“องอาจ” กังวลเงินกู้ 4 แสนล้านใช้จ่ายไม่โปรงใส

รัฐสภา 30 พ.ค. –  “องอาจ” แสดงความกังวลเงินกู้ 4 แสนล้านในการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม เกรงการใช้จ่ายไม่โปรงใส  ชี้ ขณะเกิดวิกฤต ยังมีการทุจริต  เสนอ 5 แนวทางให้เกิดการใช้งบฯ อย่างโปร่งใส 


นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อภิปราย ในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (30 พ.ค.) ซึ่งเป็นการประชุมวันที่ 4 เพื่อพิจารณา พ.ร.ก.กู้เงิน 1.9 ล้านล้านบาท ว่า รู้สึกกกังวลการใช้เงินกู้ จำนวน 400,000 ล้านบาท ที่จะใช้ในการฟื้นฟูสภาพเศรษฐกิจและสังคม โดยส่วนตัวเห็นว่า ควรจะนำเงินส่วนนี้ไปใช้ฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก เพราะวิกฤตครั้งนี้ ประชาชนจำนวนมากเคลื่อนย้ายออกจากเมืองกลับไปสู่ชนบท เพื่อกลับไปพึ่งพาทำอาชีพในชนบทมากขึ้น  

นายองอาจ กล่าวว่า เม็ดเงินเพียง 400,000 ล้านบาท ไม่ได้มากมาย แต่อยู่ที่จะใช้อย่างไรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ไม่ให้เกิดการทุจริต โดยเฉพาะการทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง  ที่พบว่าแม้สถานการณ์ยากลำบากขณะนี้  ยังมีหน่วยงานทุจริตจัดซื้อจัดจ้างแพงเกินจริง  มีการเรียกเก็บค่าหัวคิวโรงแรมกักตัวคนไทยที่เดินทางกลับจากต่างประเทศ 


“แม้นายกรัฐมนตรีจะยืนยันว่า การใช้งบประมาณครั้งนี้ ไม่เกี่ยวกับนักการเมือง ไม่มีรัฐมนตรีเกี่ยวข้อง เพราะมีกรรมการกลั่นกรองที่เป็นข้าราชการประจำพิจารณาอย่างโปร่งใสอยู่แล้ว  แต่ส่วนตัวมองว่า อะไรเป็นหลักประกันได้ว่า ข้าราชการจะไม่ทุจริต เห็นได้จากปี 2557 แม้ไม่มีนักการเมือง เพราะเป็นรัฐบาลยึดอำนาจ แต่มีข้าราชการทุจริตจำนวนมาก ทั้งเบี้ยเลี้ยงผู้พิการ ทุจริตเงินทอนวัด ก็มาจากข้าราชการทั้งสิ้น” นายองอาจ กล่าว

นายองอาจ กล่าวว่า  ส่วนตัวจึงไม่ไว้ใจว่า เงินจำนวนนี้จะนำไปใช้อย่างโปร่งใส เพราะอาจมีโจรใส่สูทมาขูดรีดประชาชนจากการใช้เงินก่อนนี้ ได้ จึงขอเสนอ 5 แนวทาง ในการใช้เงินอย่างโปร่งใส คือ 1. ให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมในการทำโครงการตามนโยบายในการฟื้นฟูเศรษฐกิจ ที่ไม่ใช่เอาโครงการเก่ามาปัดฝุ่น แล้วอ้างสถานการณ์โควิดบังหน้า 2. ให้มีผู้ทรงคุณวุฒิภาคประชาชน เข้าร่วมเป็นคณะกรรมการกลั่นนกรอง เพื่อช่วยหาวิธีป้องกันการทุจริต 

นายองอาจ กล่าวว่า 3. มีแนวทางการใช้งบประมาณที่ชัดเจน ไม่คลุมเครือหรือสามารถตีความไปหลายทาง เอื้อต่อการทุจริต 4. เปิดเผยการใช้เงินของทุกโครงการให้ประชาชนตรวจสอบได้ตลอดเวลา และ 5. นายกรัฐมนตรีควรตั้งคณะกรรมการ เพื่อรับเรื่องร้องเรียนการทุจริตการใช้งบประมาณก้อนนี้ด้วย  


“ผมขอให้เงินกู้ครั้งนี้เป็นเงินกู้เพื่อประชาชน  ไม่ใช่เงินกู้เพื่อใครคนใดคนหนึ่ง” นายองอาจ กล่าว .- สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“หมอพรทิพย์” เผย แผลศพบอกได้ ฆาตกรรม หรือ ฆ่าตัวตาย

“หมอพรทิพย์” อดีต ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เผยบาดแผลที่ศพ “ผกก.โจ้” จะบ่งชี้ได้ว่า ถูกฆาตกรรม หรือฆ่าตัวตาย

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

รู้ตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุคาร์บอมบ์-ยิงถล่มที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก คาดฝีมือ นายอับดุลเลาะ บูละ แกนนำระดับสั่งการ ฝึกรบจากต่างประเทศ พบบางส่วนหนีขึ้นเขาตะเว บางส่วนข้ามชายแดนแล้ว

ชายแดนตึงเครียด ทหารเมียนมา-KNLA ยังปะทะเดือด

สถานการณ์ชายแดนไทย-เมียนมา ยังตึงเครียด ทหารเมียนมากับกะเหรี่ยงเคเอ็นแอลเอ ยิงปะทะดุเดือด ขณะที่ชาวเมียนมา อพยพเข้าไทยอีกครั้งแล้วหลายร้อยคน

เจอกระบะต้องสงสัยก่อเหตุหน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก

พบแล้ว รถกระบะต้องสงสัยใช้ก่อเหตุยิงปืนและลอบวางระเบิด หน้าที่ว่าการอำเภอสุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส เมื่อคืนนี้

ข่าวแนะนำ

เร่งล่าคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต

เจ้าหน้าที่เร่งล่าตัวคนร้ายไม่ต่ำกว่า 5 คน ซุ่มยิง อส.กรงปินัง เสียชีวิต ก่อนเผารถ ฉกปืนพกสั้น 9 มม. หลบหนี ทั้งยังพบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิดในพื้นที่ยะลาอีกหลายจุด

ลวงมาฆ่า จัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน 14 ล้าน

สุดโหด หนุ่มสกลนครถูกญาติตัวเองร่วมมือกับอดีตตัวแทนจำหน่ายประกัน ลวงมาฆ่า ก่อนจัดฉากเป็นอุบัติเหตุ หวังเงินประกัน พ.ร.บ.รถยนต์ 3 คัน รวม 14 ล้านบาท แต่บริษัทกลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถพบพิรุธ แจ้งตำรวจตรวจสอบ ก่อนออกหมายจับเบื้องต้น 4 คน