ผลตรวจดีเอ็นเอ บนขวดยาบ้าน น.ส.ปุ๊ก ออกแล้ว

กทม.30 พ.ค.-  พฐ.ส่งผลตรวจดีเอ็นเอบนขวดยาที่ยึดได้จากบ้านนางสาวปุ๊ก ให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว แต่ยังไม่ขอเปิดรายละเอียด 


พลตำรวจตรีธวัชชัย เมฆประเสิรฐสุข ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ปฏิบัติราชการสำนักงานพิสูจน์หลักฐานตำรวจ เปิดเผยผลการตรวจขวดและภาชนะบรรจุสารเคมีต้องสงสัย ที่พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ตรวจยึดได้ในบ้านของนางสาวปุ๊ก ผู้ต้องสงสัยก่อเหตุวางยาเด็ก 2 คน เพื่อขอรับเงินบริจาค โดยในส่วนของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ได้เก็บดีเอ็นเอและลายนิ้วมือ ที่อยู่โดยรอบขวดไปตรวจเปรียบเทียบกับหลักฐานที่เก็บได้จากผู้ต้องหา และสิ่งของส่วนตัวภายในบ้าน  ว่าผู้ใดมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาขวดดังกล่าวบ้าง ซึ่งผลการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว และได้ส่งรายงานให้กับพนักงานสอบสวนกองปราบปรามนำไปประกอบสำนวนการสอบสวนแล้ว แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ว่า มีดีเอ็นเอของบุคคลใดบ้าง และสารเคมีภายในขวดจะเป็นตัวยาชนิดใดบ้างนั้นยังไม่สามารถตอบได้ เพราะต้องให้ผู้เชี่ยวชาญจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา หรือ อย. เป็นผู้ตรวจพิสูจน์ เนื่องจากเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการตรวจสอบยามากกว่าสำนักงานพิสูจน์หลักฐาน ซึ่งได้ชี้แจงให้พนักงานสอบสวนกองปราบปรามแล้ว 


อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผู้กำกับการ 4 กองบังคับการปราบปราม เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับรายงานผลลายนิ้วมือหรือผลตรวจดีเอ็นเอจากพนักงานสอบสวน หากกองพิสูจน์หลักฐานส่งรายงานผลมาให้พนักงานสอบสวน  ก็ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ว่ามีลายนิ้วมือหรือดีเอ็นเอของบุคคลใดบ้าง แต่เบื้องต้นในส่วนของสารเคมีต้องสงสัย ที่พนักงานสอบสวนส่งไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ระบุชนิดแล้ว เมื่อวานนี้(29 พ.ค.) พนักงานสอบสวนก็ได้เร่งรัดสอบถามความคืบหน้าไปแล้ว ทราบว่าผู้มีอำนาจของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างให้ความสนใจกับคดีนี้ และกำลังเร่งผลการตรวจสอบให้อยู่ แต่เนื่องจากเป็นคดีละเอียดอ่อน และต้องการความถูกต้อง จึงต้องใช้เวลาในการตรวจสอบดังกล่าวอย่างละเอียด ส่วนการประสานกรมราชทัณฑ์เพื่อขอให้มีการตรวจสุขภาพจิตนางสาวปุ๊กนั้น พนักงานสอบสวนได้ทำหนังสือขอไปแล้วแต่ยังไม่ได้รับการตอบกลับมา อย่างไรก็ตามการตรวจสุขภาพจิตผู้ต้องหา สามารถให้จิตแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญของราชทัณฑ์ดำเนินการตรวจได้เลย โดยไม่ต้องให้พนักงานสอบสวนเข้าร่วมสังเกตการณ์ใด หากตรวจแล้วเสร็จจึงจะรายงานผลกลับมาที่พนักงานสอบสวน เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดีต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ใบประกอบวิชาชีพครู

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู”

เตือนคุณครูเปิดเทอมนี้ ต้องมี “ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู” แนะรีบต่ออายุใบอนุญาต หลังคุรุสภาออกมาตรการ 5 ต. คุมเข้มทุกโรงเรียนทั่วไทย

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล

เริ่ม 1 พ.ค.นี้ นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดินทางเข้าไทย ต้องลงทะเบียนบัตร ตม.6 แบบดิจิทัล หรือ TDAC ล่วงหน้า อย่างน้อย 3 วันก่อนเดินทาง ตามกฎใหม่ ตม.

พีชเรียกอาต่าย

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” โอ้อวดเรียก “อาต่าย” ลั่นไม่ใช่ญาติ

ผบ.ตร.ไม่ปลื้ม “พีช” คู่กรณีรถกระบะ โอ้อวดเรียก “อาต่าย” รู้จักคนในรัฐบาล หวังผลคดี ลั่นไม่ใช่ญาติ สอนลูกเสมออย่าทำตัวเป็นขยะสังคม บอกประชาชนใช้วิจารณญาณเลือกตั้ง

“นายกเบี้ยว” ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้-ดูแลลุงคู่กรณี

“นายกเบี้ยว” รับจบแทนลูก ยอมรับลูกขับรถหวาดเสียว พร้อมชดใช้ ดูแลลุงคู่กรณี ระบุสอนลูกไม่ดี ไม่มีเวลาให้ลูก ปฏิเสธไม่สนิทกับ ผบ.ตร. อย่าเอาท่านมาแปดเปื้อน ส่วนที่ลูกชายยังไม่ไปเยี่ยมลุงคู่กรณี เนื่องจากกลัวโดนถูกโวยวาย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัดบางพื้นที่-กทม.ฟ้าคะนอง 10%

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดบางพื้นที่ โดยมีฝนฟ้าคะนองกับลมกระโชกแรงบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางแห่ง กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 10% ส่วนมากช่วงบ่ายถึงค่ำ

สอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการไชน่า เรลเวย์ฯ ปฏิเสธทุกข้อหา

ดีเอสไอสอบเข้ม “ชวนหลิง จาง” กรรมการ บ.ไชน่า เรลเวย์ฯ เบื้องต้นให้การปฏิเสธทุกข้อหา อ้างเป็นผู้แทนรัฐวิสาหกิจจีนมาลงทุนในไทย ถูกส่งมาบริหารบริษัทในไทยเท่านั้น

“พีช” หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายแล้ว

“นายกเบี้ยว” พร้อมลูกชาย หอบเงิน 2 แสน หวังจ่ายค่ารักษาลุงป้า แต่ญาติชิงจ่ายก่อนแล้ว จึงฝากจดหมายขอโทษไว้ ด้าน “กัน จอมพลัง” ยอมถอย ให้สองฝ่ายพูดคุย แต่ต้องเป็นรูปธรรม

นักธรณีคาดดินยุบตัว เพราะเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง

นักธรณีวิทยาลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุดินยุบตัว กินพื้นที่กว่า 4 ไร่ เบื้องต้นคาดเป็นจุดทางน้ำไหลผ่านจนเกิดโพรง ทำให้ดินยุบตัวเป็นวงกว้าง