที่ดิน – สถ.” สางปัญหาที่ดิน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการนายกฯ กล่าวว่า ขณะนี้ตนได้แบ่งงานกับทั้ง 2 รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งการทำงานของทั้ง 3 คนเราทำงานเป็นทีมเดียวกัน ส่วนหลักเกณฑ์การแบ่งก็กระจายให้ทั่วถึงเพื่อช่วยกันดูแล โดยตนกำกับดูแลกรมโยธาธิการและผังเมือง กรมการปกครอง สำนักปลัดกระทรวงมหาดไทย สำนักงานรัฐมนตรี กระทรวงมหาดไทย การประสานงานส่วนราชการในสังกัด กระทรวงมหาดไทยตาม พ.ร.บ.การบริหารราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ.2553 การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปาส่วนภูมิภาค และดูหน่วยงานส่วนที่เหลือทั้งหมด โดยทั้งหมดสงวนไว้ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับงบประมาณ และบุคคลซึ่งตนเป็นผู้ดูแล นายภูมิธรรม กล่าวต่อว่า ได้มอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย กำกับดูแล กรมการพัฒนาชุมชน เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับสตรีและการดำเนินการเรื่องผ้าไทย รวมถึงกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]

มส.มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เรียกพระ 5 รูปแจงด่วน

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.-มหาเถรสมาคม ประชุมนัดพิเศษ มีมติสั่งปลด-ถอดสมณศักดิ์ พระอาบัติปาราชิก เผยสึกแล้ว 6 คน ยังติดต่อไม่ได้ 2 คน เตรียมแก้กฎมหาเถรสมาคม อ้างสุดล้าหลังกว่า 50 ปี ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ชิงลาออกแล้ว นายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แถลงข่าวภายหลังการประชุมมหาเถรสมาคมนัดพิเศษ ครั้งที่ 1/2568 ว่า สมเด็จพระสังฆราชห่วงใยต่อกระแสข่าวที่เกิดขึ้น จึงมีพระบัญชาให้มหาเถรสมาคม นิมนต์กรรมการฯประชุมเร่งด่วน ซึ่งทางกรรมการฯ มีข้อห่วงใย และมีการอภิปรายกันอย่างกว้างขวาง โดยมีมติ ดังนี้ -พระที่ถูกกล่าวหา ต้องอาบัติปราชิก ถือว่าสิ้นสุดความเป็นพระภิกษุทางวินัย และต้องสึกโดยทันที ส่วนพระที่ยังไม่ถึงขั้นปราชิก ก็ให้ปลดออกจากตำแหน่งเจ้าคณะพระสังฆาธิการทุกรูป และจะมีมติขอพระราชทานพระบรมราชานุญาตถอดสมณศักดิ์-ในระยะเร่งด่วน ให้เจ้าคณะผู้ปกครองสงฆ์ทุกระดับ ตรวจสอบดูแลและกำกับพฤติกรรมองพระในปกครองอย่างใกล้ชิด หากพบพฤติกรรมละเมิดพระธรรมวินัยให้ดำเนินการสอบสวน และรายงานมหาเถรสมาคมโดยเร็ว-กรณีพระภิกษุถูกกล่าวหาผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ ให้ออกคำสั่พักการปฏิบัติหน้าที่ และให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมขอให้ระมัดระวังการให้ข้อมูลต่อสื่อมวลชนและสาธารณชน เนื่องจากยังเป็นเพียงผู้ถูกกล่าวหา-และทบทวนปรับปรุงกฎระเบียบคณะสงฆ์ว่าด้วยการประทำผิดพระธรรมวินัย ประเภทครุกาบัติ โดยมหาเถรสมาคม เห็นควรขอประทานพระวินิจฉัยสมเด็จพระสังฆราช มีพระบัญชาโปรดให้แต่งตั้งคณะกรรมการพิเศษเพื่อคุ้มครองพระพุทธศาสนาคณะหนึ่ง […]

ส่งตัวดำเนินคดี นักท่องเที่ยวไทยทำร้ายทหารกัมพูชา

สุรินทร์ 13 ก.ค.-ทบ. เผยนักท่องเที่ยวไทยต่อยทหารกัมพูชา ที่ปราสาทตาเมือนธม เป็นอดีตทหารพราน ส่งตัวให้ตำรวจดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อวันที่ 13 ก.ค.68 พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบกกล่าวถึงกรณีที่งนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม จังหวัดสุรินทร์ ว่า กองทัพบกได้รับรายงานจากกองกำลังสุรนารี ว่า เมื่อเวลาประมาณ 10.20 น. ได้เกิดเหตุการณ์นักท่องเที่ยวชาวไทยทำร้ายร่างกายเจ้าหน้าที่ทหารกัมพูชาชุดประสานงาน ณ บริเวณปราสาทตาเมือนธม โดยผู้ก่อเหตุได้ชกเจ้าหน้าที่กัมพูชา ทั้งทางด้านหลังและด้านหน้า ก่อนจะหลบหนีออกจากพื้นที่ ซึ่งเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทยสามารถติดตามและควบคุมตัวได้ในเวลาต่อมา จากการตรวจสอบเบื้องต้น ทราบว่าผู้ก่อเหตุคือ นายสมหมาย ศรีศุกรานันทน์ อดีตอาสาสมัครทหารพราน ปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานชมรมทหารพรานจิตอาสาค่ายปักธงชัย และประธานเครือข่ายทหารผ่านศึกจังหวัดสมุทรสาคร ทั้งนี้ เนื่องจากบริเวณพื้นที่เกิดเหตุเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ทางเจ้าหน้าที่ทหารฝ่ายไทย ได้ทำความเข้าใจกับผู้เสียหายไปแล้วในเบื้องต้น เพื่อพยายามไม่ให้กระทบความสัมพันธ์ในระดับเจ้าหน้าที่ทั้งสองฝ่าย สำหรับผู้ก่อเหตุ ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” วัดกัลยาณมิตรฯ สึกที่ระยอง

ระยอง 14 ก.ค. – เปิดภาพ “พระปริยัติธาดา” ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ พัวพันสีกากอล์ฟ สึกแล้วที่ จ.ระยอง ขณะที่พระบางรูปยืนยันไม่สึก เพราะแม้เป็นข่าวแต่ไม่ได้มีสัมพันธ์ลึกซึ้ง ส่วนเงินที่โอนเป็นเงินส่วนตัว ให้เพราะเมตตา ภาพล่าสุดของพระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร ที่มีข่าวว่าหายตัวนานหลายวัน เพราะมีคนเปิดเผยหลักฐานความสัมพันธ์กับสีกากอล์ฟ ที่เกิดขึ้นเมื่อปี 61 และก่อนหน้านี้มีกระแสว่า ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ สึกไปแล้วตั้งแต่วันศุกร์ แต่เมื่อเช้านี้ (14 ก.ค.) ภาพนี้ได้ยืนยันว่า พระปริยัติธาดา ได้สึกแล้วที่วัดในพื้นที่ จ.ระยอง เมื่อเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา “พระภาวนาวิริยคุณ” ลั่นไม่สึก ให้ด้วยความเมตตาขณะที่พระที่ยังไม่สึกอย่าง พระภาวนาวิริยคุณ หรือพระอาจารย์ไสว ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพฯ มีชื่อพัวพันโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 182,200 บาท แต่ท่านได้ย้ายมาเป็นประธานสงฆ์ที่วัดไชยมงคล จ.พิษณุโลก ตั้งแต่ปี 62 โดยมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาวัด และเผยแผ่พระพุทธศาสนาผ่านโซเชียล ท่านเปิดใจกับทีมข่าวยืนยันว่าเรื่องราวเกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ เกิดขึ้นเมื่อปี 66 โดยฝ่ายหญิงติดต่อมาทางแชท ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับปัญหาชีวิต […]

“ภูมิธรรม” ลั่นเอาผิดถึงที่สุดคดีสีกากอล์ฟ เรื่องนี้ไม่จบง่าย

กระทรวงมหาดไทย 14 ก.ค. – “ภูมิธรรม” ประสานดีเอสไอช่วยตำรวจสอบสวนกลาง ทำคดีสีกากอล์ฟ ลั่นเรื่องนี้ไม่จบง่าย เอาผิดถึงที่สุด เพราะมีลักษณะบ่อนทำลาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯและ รมว.มหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินคดีเอาผิดสีกากอล์ฟ และพระสงฆ์ที่เกี่ยวข้อง ว่า จะให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ เข้าไปช่วยดู เพราะคดีนี้สั่นสะเทือนความรู้สึกของประชาชน กระทบความมั่นคงในแง่ของพุทธศาสนา ซึ่งเป็นหลักของประเทศ โดยเมื่อเช้านี้ตนได้พูดคุยกับอธิบดีดีเอสไอ ให้ช่วยเข้าไปดู หรือมีอะไรที่จะส่งเสริมสนับสนุนให้กับตำรวจที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ซึ่งอธิบดีดีเอสไอก็รับเรื่องไปพิจารณาดำเนินการ และยังได้คุยโทรศัพท์กับ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ซึ่งอยู่ระหว่างติดราชการต่างประเทศ โดยตนได้กำชับว่าเรื่องนี้ต้องจริงจัง ต้องเริ่มต้นด้วยการตั้งข้อหาสีกากอล์ฟให้ชัดเจนมากขึ้น และให้ประสานงานกับทางดีเอสไอ ซึ่ง พลตำรวจโท จินภพ ยินดี เพราะเป็นเรื่องที่ต้องการทำอยู่แล้ว เนื่องจากกระทบกับพุทธศาสนา และให้รายงานตนด้วย โดยเรื่องนี้จะไม่ปล่อยผ่านเฉยๆ และย้ำว่าได้กำชับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว ทั้งนี้ การที่ให้ดีเอสไอเข้ามาช่วยดูคดี ไม่ได้หมายความว่าให้โอนคดีไปที่ดีเอสไอ แต่ให้มาช่วยกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลางดู โดยหลักการจะให้ตำรวจสอบสวนกลางทำคดีต่อไป ส่วนดีเอสไอมีอะไรเสริมได้ก็จะดี เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาคดีที่เกี่ยวกับสงฆ์ […]

ตร.ไซเบอร์หอบสำนวนคดีคลิปเสียง “ฮุนเซน” มอบอัยการสูงสุด

14 ก.ค.- ตำรวจไซเบอร์หอบสำนวน 50 หน้า ส่งมอบให้อัยการสูงสุด ดำเนินคดี “คลิปเสียงฮุนเซน” ผิดม.116 และ พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ ขณะที่โฆษกอัยการรับต้องละเอียดรอบคอบ เกี่ยวข้องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ที่ผ่านมาไม่เคยมีการสั่งฟ้องผู้นำประเทศมาก่อน พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 นำสำนวนคดีคลิปเสียงฮุนเซน ประมาณ 50 หน้า พร้อมเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้อง มอบให้พนักงานอัยการสูงสุด จากกรณีที่ นายสมคิด เชื้อคง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง เข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน บก.สอท.1 เพื่อดำเนินคดีกับผู้ใช้บัญชี เฟซบุ๊กชื่อ “Samdech Hun Sen of Cambodia” ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปเสียงการสนทนา ระหว่าง นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กับ ฮุน เซน ประธานวุฒิสภาแห่งราชอาณาจักรกัมพูชา พลตำรวจตรีศิริวัฒน์ เปิดเผยว่า เบื้องต้นจากการตรวจสอบพบว่า เพจ Facebook สมเด็จฮุน เซน มีลักษณะการโพสต์ข้อความที่เป็นขั้นเป็นตอน […]

“แพทองธาร” ถกต่อยอดซอฟต์พาวเวอร์ ดัน 5 ยุทธศาสตร์

บ้านพิษณุโลก 14 ก.ค.- “แพทองธาร” เข้าบ้านพิษณุโลก หารือบีโอไอ – ทีมซอฟต์พาวเวอร์ไทย หนุนลงทุน พร้อมต่อยอด ดัน 5 ยุทธศาสตร์ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม เดินทางเข้าบ้านพิษณุโลก ในเวลา 09.50 น. เพื่อประชุมกับทีมที่ปรึกษาและคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือ BOI รวมถึงหน่วยงานด้านเศรษฐกิจที่เกี่ยวข้อง เพื่อยกระดับและขับเคลื่อนนโยบายซอฟต์พาวเวอร์ไทยแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โดยคาดว่าจะเป็นการหารือต่อยอดจากที่นางสาวแพทองธาร ได้ประกาศเดินหน้ายุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์ไทย 5 ด้าน ทั้ง อาหารไทย มวยไทย ไทยเวลเน็ต ภาพยนต์ไทย และอัญมนี บนเวที Splash Softpower Forum 2025 ที่จัดขึ้นที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เมื่อวันที่ 8-11 ก.ค. ที่ผ่านมา .-316 -สำนักข่าวไทย