สำนักข่าวไทย 4 มิ.ย.63 -. ช่วงสถานการณ์โควิด-19 แบบนี้งานก็มีน้อยลง เงินก็หายากขึ้น แถมหนี้สินก็ยังต้อง
จ่าย! ทำยังไงดี? คลินิกแก้หนี้ by SAM จัดให้! ยาแรง 2 สูตร ช่วยเหลือลูกหนี้ในช่วงวิกฤตการณ์โควิด-19
ยาสูตรที่
1 จ่ายไม่ไหวแล้ว สามารถเลื่อนงวดชำระ (ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย)
ออกไปเป็นระยะเวลาสูงสุด 6 เดือน
(เม.ย. – ก.ย.63)
โดยผู้เข้าร่วมโครงการทุกคนได้รับสิทธินี้โดยอัตโนมัติทุกคน
ยาสูตรที่
2 ยังพอจ่ายไหว เอาไปเลยปรับลดดอกเบี้ยลง 2% เป็นระยะเวลา 6 เดือน (เม.ย. –
ก.ย. 2563) เช่น เคย
จ่ายดอกเบี้ยที่ 5 % ก็เหลือจ่ายดอกเบี้ยที่ 3 %
สำหรับลูกค้าที่ไม่สามารถจ่ายค่างวดทั้งหมดได้เหมือนเดิม ก็สามารถจ่ายชำระเข้ามาเท่าที่ทำได้ เช่น ครึ่งหนึ่งของ
ค่างวดที่เคยจ่าย โดยได้รับสิทธิพิเศษเรื่องการลดดอกเบี้ย 2 % เช่นกัน *เงื่อนไขเป็นไปตามที่ธนาคารแห่ง
ประเทศไทยกำหนด
สนใจสมัครเข้าร่วมโครงการคลิกเลย >> http://bit.ly/RegisterLineOA
ผลของการใช้ยา 2 ขนานของคลินิกแก้หนี้ ให้สิทธิเลื่อนชำระหนี้ และลดดอกเบี้ยเพื่อจูงใจให้จ่าย ทำให้ NPL(หรือ
Non-Performing Loan เรียกง่ายๆว่า มันคือ เงินให้สินเชื่อที่ค้างชำระเงินต้น หรือที่เรียกกันว่าหนี้เสีย) ไม่เพิ่ม
ลูกหนี้ไม่หลุดจากโครงการ และลูกหนี้ 72% มีภาระดอกเบี้ยลดลง
โครงการคลินิกแก้หนี้ ซึ่งเป็นโครงการแก้หนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด สินเชื่อส่วนบุคคล ได้ออกมาตรการ
ช่วยเหลือประชาชนที่เข้าร่วมโครงการ เพื่อรองรับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2563 ที่ผ่าน
มา ผลของมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวถือว่าน่าพอใจ มาตรการช่วยเหลือประกอบด้วย 2 ส่วนสำคัญ เปรียบ
เหมือนลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการจะได้รับยา 2 ขนานเพื่อ
บรรเทาผลกระทบทางเศรษฐกิจ
ยาชนิดแรก – การผ่อนปรนให้สามารถเลื่อนงวดชำระ ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย เป็น
ระยะเวลา 6 เดือนในช่วง เม.ย. -ก.ย. 2563
ยาชนิดที่สอง – การปรับลดดอกเบี้ยลง 2% เพื่อลดภาระดอกเบี้ยจ่าย และเป็นแรงจูงใจให้ผู้เข้าร่วมโครงการที่
จ่ายค่างวดเข้ามาต่อเนื่อง โดยดอกเบี้ยในช่วงนี้เหลือเพียง 2-3%
ผลของมาตรการมีหลายส่วนน่าสนใจ กล่าวคือ แม้จะให้สิทธิในการเลื่อนกำหนดชำระหนี้ หรือ ไม่ต้องจ่ายค่างวด
แก่ลูกหนี้ทุกราย ปรากฏว่ามีลูกหนี้เพียง 28% ที่เลือกมาตรการนี้ ในขณะที่ลูกหนี้ที่เหลืออีก 72% ยังจ่ายค่างวด
เข้ามาตามปกติ โดยลูกหนี้ 18% ชำระเข้ามามากกว่าค่างวด ส่วนใหญ่คือ 52% จ่ายค่างวดได้ครบ และมีเพียง
2% เท่านั้นที่จ่ายชำระได้เพียงบางส่วน การออกแบบมาตรการช่วยเหลือที่ยึดลูกหนี้เป็นที่ตั้งคือ คำนึงถึงปัญหา
ความเดือดร้อน และข้อจำกัดของลูกหนี้
ช่วยให้โครงการสามารถตอบโจทย์ลูกหนี้ได้ทุกราย ทั้งรายที่ผ่อนไม่ไหวในช่วงนี้และรายที่สามารถจ่ายเข้ามาก็จะ
เสียดอกเบี้ยน้อยลง ในขณะเดียวกันก็ช่วยตอบโจทย์เจ้าหนี้ด้วยเช่นกัน เพราะไม่มีลูกหนี้ที่ต้องกลายเป็นหนี้เสีย
และลูกหนี้ส่วนใหญ่ที่มีความสามารถยังผ่อนชำระเข้ามาต่อเนื่อง
พฤษภาคม 2563 โครงการคลินิกแก้หนี้ สามารถช่วยประชาชนแก้หนี้บัตรไปแล้วกว่า 21,000 ใบ
ครอบคลุมลูกหนี้ 4,204 ราย ซึ่งมีหนี้บัตรเฉลี่ยรายละ 5 ใบ มูลหนี้เฉลี่ยต่อราย 340,000 บาท และขณะนี้มีลูกหนี้ที่
รอลงนามในสัญญาอีกกว่า 800 ราย เนื่องจากไม่สามารถเดินทางช่วง lockdown ที่ผ่านมา และอีก 1,500 ราย
อยู่ระหว่างขั้นตอนการตรวจเช็คข้อมูลกับสถาบันการเงิน คาดว่าครึ่งแรกของปี 2563 ตัวเลขผู้เข้าร่วมโครงการจะ
เกิน 5,000 ราย
*ใจดีมีแถมผู้ที่สมัครเข้าโครงการช่วง เม.ย. – ก.ย. 2563
จะได้รับสิทธิพิเศษลดดอกเบี้ย2% เช่นเดียวกัน
โครงการคลินิกแก้หนี้ by SAM ภายใต้การกำกับดูแลของธนาคารแห่งประเทศไทย
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Call Center 02-610-2266
หรือ www.คลินิกแก้หนี้.com, www.debtclinicbysam.com Line : https://lin.ee/xHXCAgR