กทม. 12 มิ.ย.- เปิดรับสมัครเลขาธิการผู้ตรวจการแผ่นดิน หลัง “รักษเกชา” หมดวาระ เริ่ม 15 มิ.ย.-14 ก.ค.นี้ วาระตำแหน่ง 5 ปี กำหนดคุณสมบัติเพียบ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ประกาศรับสมัครเลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน แทนนายรักษเกชา แฉ่ฉาย เลขาธิการสำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่จะหมดวาระ โดยผู้สมัครเป็นเลขาธิการผู้ตรวจฯ ต้องพร้อมปฎิบัติงานบริหารสำนักงานในฐานะหัวหน้าสำนักงานภายใต้การบังคับบัญชา กำกับดูแลและรับผิดชอบร่วมกันของผู้ตรวจการแผ่นดิน ทำหน้าที่ควบคุมดูแลการปฏิบัติงานโดยทั่วไปของสำนักงาน ผู้สนใจสมัคร ต้องมีสัญชาติไทยโดยการเกิด มีอายุไม่เกิน 60 ปีในวันที่ได้รับแต่งตั้งและมีอายุไม่เกิน 65 ปีในขณะดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำเร็จการศึกษาไม่ต่ำกว่าปริญญาตรีหรือเทียบเท่า มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญอันจะเป็นประโยชน์แก่การปฏิบัติงานของสำนักงาน หากเคยเป็นหรือเคยเป็นอธิบดีหรือหัวหน้าส่วนราชการที่เทียบเท่าโดยต้องดำรงตำแหน่งดังกล่าวมาเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 3 ปี ถ้าเป็นหรือเคยเป็นผู้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหาร (ระดับรองเลขาธิการหรือเทียบเท่า) ในองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 1ปี และเคยปฏิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่า 15 ปี
ทั้งนี้ผู้สมัครจะต้องไม่เป็นหรือเคยเป็นสมาชิกพรรคการเมือง หรือผู้ดำรงตำแหน่งอื่นของพรรคการเมืองในระยะ 3 ปีก่อนวันแต่งตั้ง ไม่เป็นข้าราชการการเมือง ไม่เป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกสั่งพักราชการหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อนตามกฎหมาย หรือเป็นผู้อยู่ในระหว่างถูกพักงานหรือถูกสั่งให้ออกจากงานในหน่วยงานของรัฐหรือเอกชน เพราะเหตุทุจริตต่อหน้าที่ ไม่เป็นผู้เคยถูกลงโทษให้ออก ปลดออก หรือไล่ออกจากงานเพราะเหตุทุจริตต่อหน้าที่ ไม่เป็นผู้เคยถูกไล่ออก ปลดออก เพราะทำผิดวินัยอย่างร้ายแรง ไม่เป็นผู้เคยต้องคำพิพากษาให้จำคุก ไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี บุคคลล้มละลาย ติดยาเสพติดให้โทษ หรือร่ำรวยผิดปกติหรือมีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นผิดปกติ โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี นับแต่วันที่ได้รับแต่งตั้ง โดยมีระยะเวลาและเงื่อนไขการจ้างตามที่กำหนดไว้ในสัญญาจ้าง สามารถมายื่นใบสมัครได้ที่ สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน ชั้น 5 อาคารรัฐประศาสนภักดี ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ ถนนแจ้งวัฒนะ ตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน ถึงวันที่ 14 กรกฎาคม 2563 ในวันและเวลาราชการ.- สำนักข่าวไทย