สั่งประหารสถานเดียว “แม่ปุ๊ก” วางยาเด็กจนตายปี 58-63

กทม. 15 ก.ย. – ศาลสั่งประหารสถานเดียว “แม่ปุ๊ก” วางยาเด็กจนตายปี 58-63 จัดฉากขอเงินบริจาคค่าเลี้ยงดูจากคนใจบุญ ขายของออนไลน์ ศาลชี้สารภาพเพราะจำนนต่อหลักฐาน ไม่ลดโทษให้ คืนเงินบริจาคกว่า 40,000


วันนี้ (15 ก.ย.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลอ่านพิพากษาคดีหมายเลขดำ คม.38/2563 ที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีค้ามนุษย์ 3 โจทก์ ยื่นฟ้อง น.ส.ณัฐติวรรณ หรือภัทธานิษฐ์ หรือนิษฐา หรือปุ๊ก จิตรำลึก หรือจิตลำลึก หรือวงวาล หรือวัฒนกุลทิตย์ หรือรักษ์กุลเจตน์ อายุ 31 ปี เป็นจำเลย ในความผิดฐานค้ามนุษย์ฯ เพื่อแสวงหาประโยชน์จากการนำคนมาขอทาน เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัสและถึงแก่ความตาย, พยายามฆ่าผู้อื่นฯ, ทำร้ายร่างกายผู้อื่นฯ ทำการขอทานฯ, ฉ้อโกงฯ, ฉ้อโกงโดยแสดงตนเป็นคนอื่นฯ, นำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ฯ ชักจูงใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทาน

กรณีเมื่อระหว่างวันที่ 22 เม.ย.58 -12 ส.ค.62 จำเลยซึ่งรับเด็กหญิง อายุ 4 ปีเศษ (ผู้ตาย) จากมารดามาเลี้ยงมาอุปการะเลี้ยงดูในบ้านจำเลย โดยขณะรับเลี้ยงนั้นให้เด็กกลืนอาหารที่มีการผสมสารมีฤทธิ์กัดกร่อนต่อเนื่องกันหลายครั้ง เป็นเหตุให้เด็กมีอาการบาดเจ็บทางเดินอาหาร ความดันโลหิตสูงรุนแรง อาเจียนเป็นเลือด จนต้องเข้ารักษาในโรงพยาบาลหลายครั้ง แล้วจำเลยนำภาพของเด็กขณะที่เจ็บป่วยไปโพสต์บนเฟซบุ๊กส่วนตัว เชิญชวนประชาชนให้เกิดความสงสาร มาร่วมช่วยเหลือซื้อสินค้าต่างๆ และขอรับเงินบริจาคค่ารักษาพยาบาล


นอกจากนี้ ระหว่างวันที่ 10 ก.ย.60 – 18 พ.ค.63 จำเลยได้ทำให้บุตรชายของจำเลยอายุ 2 ปีเศษ บาดเจ็บสาหัส จากการกลืนกินอาหารที่มีสารฤทธิ์กัดกร่อนผสมอยู่ต่อเนื่องหลายครั้ง โดยจำเลยโพสต์ภาพเด็กขณะเจ็บป่วยเชิญชวนให้มีการบริจาคเช่นเดียวกัน ซึ่งมีผู้เสียหายที่ 2-6 เกิดความสงสารและได้ร่วมบริจาคผ่านบัญชีของจำเลย ระหว่างการพิจารณา

จำเลยให้การรับสารภาพ และถูกคุมขังที่ทัณฑสถานหญิงกลาง

ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานเห็นว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ.2551 มาตรา 6 (1)(2), 35, 52 วรรคสาม, 53/1 (1)(2) ประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 80, 91, 289, 290, 342, 343 วรรคสอง พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 มาตรา 14 (1)(2) พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 มาตรา 26(5), 78 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 มาตรา 13 (2) วรรคหนึ่ง, 19


