สั่งประหารสถานเดียว “แม่ปุ๊ก” วางยาเด็กจนตายปี 58-63

กทม. 15 ก.ย. – ศาลสั่งประหารสถานเดียว “แม่ปุ๊ก” วางยาเด็กจนตายปี 58-63 จัดฉากขอเงินบริจาคค่าเลี้ยงดูจากคนใจบุญ ขายของออนไลน์ ศาลชี้สารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ไม่ลดโทษให้ คืนเงินบริจาคกว่า 40,000


วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านพิพากษาคดีหมายเลขดำ คม.38/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 3 โจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฐติวรรณ หรือภัทธานิษฐ์ หรือนิษฐา หรือปุ๊ก จิตรำลึก หรือจิตลำลึก หรือวงวาล หรือวัฒนกุลทิตย์ หรือรักษ์กุลเจตน์ อายุ 31 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ เพื่อแสวงหาประโยชน์จากการนำคนมาขอทาน เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ทำการขอทานฯ, ฉ้อโกงฯ, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ชักจูงใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22 เม.ย.58 -12 ส.ค.62 จำเลยซึ่งรับเด็กหญิง อายุ 4 ปีเศษ (ผู้ตาย) จากมารดามาเลี้ยงมาอุปการะเลี้ยงดูในบ้านจำเลย โดยขณะรับเลี้ยงนั้นให้เด็กกลืนอาหารที่มีการผสมสารมีฤทธิ์กัดกร่อนต่อเนื่องกันหลายครั้ง เป็นเหตุให้เด็กมีอาการบาดเจ็บทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูงรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด จนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหลายครั้ง แล้วจำเลยนำภาพของเด็กขณะที่เจ็บป่วยไปโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เชิญชวนประชาชนให้เกิดความสงสาร มาร่วมช่วยเหลือซื้อสินค้าต่างๆ และขอรับเงินบริจาคค่ารักษาพยาบาล


นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 10 ก.ย.60 – 18 พ.ค.63 จำเลยได้ทำให้บุตรชายของจำเลยอายุ 2 ปีเศษ บาดเจ็บสาหัส จากการกลืนกินอาหารที่มีสารฤทธิ์กัดกร่อนผสมอยู่ต่อเนื่องหลายครั้ง โดยจำเลยโพสต์ภาพเด็กขณะเจ็บป่วยเชิญชวนให้มีการบริจาคเช่นเดียวกัน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ 2-6 เกิดความสงสารและได้ร่วมบริจาคผ่านบัญชีของจำเลย ระหว่างการพิจารณา

จำเลยให้การรับสารภาพ และถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานเห็นว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 (1)(2), 35, 52 วรรคสาม, 53/1 (1)(2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 289, 290, 342, 343 วรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1)(2) พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26(5), 78 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13 (2) วรรคหนึ่ง, 19


การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหาฯ จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อแสงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนมาขอทานหรือการอื่นที่คล้ายคลึงกัน อันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัส, ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำการขอทานโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ชักจูงส่งเสริมยินยอมหรือกระทำ ด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือกระทำผิดเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหาฯ จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนมาขอทานหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พิพากษาประหารชีวิต ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุกตลอดชีวิต ฐานฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน, ฐานฉ้อโกงโดยการแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายบท ให้ลงโทษฐานฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ซึ่งเป็นหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 กระทง กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 30 ปี

ส่วนที่จำเลยให้การรับสารภาพนั้น เพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงไม่ลดโทษให้ โดยเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงให้ประหารชีวิตสถานเดียว

ทั้งนี้ เมื่อจำเลยต้องโทษประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษที่โจทก์ขอบวกโทษมารวมเข้ากับคดีนี้ได้อีก และไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่โจทก์ขอ และให้จำเลยคืนเงิน จำนวน 31,600 บาท จำนวน 2,000 บาท จำนวน 3,800 บาท จำนวน 3,140 บาท จำนวน 2,400 บาท รวม 42,940 บาท แก่ผู้บริจาค 5 คน ริบโทรศัพที่เคลื่อนที่ของกลาง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง