“สมคิด” สั่งคลังศึกษามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ-ท่องเที่ยวไตรมาส 3

กระทรวงการคลัง 8 มิ.ย. – “สมคิด” สั่งคลังระดมสมองศึกษามาตรการกระตุ้นกำลังซื้อ-ท่องเที่ยว หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไตรมาส 3-4  ดึงความร่วมมือภาครัฐ เอกชน ลดปัญหาคนตกงาน 



นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ร่วมกับผู้บริหารทุกกรมของกระทรวงการคลัง รวมทั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ผู้บริหารสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจ หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไตรมาส 3  หลังจากปัญหาโควิด-19 คลี่คลาย ในส่วนของการรับเงินเยียวยา โดยเฉพาะกลุ่มประกันสังคม  ซึ่งจ่ายเงินประกันสังคมไม่ครบ 6 เดือน ต้องได้รับการช่วยเหลือให้ครบถ้วน และขอความร่วมมือแบงก์รัฐ ภาคเอกชน ตั้งศูนย์ประกอบอาหาร หรือโรงทานแจกจ่ายผู้มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบจากปัญหาโควิด เพราะการประหยัดค่าอาหาร 1 มื้อ นับว่ามีความสำคัญกับคนตกงาน หรือผู้มีรายได้น้อย 


สำหรับแผนลงทุนพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก วงเงิน 400,000 ล้านบาท หลังเปิดให้ทุกหน่วยงานเสนอแผนลงทุนให้คณะกรรมการกลั่นกรองพิจารณาช่วงต้นเดือนกรกฎาคม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เตรียมเสนอ ครม.พิจารณาหวังว่าในช่วงไตรมาส 3 เงินลงทุนจะออกสู่ระบบ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจได้อีกทางหนึ่ง หลังจากนั้น ฝากให้ทุกหน่วยงานร่วมกันศึกษามาตรการกระตุ้นเพื่อการบริโภค การท่องเที่ยว เพื่อให้คนระดับกลางออกไปใช้จ่าย การบริโภค เพราะการท่องเที่ยวยังมีความสำคัญต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ  และไทยพร้อมจับคู่กับต่างชาติ  เมืองใดปลอดโควิด มีระบบป้องกันดูแลตามมาตรฐานสาธารณสุข พร้อมเปิดทางให้เข้ามาท่องเที่ยวไทย โดยผ่านการพิจารณาอย่างรอบคอบ 


รวมทั้งมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ก.ล.ต. หารือกับสถาบันจัดอันดับเครดิต เนื่องจากบริษัทที่มีศักยภาพ หากจัดอันดับเครดิตกับสถานการณ์ไม่ปกติ  เพื่อให้บริษัทเหล่านี้มีสภาพคล่อง ตลาดตราสารหนี้ไม่มีปัญหา จึงมอบหมายให้นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือกับนายวิรไท สันติประภพ ผู้ว่าการ ธปท. สมาคมธนาคารไทย เพื่อหามาตรการจูงใจ รวมทั้งศึกษามาตรการภาษี หรือมาตรการจูงใจให้คนออกไปใช้จ่าย เพื่อให้ร้านค้าที่เปิดบริการ แต่ยังไม่มีคนซื้อ เพื่อให้ร้านค้ารายย่อยอยู่ได้ ขณะที่ ธปท.เสนอมาตรการดูแลช่วยเหลือตั้งแต่ต้นก่อนมีปัญหาปลดคนงาน  

นายอุตตม กล่าวว่า เตรียมนัดหารือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย เพื่อร่วมกันหาทางฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการปรับตัวอย่างไรในช่วงหลังโควิด-19 เพื่อรับฟังว่ารัฐบาลช่วยเหลืออย่างไรบ้าง รวมทั้งโครงการลงทุนเศรษฐกิจฐานราก 400,000 ล้านบาท คณะกรรมการกลั่นกรองต้องพิจารณาให้ดี เพื่อให้โครงการคุณภาพเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจตรงเป้าหมาย

“กระแสเปลี่ยนแปลงทางการเมือง หากทุกหน่วยงานต้องร่วมกันศึกษาออกมาตรการให้มีความคืบหน้าชัดเจน เพื่อสร้างความเชื่อมั่นกับผู้ประกอบการ ประชาชน เมื่อถึงไตรมาส 3 มาตรการออกมาได้ชัดเจนจะทำให้ทุกฝ่ายเกิดความมั่นใจ” นายอุตตม กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นร.หญิง ม.1 จมทะเลดับ หลังโรงเรียนพาไปทัศนศึกษาที่ระยอง

โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งใน จ.นครราชสีมา พานักเรียนไปทัศนศึกษาที่ จ.ระยอง นักเรียนหญิง ม.1 ถูกคลื่นดูดลงทะเลขณะเล่นน้ำ เสียชีวิต พ่อแม่สุดเศร้าสูญเสียลูกสาวคนเดียวของครอบครัว

น้ำท่วมเชียงใหม่

เชียงใหม่จมบาดาล น้ำท่วมครั้งประวัติศาสตร์

น้ำท่วมในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังวิกฤติ หลังน้ำในลำน้ำปิงขึ้นสูงสุดทรงตัวสูงกว่า 5.30 เมตร ซึ่งสูงที่สุดตั้งแต่มีการวัดระดับน้ำปิง

น้ำท่วมขนส่งเชียงใหม่กระทบผู้โดยสาร เปิดจุดจอดรับ-ส่งชั่วคราว

น้ำขยายวงกว้างเข้าท่วมสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 และ 3 เต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงเกือบ 50 ซม. ผู้ประกอบการขนส่งต้องนำรถทัวร์โดยสารออกมาจอดรับ-ส่งบนถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ ยืนยันผู้ประกอบการยังให้บริการตามปกติ

ระทึก! แท็กซี่พลิกคว่ำเกิดเพลิงไหม้ 5 ชีวิตรอดหวุดหวิด

รถแท็กซี่พลิกคว่ำและเกิดเพลิงลุกไหม้กลางถนนพระราม 9 ผู้โดยสารหญิงสติดีถีบประตูช่วยตัวเองและคนอื่นออกมาจากตัวรถรวม 5 ชีวิตได้ทัน แต่ในจำนวนนี้บาดเจ็บสาหัส 1 คน เป็นคนขับแท็กซี่ ตำรวจเร่งสอบสวนหาสาเหตุ

ข่าวแนะนำ

เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายน้ำ

น้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาขึ้นไม่หยุด ล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือน ต.ธรรมามูล อ.เมืองชัยนาท ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยาปรับเพิ่มการระบายแบบขั้นบันไดต่อเนื่อง ล่าสุดเมื่อเวลา 11.00 น. น้ำระบายท้ายเขื่อนที่ 2,200 ลบ.ม./วินาที

เร่งอพยพชาวบ้านหลายร้อยครอบครัว น้ำปิงยังสูง

แม้ระดับน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ เริ่มลดลง หลังขึ้นสูงสุดถึง 5.30 เมตร แต่หลายชุมชนและย่านการค้ายังมีน้ำท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่ตอนใต้ของเมือง น้ำยังเพิ่มสูง หลายร้อยครอบครัวต้องอพยพด่วน

อิสราเอลโจมตีทางอากาศมัสยิด-โรงเรียนในกาซา ดับแล้ว 24

สำนักงานสื่อมวลชนของรัฐบาลกาซาที่กลุ่มฮามาสเป็นผู้ดำเนินการ กล่าวว่า อิสราเอลโจมตีทางอากาศโดยมีเป้าหมายเป็นมัสยิดและโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของผู้พลัดถิ่นฐานในฉนวนกาซา เมื่อตอนเช้าวันอาทิตย์ ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 24 ราย และบาดเจ็บอีก 93 ราย