กรุงเทพฯ13
มิ.ย.-กรมชลประทานเดินหน้าพัฒนาแผนยุทศาสตร์20 ปีเพิ่มพื้นที่รวมเกือบ 18 ล้านไร่
ด้าน
รมว.เกษตรฯย้ำ จัดการน้ำทุกภาคส่วนทั้งเกษตร การอุปโภคบริโภคและรองรับอีอีซี
นายเฉลิมชัย
ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กล่าว ภายหลังเป็นประธานในวันคล้ายวันสถานปนากรมชลประทานซึ่งตรงกับวันที่
13 มิถุนายน โดยปีนี้ครบรอบ 118 ปี ว่าขอให้กรมฯพัฒนาระบบชลประทานให้สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่
12 ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนแม่บทการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 20 ปีให้มีน้ำเพียงพอใช้ทุกภาคส่วน
บริหารจัดการน้ำเพื่อป้องกันและบรรเทาน้ำท่วมและภัยแล้ง
ส่วนพื้นที่ที่ต้องเร่งพัฒนาระบบชลประทานเร่งด่วนคือ
โครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) รองรับแผนการพัฒนา 10 ปี ที่ต้องเพิ่มน้ำให้ EEC 354 ล้าน ลบ.ม. ต่อปี
นายทองเปลว
กองจันทร์ อธิบดีกรมชลประทานกล่าวว่า กรมฯกำหนดแผนการพัฒนา “RID No.1 Express 2020” มีภารกิจเร่งด่วนคือ การพัฒนา ต่อยอด ขยายผล
แนวทางที่กำหนดไว้เดิมให้เกิดผลสัมฤทธิ์
โดยปีงบประมาณ 2563ได้ เร่งรัด 216 โครงการ ขับเคลื่อนสู่การเตรียมความพร้อมพัฒนา ต่อยอด
โครงการประชารัฐร่วมทุนภาครัฐและเอกชน (Public-Private Partnerships : PPPs) การปรับปรุง พ.ร.บ.ชลประทาน พ.ศ. 2485 ที่
จะแล้วเสร็จในปี 2564 และนี้ จะต่อยอดระบบส่งน้ำและกระจายน้ำระดับแปลง 86,300 ไร่
ขุดลอกเพิ่มปริมาณเก็บกักน้ำทั้งประตูระบายน้ำ แก้มลิง อาคารบังคับน้ำ
สำหรับการดำเนินงาน
ของกรมชลประทานตั้งแต่ต้นถึงปัจจุบันสามารถเพิ่มพื้นที่ชลประทานได้ 33.98 ล้านไร่
ปริมาตรเก็บกักที่เพิ่มขึ้น 82,658 ล้าน ลบ.ม.
พื้นที่รับประโยชน์ 27.82 ล้านไร่ ตามยุทธศาสตร์กรมชลประทาน 20 ปี มีเป้าหมายเพิ่มพื้นที่ชลประทาน
17.95 ล้านไร่ จึงคงเหลือที่ยังต้องพัฒนาอีก 16.81 ล้านไร่
เพิ่มปริมาตรเก็บกักน้ำอีก 13,243 ล้าน ลบ.ม. โดยจะนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยมาใช้ในการปฏิบัติงาน
พัฒนาระบบเชื่อมโยงข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้าง การเชื่อมโยงข้อมูลกับระบบคาดการณ์เพื่อการตัดสินใจ
เพื่อให้การบริหารจัดการน้ำเท่าทันสถานการณ์
ทุกภาคส่วนมีน้ำใช้อย่างเพียงพอ
ป้องกันและบรรเทาภัยแล้งและน้ำท่วมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด–สำนักข่าวไทย