การกระทำของจำเลยเป็นความผิดหลายกรรมต่างกัน ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 91 ฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหาฯ จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อแสงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนมาขอทานหรือการอื่นที่คล้ายคลึงกัน อันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำรับอันตรายสาหัส, ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย, ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, ทำการขอทานโดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย, ชักจูงส่งเสริมยินยอมหรือกระทำ ด้วยประการใดให้เด็กไปเป็นขอทาน หรือใช้เด็กเป็นเครื่องมือในการขอทานหรือกระทำผิดเป็นกรรมเดียวผิดกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานค้ามนุษย์โดยเป็นธุระจัดหาฯ จัดให้อยู่อาศัยหรือรับไว้ซึ่งเด็กอายุไม่เกิน 15 ปี เพื่อแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบจากการนำคนมาขอทานหรือการอื่นใดที่คล้ายคลึงกันอันเป็นการขูดรีดบุคคลไม่ว่าบุคคลนั้นจะยินยอมหรือไม่ก็ตาม เป็นเหตุให้ผู้ถูกกระทำถึงแก่ความตาย ซึ่งเป็นกฎหมายบทที่มีโทษหนักที่สุด ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 พิพากษาประหารชีวิต ฐานพยายามฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน จำคุกตลอดชีวิต ฐานฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชน, ฐานฉ้อโกงโดยการแสดง ข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น และโดยทุจริตหรือโดยหลอกลวงนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จโดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน เป็นกรรมเดียวเป็นความผิดต่อกฎหมายบท ให้ลงโทษฐานฉ้อโกงโดยการแสดงข้อความอันเป็นเท็จต่อประชาชนโดยแสดงตนเป็นคนอื่น ซึ่งเป็นหมายบทที่มีโทษหนักที่สุดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 90 จำคุก 6 กระทง กระทงละ 5 ปี รวมจำคุก 30 ปี

ส่วนที่จำเลยให้การรับสารภาพนั้น เพราะจำนนต่อหลักฐาน จึงไม่ลดโทษให้ โดยเมื่อรวมโทษทุกกระทงแล้วคงให้ประหารชีวิตสถานเดียว

ทั้งนี้ เมื่อจำเลยต้องโทษประหารชีวิตแล้ว จึงไม่อาจนำโทษที่โจทก์ขอบวกโทษมารวมเข้ากับคดีนี้ได้อีก และไม่นับโทษจำเลยต่อจากคดีที่โจทก์ขอ และให้จำเลยคืนเงิน จำนวน 31,600 บาท จำนวน 2,000 บาท จำนวน 3,800 บาท จำนวน 3,140 บาท จำนวน 2,400 บาท รวม 42,940 บาท แก่ผู้บริจาค 5 คน ริบโทรศัพที่เคลื่อนที่ของกลาง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้าน

กทม. 1 ก.ค.-ออกหมายจับ 5 คนแก๊ง “เสือปุ่น” ปล้นเงินสด 3.4 ล้านตุ๋นแลกคริปโตฯ ชุดสืบปูพรมล่า จากกรณีกลุ่มคนร้าย 7 คน ก่อเหตุปล้นทรัพย์ เงินสด 3.4 ล้านบาท โดยใช้อาวุธมีดจี้ ข่มขู่ผู้เสียหาย 3 คน ที่มาซื้อเงินคริปโตเคอร์เรนซี่ สกุลเวิน USDT จำนวน 100,000 ดอลล่า ภายในลานจอดรถศูนย์การค้าชื่อดังย่านลาดพร้าว แขวงและเขตจตุจักร กทม. เมื่อช่วงเวลา 19.30 น. ของวานนี้ (30 มิ.ย.) ภายหลัง พล.ท.สยาม บุญสม ผบช.น. และ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำชุดสืบสวนเร่งรัดติดตามตัว จนสามารถจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว อายุ 25 ปี […]

“ทักษิณ” พร้อมลูกสาว เดินทางออกจากศาลอาญา หลังสืบพยานนัดแรก

1 ก.ค. – บรรยากาศที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ภายหลังนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เดินทางเข้าสืบพยานโจทก์นัดแรกในคดีหมายเลขดำ อ.1860/2567 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 8 เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายทักษิณ เป็นจำเลยในความผิด ฐานดูหมิ่นสถาบันฯ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา ม.112 และ พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ เมื่อเวลา 12.10 น. นายทักษิณ พร้อมด้วย น.ส.พินทองทา ชินวัตร คุณากรวงศ์ หรือเอม ได้เดินทางกลับโดยใช้ประตูด้านข้างของศาลอาญา ก่อนขึ้นรถออกไป โดยเลี้ยวออกไปทางประตูของศาลแพ่ง และเลี้ยวออกถนนพหลโยธินโดยทันที โดยมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงยืนคอยให้กำลังใจอยู่บริเวณริมฟุตบาธบริเวณประตูทางออกอยู่จำนวนหนึ่ง ทั้งนี้มีนางเพญ พินิจอักษร ชาวจังหวัดศรีสะเกษ ถือรูปนายทักษิณ โดยมีการเขียนข้อความในภาพว่าขอส่งกำลังใจให้นายกฯในดวงใจ พร้อมถือพวงมาลัยดอกมะลิพวงใหญ่ และมีกลุ่มมวลชนสวมเสื้อสีแดงกลุ่ม 50 เขตแดน กทม. มาให้กำลังใจด้วยเช่นเดียวกัน จากนั้น นายวิญญัติ ชาติมนตรี ทนายความส่วนตัว นายทักษิณ ได้เดินมาทำความเข้าใจกับสื่อมวลชนหลังจากที่ศาลอาญาได้มีการพักการสืบพยาน ว่า ขอให้สื่อมวลชนใช้วิจารณญาณว่าจะอยู่หรือไม่อยู่ เพราะศาลใช้การพิจารณาลับ ทั้งนี้ไม่สามารถพูดอะไรในกระบวนการได้ จะพูดได้แค่มีพยานกี่ปาก […]

ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ธปท.เผย “คุณสู้ เราช่วย” เฟส 2 เพิ่ม “จ่าย ตัด ต้น” พร้อมขยายขอบเขต 2 มาตรการเดิม “จ่ายตรง คงทรัพย์” และ “จ่าย ปิด จบ” มีลูกหนี้เข้าเกณฑ์ 1.8 ล้านราย ยอดนี้ประมาณ 3.1 แสนล้านบาท นางสาวสุวรรณี เจษฎาศักดิ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผย ว่า ภายใต้เศรษฐกิจที่มีความไม่แน่นอนสูง ยังมีลูกหนี้กลุ่มเปราะบางจำนวนมากที่มีปัญหาในการชำระหนี้ และพบว่าลูกหนี้ยังให้ความสนใจเข้าร่วมโครงการอย่างต่อเนื่อง แต่บางส่วนไม่สามารถเข้าร่วมได้เนื่องจากคุณสมบัติไม่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด กระทรวงการคลัง สศช. ธปท. ธนาคารพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจ รวมถึงผู้ประกอบธุรกิจ non-bank ที่เป็นบริษัทในกลุ่มธุรกิจทางการเงินของธนาคารพาณิชย์ เห็นควรขยายระยะเวลาลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการคุณสู้เราช่วยเฟส 1 (เดิมสิ้นสุด 30 มิ.ย.68) และให้ความช่วยเหลือเพิ่มเติม ภายใต้โครงการ […]

“บิ๊กเต่า” เร่งสอบบัญชีวัดดัง พบเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลายครั้ง

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – “บิ๊กเต่า” เร่งสอบ 5 บัญชี เงินวัดตรีฯ-ทิดอาชว์ พบมีเส้นเงินไหลเข้าสีกาคนสนิทหลักหมื่นถึงหลักแสนบาทหลายครั้ง ส่วนคลิปลับแชทหลุดเป็นหน้าที่สำนักพุทธฯ ตรวจสอบ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เรียกประชุมตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. เพื่อติดตามความคืบหน้าการตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายของวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังพบพิรุธพระเทพวชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือ “เจ้าคุณอาชว์” ได้ลาสิกขาหรือสึก ที่ จ.หนองคาย อย่างกะทันหัน พล.ต.ต.จรูญเกียรติ เปิดเผยภายหลังการประชุมว่า จากการเข้าตรวจสอบบัญชีรายรับรายจ่ายที่วัดตรีทศเทพเมื่อวานนี้ ยังไม่เป็นที่น่าพอใจ ทางวัดให้เอกสารทางบัญชีมาบางส่วน พระหลายรูปกังวลหวาดกลัวจึงไม่ค่อยให้ความร่วมมือเท่าที่ควร แต่ตำรวจได้ประสานรักษาการเจ้าอาวาสวัด เพื่อให้แต่งตั้งไวยาวัจกรใหม่ ซึ่งเชื่อว่าหลังจากนี้จะได้รับความร่วมมือมากขึ้น โดยตำรวจได้ประสานขอรายการเดินบัญชีธนาคารของวัด 5 บัญชี เป็นบัญชีที่เกี่ยวกับเงินกฐิน ค่าเช่าที่จอดรถ ฌาปนกิจศพ ค่าน้ำค่าไฟ และภาพวาดโบราณ และบัญชีที่ต้องสงสัยอีกจำนวนหนึ่ง มาตรวจสอบทั้งหมด รวมถึงบัญชีส่วนตัวของทิดอาชว์ เบื้องต้นตำรวจมีข้อมูลน่าเชื่อได้ว่า ตำแหน่งเจ้าอาวาสไม่ได้มีเงินเยอะ แต่ตำรวจเห็นหลักฐานการโอนเงินบางส่วนไปยังสีกาหญิงหลายรายการ ยอดเงินตั้งแต่หลักหมื่นถึงหลักแสนบาท ซึ่งอาจเป็นเงินของวัด หรืออาจใช้ให้คนอื่นไปโอน […]

ข่าวแนะนำ

“สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณ

3 ก.ค. – “สุริยะ” นำ 14 รมต.ใหม่ เข้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนเข้ารับหน้าที่ ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออก ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะรัฐมนตรี ซึ่งทรงพระกรุณาโปรดกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งใหม่ จำนวน 14 คน เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ถวายสัตย์ปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่ .-สำนักข่าวไทย

ชื่นมื่น! 5 พรรคร่วมฝ่ายค้านประสานมือ ต้อนรับน้องใหม่ “ภท.”

รัฐสภา 3 ก.ค.- “พรรคร่วมฝ่ายค้าน” ชื่นมื่น ประสานมือ 5 พรรค ต้อนร้บน้องใหม่ “ภูมิใจไทย” ด้าน “ณัฐพงษ์” ถกแนวทางแสวงหาจุดร่วมเพื่อผลักดัน ย้ำ ไม่ก้าวก่ายจุดยืนข้อแตกต่าง “อนุทิน” ปลื้ม ถูกต้อนรับอบอุ่น ยัน พร้อมตรวจสอบรัฐบาลเต็มที่ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้านนัดแรก ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ เพื่อหารือทิศทางการทำงาน โดยแกนนำแต่ละพรรคที่เข้าร่วม มีดังนี้ แกนนำพรรคประชาชน ประกอบด้วยนายณัฐพงษ์ นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรค ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ กรรมการบริหารพรรค และนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรค แกนนำพรรคภูมิใจไทย ประกอบด้วยนายอนุทิน […]

14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบถ่ายรูป ก่อนถวายสัตย์ปฏิญาณ

ทำเนียบ 3 ก.ค.- ชื่นมื่น! 14 รมต.ใหม่ เข้าทำเนียบฯ ตั้งแต่ช่วงเช้า ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ “อรรถกร” มาถึงคนแรก ปิดท้ายด้วย “นายกฯ แพทองธาร” เตรียมประชุม ครม. นัดพิเศษในช่วงบ่าย แบ่งงานรองนายกฯ ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่ทำเนียบรัฐบาล รัฐมนตรีใหม่ 14 คน ทยอยเดินทางมายังตึกสันติไมตรี เพื่อตรวจเอทีเค ถ่ายรูปทำบัตรประจำตัว ก่อนเข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณก่อนปฏิบัติหน้าที่ โดยเวลา 07.40 น. รัฐมนตรีที่เดินทางมาเป็นคนแรก คือ นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรสหกรณ์ และ นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี จากนั้น นายชัยชนะ เดชเดโช รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ตามด้วย นายอนุชา สะสมทรัพย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน นายฉันทวิชญ์ ตัณฑสิทธิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่ในภาคเหนือ-อีสานตอนบน-ตะวันออก

กรุงเทพฯ 3 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคอีสานตอนบน ภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% และมีฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า บริเวณประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และภาคตะวันออก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดต่างๆ ตามที่ระบุไว้ในรายภาค ระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากร่องมรสุมกำลังค่อนข้างแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนบนและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนล่างและเวียดนามตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง […]