CIMB คาด GDP ปี 63 ติดลบ 8.9% แม้คลายล็อกดาวน์เฟส 4

กรุงเทพฯ 9 มิ.ย. – นักเศรษฐศาสตร์ซีไอเอ็มบีไทยประเมินเศรษฐกิจไตรมาส 2 ติดลบหนักสุดถึง 14% และทั้งปีติดลบ 8.9% แม้จะมีการคลายล็อกเฟส 4 พร้อมคาด กนง.จะคงดอกเบี้ยนโยบายทั้งปีไว้ที่ 0.5% ขณะที่ค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าในกรอบ 31 – 31.50 บาท/ดอลลาร์ฯ 


นายอมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัยธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย ระบุว่าแม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในไทยจะดีขึ้น และอาจมีการคลายล็อกดาวน์เฟส 4 และคนเริ่มเดินทาง แต่เศรษฐกิจไทยก็จะยังฟื้นตัวแบบช้า ๆ ไม่ฟื้นตัวเป็นรูปตัว V เนื่องจากกำลังการผลิตและความเชื่อมั่น รวมทั้งการบริโภคยังอยู่ในระดับต่ำ จึงประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปีนี้จะติดลบ 8.9% โดยเฉพาะไตรมาส 2 จะติดลบหนักสุด 14% และส่งออกจะติดลบสูงถึง 20% และไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาไทยเลย ขณะที่ไตรมาส 3 และ 4 จะเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังมีโอกาสติดลบได้ถึง 10% สำหรับปัจจัยบวก คือ การควบคุมการระบาดได้เร็ว มาตรการกระตุ้นการใช้จ่าย รวมทั้งต้องติดตามผลจากการใช้เงินในมาตรการเยียวยาและแผนฟื้นฟูฯ ว่าจะช่วยหนุนเศรษฐกิจได้มากน้อยแค่ไหน พร้อมหวังว่าจะมีการปรับประมาณการเศรษฐกิจใหม่อีกครั้งในทิศทางที่ดีขึ้น  

ขณะที่นโยบายการเงิน มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) จะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.5% เนื่องจากเป็นอัตราดอกเบี้ยต่ำแล้ว และธนาคารพาณิชย์ได้ขานรับนโยบายในการปรับลดดอกเบี้ยตาม เพื่อเสริมสภาพคล่องในระบบและลดภาระต้นทุนผู้ประกอบการแล้ว หากปรับลดดอกเบี้ยลงอีกก็จะไม่มีผลต่อเศรษฐกิจมากนัก โดยมองว่าหากจำเป็น กนง.จะเลือกใช้เครื่องมืออื่น เช่น การลดดอกเบี้ยส่งเข้ากองทุนฟื้นฟูฯ มาตรการผ่อนคลายกฎระเบียบในการขอกู้ซอฟท์โลน เพื่อให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเข้าถึงแหล่งเงินกู้ได้มากขึ้น  พร้อมมองว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะการเข้ามาดูแลอัตราแลกเปลี่ยนมากขึ้น เพื่อให้อ่อนค่าสอดคล้องกับสกุลเงินอื่นในภูมิภาค เพื่อเสริมความสามารถทางการแข่งขันของผู้ประกอบการผ่านมาตรการ เช่น เงินทุนสำรองระหว่างประเทศ การส่งเสริมการนำเงินอออกไปลงทุนต่างประเทศ รวมทั้งการสร้างดีมานเทียม หรือเพิ่มความต้องการค่าเงินดอลลาร์ในรูปแบบของกองทุนความมั่งคั่งแห่งชาติ เช่นเดียวกับสิงคโปร์ มาเลเชีย และจีน เป็นต้น 


อย่างไรก็ตาม มองว่าค่าเงินบาทยังมีทิศทางแข็งค่าในกรอบ 31 – 31.50 บาทต่อดอลลาร์ จากปัจจัยการอัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบของหลายประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐ รวมทั้งมาตรการคลายล็อกดาวน์ที่ทำให้นักลงทุนเริ่มกลับเข้ามาลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง รวมทั้งนำเงินเข้ามาพักในไทยมากขึ้น แม้จะเป็นการเก็งกำไรระยะสั้น ก็จะไม่ส่งผลต่อเสถียรภาพของเศรษฐกิจไทยที่พึ่งพาการส่งออกและการท่องเที่ยวเป็นตัวหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ขณะที่ปัจจัยที่ต้องติดตาม คือ การระบาดรอบ 2 รวมทั้งราคาน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับต่ำ  หากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นในขณะที่การส่งออกไทยยังอ่อนแอ ก็จะเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อความผันผวนของเงินบาทได้ โดยมองกรอบราคาน้ำมันปีนี้อยู่ที่ 40 – 45 ดอลลาร์/บาร์เรล.- สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร