รัฐสภา 4 มิ.ย.- สภารับหลักการร่าง พ.ร.บ.โอนงบแก้โควิด-19 และตั้งกมธ. 49 คนมาศึกษา หลังนายกฯ ยืนยันจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด วอนฝ่ายค้านและรัฐบาลช่วยกันเตือนประชาชนอย่าการ์ดตก เผยแม้พ้นวิกฤติโควิดยังต้องแก้เศรษฐกิจต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ได้ใช้เวลากว่า 8 ชั่วโมงในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติโอนงบประมาณ พ.ศ. โดยก่อนการลงมติ
พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอบคุณสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ ยืนยันในฐานะหัวหน้ารัฐบาลจะดูแลทุกคนให้ดีที่สุด แต่อยากให้ไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมาย ที่ไม่สามารถแปรญัตติงบประมาณจากโครงการอื่นมาทำโครงการใหม่ได้ จึงจำเป็นต้องออกพระราชบัญญัติโอนงบประมาณและเมื่อไหร่จะเข้าสู่ภาวะปกติก็จะพิจารณาตามปกติไม่ต้องห่วงว่าจะเอาเงินไปทำอะไรที่ไม่ถูกต้อง
ทั้งนี้งบประมาณกลางปี 2563 มีอยู่จำกัดมาก ซึ่งได้ใช้แก้ไขปัญหาฉุกเฉินทั้งน้ำท่วมน้ำแล้ง โครงการใดที่อนุมัติไปแล้วก็ดำเนินการไปแต่หากไม่มีเม็ดเงินมาเพิ่มในงบกลางก็จะเหลือประมาณ 100 กว่าล้านบาท ยืนยันทุกโครงการดำเนินการตามกฎหมายและทุกอย่างตรวจสอบได้ และเมื่อเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาหรือโควิด-19 นำมาใช้ก็ได้นำงบประมาณในส่วนของงบกลางมาใช้ แต่ยังไม่เพียงพอจึงจำเป็น ต้องโอนงบประมาณที่ไม่ได้ใช้ มาใช้แก้ไขปัญหา เพราะหลังพ้นวิกฤติ จะต้องแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ
ส่วนที่ยังคงพระราชกำหนดฉุกเฉินเอาไว้ อยากให้มองสองมุม หากไม่มี พ.ร.ก. ในสถานการณ์ฉุกเฉิน สถานการณ์คงไม่คลี่คลายถึงวันนี้ พร้อมยกตัวอย่างแค่ผ่อนปรนมาตรการก็มีเหตุการณ์ที่หาดบางแสน ดังนั้นอยากให้ ทั้งฝ่ายค้านและรัฐบาลช่วยกันเตือนประชาชน ส่วนค่าตอบแทนบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาโควิด-19 นั้น จะต้องเป็นไปตามระเบียบจะได้สิทธิประโยชน์เท่ากันทุกคน คงเป็นไปไม่ได้ ขออย่าเอาทุกอย่างมาปนกัน จิตใจตนมั่นคง มีเพียงสิ่งเดียว ทำเพื่อประเทศชาติ หากมีอะไรที่ไม่ถูกต้องสามารถตรวจสอบได้ตามกระบวนการ
“ผมจิตใจมั่นคงทำเพื่อประเทศชาติบ้านเมืองสิ่งใดที่ไม่เกิดประโยชน์ก็ต้องช่วยกันดูแลและเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและต้องขอบคุณสมาชิกรัฐสภาและทุกคนที่เสนอสาระอันเป็นประโยชน์ ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
จากนั้นที่ประชุมมีมติรับหลักการในวาระที่ 1 ด้วยคะแนน 264 ต่อ4 เสียง งดออกเสียง 185 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 คน และให้ตั้งคณะกรรมาธิการจำนวน 49 คน สัดส่วนคณะรัฐมนตรี 12 คน พรรคการเมือง 37 คน จากรัฐบาล 20 คนฝ่ายค้าน 17 คนแปรญัตติภายใน 3 วัน นัดประชุมนัดแรกในวันพรุ่งนี้เวลา 09.30 น. ห้องประชุมคณะกรรมาธิการ .- สำนักข่าวไทย