กทม.31 พ.ค.- กทม.ปลดล็อก 17 สถานที่ให้สามารถเปิดดำเนินการคงมาตรการเว้นระยะห่าง แต่ผ่อนคลายมากขึ้น ร้านอาหารสามารถนั่งร่วมโต๊ะได้เป็นกลุ่ม มีผล 1 มิ.ย.นี้
ร.ต.อ.พงศกร ขวัญเมือง โฆษกกรุงเทพมหานคร แถลงผลประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร ว่า ที่ประชุมมีมติให้เปิดบริการ17 สถานที่ หลังจาก10 วันที่ผ่านมา ตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่เป็น 0 ขณะที่เดือนนี้พบผู้ป่วยเพียง 9 ราย เปรียบเทียบกับเดือนที่แล้วพบผู้ป่วย 497 ราย คิดเป็น 55 เท่า ของเดือนที่แล้ว พร้อมขอบคุณชาวกรุงเทพฯ ที่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และทำให้สามารถเปิดสถานที่ต่างๆ เพิ่มเป็น 17 แห่ง ได้แก่ 1 .ร้านอาหาร รวมทั้งชาบู ปิ้งย่าง อนุโลมให้สามารถรับประทานอาหารร่วมโต๊ะกันได้ ซึ่งแต่ละโต๊ะต้องเว้นระยะห่าง 1 เมตร เพื่อจำกัดความหนาแน่นของร้าน และไม่ต้องใช้ฉากกั้น ซึ่งจะสามารถทำให้ประชาชน กทม.ออกมารับประทานอาหารนอกบ้านได้มากขึ้น
2. ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ขยายเวลาปิดจากเดิม เวลา20.00น.เป็น 21.00 น. โดย กทม.ได้พูดคุยและหารือกับผู้ประกอบการแล้วว่าต้องให้พนักงานกลับทันเวลาเคอร์ฟิว เวลา 23.00 น.
3.ร้านตัดผม เสริมสวย สามารถเปิดให้บริการได้ทุกกิจกรรม อาทิ ทำสีผม แต่ต้องไม่เกิน 2 ชม. เพื่อให้สามารถทำความหยุดทำสะอาด และให้อากาศถ่ายเท ตามมาตรการของรัฐที่กำหนดว่าต้องหยุดให้บริการเพื่อทำความสะอาดทุก 2 ชม.โดย ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการต้องสวมหน้ากากอนามัย
4.สถานเสริมความงาม คลินิกเวชกรรม และร้านสักและร้านเจาะ ให้บริการได้ไม่เกิน 2 ชม. ผู้ให้บริการต้องสวมเฟซชิลด์ มีการลงทะเบียนก่อนเข้ารับบริการ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยให้ได้มากที่สุดเพื่อลดการแพร่เชื้อ
5.ฟิตเนสทั้งในห้างและนอกห้าง อนุญาตให้เปิดได้ทั้งหมด ทุกเครื่องเล่น แต่ต้องเว้นระยะ 2 เมตร ใช้บริการไม่เกิน 2 ชม.งดอบตัว อบไอน้ำ
6.ผ่อนผันให้ใช้อาคารสถานศึกษา เปิดให้เข้าไปเตรียมการสอน ประชุม แต่ยังไม่อนุญาตให้เปิดเทอม ส่วนโรงเรียนเอกชน ประเภทวิชาชีพ โรงเรียนฝึกอาชีพ ศิลปะ กีฬา สามารถดำเนินการได้ในบางชนิด ที่ ศบค.กำหนดก่อนหน้านี้ คือ ตะกร้อ แบดมินตัน ฟุตบอล ฟุตซอล แต่ห้ามการแข่งขัน ต้องสวมหน้ากากทุกคน
7. ศูนย์จัดแสดงสินค้า ศูนย์ประชุม ขนาดไม่เกิน 20,000 ตารางเมตร จำกัด 5,000 คน ตามขนาดพื้นที่ 4 ตารางเมตร ต่อคน เว้นระยะห่าง 1 เมตร และ เปิดบริการถึงเวลา 21.00 น.
8.ศูนย์พระเครื่อง พระบูชา เปิดได้ แต่ห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มกัน ทำได้แค่ส่องพระ แต่ห้ามการประมูล ห้ามกิจกรรมนำคนมารวมกลุ่มกันจำนวนมาก
9.ศูนย์รับเลี้ยงเด็ก เปิดให้เข้ามาเพื่อการเตรียมความพร้อมของสถานที่ แต่ยังไม่อนุญาตให้รับฝากเลี้ยงรายวัน
10.สถานประกอบการนวด ร้านนวดแผนไทย สปา ร้านนวดสุขภาพ เปิดได้ ยกเว้น นวดหน้า อบตัว อบสมุนไพร อาบอบนวด จำกัดการให้บริการไม่เกิน 2 ชม.ผู้ใช้บริการและผู้ให้บริการ ต้องสวมหน้ากาก
11.ค่ายมวย โรงยิม ให้เปิดแค่ฝึกซ้อม เช่น ชกลม ชกเป้า แต่ไม่อนุญาตให้ซ้อมคู่ เนื่องจากมีความใกล้ชิดกันมาก เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อ
12 .สนามกีฬา อนุโลมให้เปิดได้มากขึ้น เช่น สนามฟุตบอล ฟุตซอล บาสเกตบอล วอลเลย์บอล แต่ต้องไม่มีการแข่งขัน จำกัดจำนวนคนไม่เกิน 10 คน เว้นระยะห่างไม่น้อยกว่า 1 เมตร
13.สถานที่เล่น โบว์ลิ่ง สเก็ต หรือกิจกรรมอื่นๆ เปิดได้เฉพาะการเล่น ฝึกซ้อมเท่านั้น เล่นกับครอบครัว เพื่อนฝูง ต้องเว้นระยะห่างทั้งนั่งและยืนไม่น้อยกว่า 1 เมตร ห้ามมีการแข่งขัน เช่น โบว์ลิ่งการกุศล ยังห้าม
14.สถาบันลีลาศ ใช้สถานที่ไม่เกิน 5 ตารางเมตรต่อคน
15.สถานที่จัดกีฬาทางน้ำ เปิดได้เช่น เจ็ทสกี ไคท์เซิร์ฟ บานาน่าโบ๊ท
16.โรงภาพยนตร์ โรงมหรสพ เปิดได้ แต่จำกัดผู้ชมไม่เกิน 200 คน งดจัดคอนเสิรต์ กิจกรรมมีทแอนด์กรี๊ด หรือจัดกิจกรรมรวมกลุ่มจำนวนมากแบบใกล้ชิด
17.สวนสัตว์ เปิดได้ต้องปฏิบัติการตามมาตรการของรัฐ
ร.ต.อ.พงศกร กล่าวว่าโดยมาตรการคลายล็อก ทั้ง17 สถานที่ จะมีผลเปิดให้บริการได้ตั้งแต่วันที่1 มิ.ย.นี้เป็นต้นไปโดยไม่ต้องผ่าน ศบค.ใหญ่ พร้อมขอความร่วมมือ ให้ทุกคนลงทะเบียนเวลาเข้าใช้บริการสถานที่ต่างๆ ทางแอปพลิเคชั่น ไทยชนะ หรือ ลงทะเบียนจดบันทึกตามที่สถานประกอบกิจการต่างๆ เปิดให้ลงทะเบียน หากผู้ประกอบการใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการ สามารถแจ้งผ่านช่องทาง ทางแอปพลิเคชั่นไทยชนะได้ หลังจากนี้ กทม.จะจัดเจ้าหน้าที่สุ่มตรวจควบคู่กันไปด้วย.- สำนักข่าวไทย
![](https://imgs.mcot.net/images//2020/05/1590906496097.jpg)