“อุตตม” ยันรัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนในการกู้เงิน ยึดประชาชน-เศรษฐกิจเป็นหลัก

รัฐสภา 30 พ.ค.- “อุตตม” ยืนยัน รัฐบาลมีเป้าหมายชัดเจนในการกู้เงิน ยึดประชาชน-เศรษฐกิจเป็นหลัก ย้ำ พ.ร.ก.ซอฟต์โลน ให้อำนาจ ธปท.แค่ชั่วคราว หวังกระจายความช่วยเหลือธุรกิจ SMEs


นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงในที่ประชุมสภาว่า การที่สมาชิกมีเรื่องกังวลในการกู้เงินครั้งนี้ยังไม่มีเป้าหมายที่ชัดเจนนั้น ตนขอเรียนสมาชิกว่ารัฐบาลมีเป้าหมายที่ชัดเจนในการช่วยเหลือเยียวยาประชาชน และสร้างเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นหลักไม่น้อยกว่า 2% เพื่อให้มีความเข้มแข็งขึ้น รัฐบาลได้วางกรอบไว้อย่างครอบคลุม หากเกิดวิกฤตเช่นนี้ขึ้นอีก เราจะได้เตรียมการรับมือ เป็นการบริหารตามมาตรฐานสากล นั่นคือยึดเป้าหมายความยั่งยืนของประชาชน มีความมั่นคงทางการเงินระยะยาว ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันติดตามการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในการจัดสรรงบประมาณโครงการต่าง ๆ


นายอุตตม กล่าวต่อว่า ในส่วนการจัดการเงินกู้ เบิกจ่ายเงินกู้ การชำระเงินกู้ ซึ่งการบริหารจัดการจะทำโดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ และกระทรวงการคลังจะทำการกู้เงินด้วยแผนระยะยาว เพื่อให้กระจายตัวอย่างมีระบบ รวมถึงมีการบริหารความเสี่ยงด้วย ในส่วนของ พ.ร.ก.ซอฟต์โลน ตนขอยืนยันว่า ไม่ใช่การกู้เงิน เราไม่ได้มีปัญหาขาดสภาพคล่อง แต่เรากำลังเผชิญปัญหาเรื่องกลไลของสภาพคล่องที่ไม่ปกติในสถานการณ์ตอนนี้ พ.ร.ก.ฉบับนี้เป็นการให้อำนาจชั่วคราวกับธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อกระจายสภาพคล่องอย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการหลักในการดูแลธุรกิจเอสเอ็มอีรายเล็ก รายย่อย ที่มีพื้นฐานที่ดี เพื่อให้กระจายไปทั่วประเทศ นี่เป็นเพียงหนึ่งในชุดมาตรการ ไม่ใช่เป็นเพียงมาตรการเดียวในการแก้ไขปัญหาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งยังมีมาตรการอื่นในการช่วยเหลือผู้ประกอบการอีกหลายทาง เนื่องจากว่าแต่ละธุรกิจก็จะมีปัญหาที่แตกต่างกันไป จึงจำเป็นที่จะต้องมีหลายวิธีการในการดูแล


นายอุตตม ยังกล่าวต่อว่า อีกมาตรการหนึ่งที่รัฐบาลได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยดูแล คือ การทำให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทุกรายสามารถปรับตัวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ได้ เนื่องจากธุรกิจเอสเอ็มอีถือเป็นเครื่องจักรทางเศรษฐกิจที่สำคัญมากของประเทศ เราจึงต้องการสนับสนุน เกื้อหนุน ผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ทั้งทรัพยากรและบุคคลากรเพื่อให้เกิดความพร้อมและก้าวไปข้างหน้าได้ในช่วงภายหลังวิกฤตโควิด วันนี้จึงไม่ได้หยุดแค่เรื่องการฟื้นฟู แต่รัฐบาลกำลังเดินไปข้างหน้าแล้ว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกเอกราช

ศาลสั่งจำคุก 5 ปี 93 เดือน “เอกราช” สส.ภูมิใจไทย

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก 5 ปี 93 เดือน นายเอกราช ช่างเหลา สส.ขอนแก่น เขต 4 พรรคภูมิใจไทย พร้อมสั่งชดใช้เงินกว่า 405 ล้านบาท คดียักยอกเงินสหกรณ์ออมทรัพย์ครูขอนแก่น 1,275 ล้านบาท

ลูกนายกเบี้ยว

“อนุทิน” ลั่นต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว”

“อนุทิน” ลั่นไม่มีใครใหญ่กว่าผม ต้องดำเนินคดี “ลูกชายนายกเบี้ยว” ฮึ่มเป็นลูกใครทำผิดกฎหมายก็โดน ถามใหญ่กว่าผมไหม ถ้าไม่ใช่ก็โดนหมด

สลด แม่คลอดลูกเสร็จ ไปเล่นสงกรานต์ต่อ ปล่อยเด็กตาย

สลด สาววัย 27 ปี คลอดลูกทิ้งไว้ข้างกระถางต้นไม้ แล้วไปเล่นน้ำสงกรานต์ต่อ นานกว่า 1 ชม. มีคนแจ้งกู้ภัย พยายามปั๊มหัวใจ แต่ช่วยเด็กไม่ทัน

ผู้ป่วยแจ้งกู้ภัยเข้ามาช่วย แต่บอกบ้านเลขที่ผิด สุดท้ายเสียชีวิต

สลด หญิงวัย 54 ปี หายใจไม่ออกโทรแจ้งกู้ภัยให้เข้ามาช่วยพาส่งโรงพยาบาล แต่ปรากฏว่าแจ้งบ้านเลขที่ผิด เจ้าหน้าที่หลงทาง สุดท้ายไปไม่ทัน เสียชีวิตอยู่ข้างแม่ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง พบทั้งบ้านมีกองขยะสูงเท่าหลังคา

ข่าวแนะนำ

“นายกเบี้ยว” พาลูกเข้ารับทราบข้อกล่าวหา-ตร.ยัน “พีช” เจตนาทำผิดอาญา

กรณี “พีช” ลูกนายกเบี้ยว ขับรถหรูปาดหน้าชนกระบะลุงป้า ตำรวจ สภ.ลำลูกกา ยืนยันพฤติการณ์ไม่ใช่แค่ขับรถประมาท แต่เจตนาทำผิดคดีอาญา และโดนแจ้งข้อหาขับรถไม่มีใบอนุญาต เนื่องจากใบขับขี่หมดอายุตั้งแต่ปี 64 ขณะที่ล่าสุด “นายกเบี้ยว” พาลูกชายเข้ารับทราบข้อกล่าวหาแล้ว

“ชัชชาติ” รับหลักฐานบางส่วนเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

“ชัชชาติ” นำทีม กทม. พบ นายกฯ รายงานคืบหน้ากู้ซากอาคาร สตง. ถล่ม ย้ำ รัฐ-เอกชน ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ไม่ขาดเหลือด้านใด เผย นายกฯ ติดตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง พร้อมให้ความร่วมมือตำรวจเก็บหลักฐาน แนะ ไปหน้างานประสานเจ้าหน้าที่เก็บหลักฐานได้เลย ยอมรับ หลักฐานบางส่วนพังเสียหาย อาจตรวจสอบคุณภาพยาก

ปิดเขาล้อมจับมือปืนลำดับ 93 หนีคดี 10 ปี

ปฏิบัติการบุกขึ้นเขาปิดล้อม จับกุมมือปืนคนสำคัญ ลำดับ 93 ค่าหัว 1 แสนบาท ก่อเหตุอุกอาจหนีคดีมา 10 ปี แต่สุดท้ายไม่รอดมือตำรวจ