ย้อนรอยปมฮุบที่ดิน 3,800 ไร่ สู่เหตุยิงกันในศาลจันทบุรี

9 มิ.ย. – สำนักข่าวไทยพาย้อนดูเหตุการณ์ปมพิพาทที่ดินมรณะ 3,800 ไร่ เกิดคดีความฟ้องร้องกันไปมายาวนานหลายสิบปีระหว่างสองฝ่าย คือ ฝ่ายที่อ้างตัวเป็นเจ้าของที่ดินกับฝ่ายที่เป็นลูกหลานของเจ้าของที่ดินตัวจริง จนกลายเป็นชนวนเหตุยิงกันภายในศาลจังหวัดจันทบุรีเมื่อปลายปีก่อน


สำหรับที่ดินผืนนี้ตั้งอยู่เขตรอยต่อ 2 อำเภอของจังหวัดจันทบุรี คือ อ.ท่าใหม่ และ อ.เขาคิชฌกูฏ กรรมสิทธิ์แรกเริ่มเป็นของนายสมพล โกศลานันท์ เศรษฐีชื่อดังในจันทบุรี จากนั้นในปี 2513 – 2515 พระกิตติวุฑโฒ ซึ่งขณะนั้นได้ก่อตั้งมูลนิธิอภิธรรมมหาธาตุวิทยาลัย ได้ซื้อที่ดินแปลงดังกล่าวด้วยเงินบริจาค 12 ล้านบาท จากนายสมพล เพื่อใช้ปฏิบัติกิจกรรมของพระสงฆ์ โดยจ่ายไป 8 ล้านบาท ส่วนอีก 4 ล้านบาท ยังไม่ได้ชำระ  นายสมพลเห็นว่าจะนำที่ดินไปใช้ประโยชน์ทางศาสนา จึงมอบที่ดินให้ไปใช้ประโยชน์ก่อน


ต่อมาพระกิตติวุฑโฒได้มอบหมายให้นายบุญช่วย เจริญสถาพร ซึ่งมีสถานะเป็นน้องชาย เป็นผู้ดูแลที่ดิน ระหว่างนั้นในปี 2535 นายสมพลเจ้าของที่ดินตัวจริงเสียชีวิตลง ทำให้มรดกที่ดินตกทอดไปยังนายเรวัติ โกศลานันท์ และต่อมาในปี 2548 พระกิตติวุฑโฒก็มรณภาพ ปรากฏว่านายบุญช่วยและบุตรชายมีพฤติกรรมวางแผนเข้าไปครอบครองที่ดิน


กระทั่งในปี 2550 นายบุญช่วยได้ยื่นเรื่องฟ้องนายเรวัติ ซึ่งมีฐานะเป็นผู้รับมรดก เพื่อให้โอนที่ดินดังกล่าวมาเป็นของตัวเอง โดยมีนายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความชื่อดังเป็นทีมทนายความ จากข้อมูลของกองปราบระบุว่า นายบุญช่วยได้สร้างพยานหลักฐานเท็จขึ้นมาเบิกความต่อศาล จนกระทั่งศาลพิจารณาพิพากษาให้นายเรวัติ ในฐานะผู้รับมรดกต้องโอนที่ดินไปเป็นชื่อของนายบุญช่วยตามคำร้อง

ในปี 2554-2555 นายบุญช่วยได้ยื่นคำร้องเปลี่ยนที่ดิน ส.ป.ก. เป็นโฉนดที่ดิน เพื่อทำให้มีมูลค่าสูงขึ้น แต่ น.ส.เขมจิรา บัณฑูรนิพิท ทายาทรุ่นหลานของนายสมพล และ พล.ต.ต.ธารินทร์ จันทราทิพย์ อดีตสามี เริ่มพบเห็นความผิดปกติและไม่พอใจ เพราะเห็นว่าที่ดินไม่ได้ถูกนำไปใช้ประโยชน์ทางศาสนาตามวัตถุประสงค์เดิม จึงเกิดการฟ้องร้องกันไปมาหลาย 10 คดี แต่เป็นฝ่ายทายาทนายสมพลแพ้คดีมาโดยตลอด ส่วนฝั่งนายบุญช่วยยังถือครองกรรมสิทธิ์

จากนั้นคดีดังกล่าวกลายเป็นที่สนในของประชาชนทั่วไป หลังจากเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2562 เกิดเหตุ พล.ต.ต.ธารินทร์ ที่มาช่วยรวบรวมหลักฐานในคดีให้กับ น.ส.เขมจิรา ทายาทรุ่นหลานของนายสมพล ตัดสินใจใช้อาวุธปืนกราดยิงใส่นายบัญชา ปรมีศณาภรณ์ ทนายความของนายบุญช่วย อีกทั้งยังมีฐานะเป็นโจทก์ร่วม, นางสุภาพร ปรมีศณาภรณ์ ภรรยาของนายบัญชา, นายวิชัย อุดมธนภัทร และนายวิจัย สุขรมย์ ทีมทนายความภายในศาลจังหวัดจันทบุรี

เหตุเกิดขึ้น ขณะกำลังรอพยานฝ่ายจำเลยและรอผู้พิพากษาขึ้นนั่งบัลลังก์ เพื่อนัดสืบพยานในคดีฟ้องร้องทางแพ่งปลีกย่อยเกี่ยวกับที่ดินผืนดังกล่าว และเป็นเหตุให้นายบัญชาและนายวิจัยเสียชีวิต ส่วนนางสุภาพร และนายวิชัย บาดเจ็บสาหัส ก่อนที่ พล.ต.ต.ธารินทร์ จะถูกนายธนากร ธีรวโรดม เสมียนทนาย นำอาวุธปืนของตำรวจประจำศาลยิงใส่จนเสียชีวิตอีกราย

ภายหลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้สังคมสนใจ กองบังคับการปราบปรามจึงได้รับโอนสำนวนมาดูแลและสืบสวนข้อเท็จจริง จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานนำไปสู่การออกหมายจับและจับกุมตัวผู้ต้องหาทั้งสองคน. – สำนักข่าวไทย 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง 

BIG STORY : บุกจับพ่อลูกสร้างหลักฐานเท็จ ฮุบที่ดินสงฆ์ 3,800 ไร่ คุมตัวสอบเข้ม

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รถทัวร์โดยสารชนท้ายเทรลเลอร์ เสียชีวิต-บาดเจ็บจำนวนมาก

รถทัวร์โดยสารชนท้ายรถบรรทุกเทรลเลอร์ บนถนนสาย 304 จังหวัดปราจีนบุรี ทำให้ไฟลุกไหม้รถทัวร์โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก

ชาวบ้านยอมรับค่าเยียวยาหลังละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดิน

ชาวบ้านยอมรับการเยียวยา บ้านละ 1 หมื่นบาท จากเจ้าของที่ดินใน จ.ระยอง หลังถมที่สูงมิดหลังคาของเพื่อนบ้าน และรับปากจะเร่งแก้ไขให้ทันหน้าฝนที่จะถึงนี้ แต่ชาวบ้านยังหวั่นใจ หากแก้ไขไม่ทันก็ยังจะเดือดร้อน น้ำจะไหลลงมาบ้านที่อยู่ต่ำกว่า

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-กลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคกลาง อากาศร้อนจัดบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศร้อนถึงร้อนจัด ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนโดยทั่วไป โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

รวบทันควัน คนร้ายบุกเดี่ยวชิงเงินธนาคาร

จับแล้ว คนร้ายบุกเดี่ยวชิงทรัพย์ธนาคารกลางเมืองเชียงใหม่ ได้เงินสดกว่า 40,000 บาท ก่อนวิ่งหลบหนี ล่าสุดจนมุมตำรวจรวบตัวได้ที่ศาลาริมทางข้างถนน

โป๊ปฟรังซิส สิ้นพระชนม์แล้ว ขณะพระชนมายุ 88 พรรษา

สำนักวาติกัน แถลงผ่านทางโทรทัศน์ของสำนักวาติกันว่า สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิกและพระประมุขแห่งนครรัฐวาติกันสิ้นพระชนม์แล้วในวันนี้