เร่งคลี่คลายคดี น.ส.ปุ๊ก วางยาเด็ก 2 คน

กทม.28 พ.ค.-   กองปราบ เร่งไขข้อสงสัยนางสาวปุ๊ก วางยาเด็กหญิงและเด็กชายจนเสียชีวิตและบาดเจ็บ เพื่อขอรับเงินบริจาค


         

ตำรวจชุดคลี่คลายคดีนางสาวปุ๊ก ที่ต้องสงสัยวางยาลูกสาวและลูกชาย 2 คน แล้วโพสต์หลอกเพื่อขอรับเงินบริจาค เปิดเผยว่า คดีมีความคืบหน้าไปกว่าร้อยละ 50 สืบสวนสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมพยานบุคคลและพยานเอกสารเพิ่มเติม รวมถึงรอผลตรวจจากกองพิสูจน์หลักฐานกลาง  ทั้งผลดีเอ็นเอ ลายนิ้วมือ ยา 15 กระปุกที่พบในบ้าน พักย่านถนนเทิดราชัน เขตดอนเมือง เพื่อประกอบสำนวนคดีให้มีความละเอียดและรัดกุม


ส่วนเส้นทางการเงิน อยู่ระหว่างตรวจสอบบัญชีธนาคารของคนในครอบครัว ผู้ใกล้ชิดเพิ่มเติม นอกเหนือจาก  5 บัญชีที่มีการเปิดรับริจาคและบัญชีส่วนตัวของนางสาวปุ๊ก ที่มีเงินหมุนเวียนกว่า 15 ล้านบาท ว่ามีการโยกย้ายถ่ายเทไปให้ผู้ใดหรือไม่ เบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีการนำเงินไปซื้อทรัพย์สินใด เชื่อว่าเป็นการนำเงินไปใช้ในชีวิตประจำวันทั่วไปมากกว่า เนื่องจากจำนวนเงินเข้ามีตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพัน แล้วถูกกดไปใช้ในแต่ละวันที่มีผู้โอนมา  โดยพบการทำธุรกรรมการรับโอน แล้วกดเงิดกว่า 10,000 ครั้ง  แต่ยังไม่ตัดประเด็นที่ว่า มีการโยกย้ายเงินไปบัญชีอื่นหรือไม่ โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบ

กรณีมีข่าวว่า แพทย์ออกมาระบุว่า ยังมีค่าแล็ปตรวจในต่างประเทศที่ยังไม่ได้จ่าย แต่ผู้ต้องหาอ้างว่าได้จ่ายไปแล้วเป็นเงินหลักล้านบาทนั้น จะสอบถามแพทย์เพิ่มเติม และตรวจสอบอีกครั้ง เพื่อนำข้อมูลมาเปรียบเทียบกับยอดเงินที่ได้รับบริจาค

จากการตรวจสอบพฤติกรรมของนางสาวปุ๊ก ไม่พบว่ามีอาชีพอื่น มีเพียงขายสินค้าชนิดต่างๆทางออนไลน์ ล่าสุดขายหน้ากากอนามัยและเปิดบัญชีรับบริจาคค่ารักษาพยาบาลเด็ก  โดยผู้ต้องหาสร้างความน่าเชื่อด้วยการสร้างเพจเฟซบุ๊คปลอมอีกอันสมมุติให้เป็นคนอื่น เพื่อใช้สำหรับพูดคุยตอบโต้กับเฟซบุ๊คหลัก เพื่อแสดงให้ลูกค้าเห็นว่า มีการได้รับสินค้าจริง สร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเอง


ส่วนการสอบปากคำพยาน มีการสอบไปแล้วกว่า 10 ปาก เช่น บุคคลใกล้ชิดและผู้เกี่ยวข้อง แพทย์ที่รักษาเด็ก รวมถึงยังต้องขอความเห็นจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลอื่นประกอบ 

นอกจากนี้ ได้ประสานทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ กรมราชทัณฑ์ ขอให้จัดส่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านจิตเวชเข้าทำการตรวจสอบนางสาว ปุ๊กในเรือนจำ เพื่อพิสูจน์ว่า มีปัญหาทางสุขภาพจิตหรือไม่ และหากผลการตรวจวินิจฉัยพบว่ามีปัญหาด้านสุขภาพจิตจริงก็จะมีการพิจารณาดูต่ออีกว่าอาการป่วยอยู่ในเกณฑ์ใด และจะมีผลทางคดีหรือไม่ แต่เบื้องต้นยังไม่พบประวัติรับรักษาอาการป่วยทางจิต.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว