กทม.28 พ.ค.- หลังประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ ตั้งแต่มีนาคม-พฤษภาคม ทำคดีเกี่ยวกับทรัพย์ ร่างกาย เพศ ลด แต่คดีเกี่ยวกับคอมฯและสื่อออนไลน์เพิ่มขึ้น
พลตำรวจโทปิยะ อุทาโย ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงภาพรวมเหตุอาชญากรรมหลังประกาศใช้ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม ถึง 23 พฤษภาคม 2563 ว่า จากสถิติภาพรวม ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม 2563 ถึง 23 พฤษภาคม 2563 พบว่าเหตุอาชญากรรมลดลง เมื่อเทียบกับห้วงเวลาเดียวกันของปี 2562 โดยคดีกระทำความผิดเกี่ยวกับ ร่างกาย เพศ ลดลง 79 คดี ความผิดเกี่ยวกับทรัพย์ ลดลง 54 คดี และความผิดตาม พ.ร.บ.ที่มีโทษทางอาญาลดลง 986 คดี ส่วนยอดการจับกุม เพิ่มขึ้นกว่า 25,697 คดี เป็นผลมาจากการตั้งด่านตรวจเคอร์ฟิว และการส่งสายตรวจไปตามแหล่งชุมชนต่างๆ
จากสถิติจะเห็นได้ว่าการประกาศเคอร์ฟิว ปิดสถานบริการ ห้ามจำหน่ายสุรา ส่งผลให้คดีอาญากรรมที่เกิดขึ้นจากการเมาสุรา แล้วมาก่ออาชญากรรม เช่น อุบัติเหตุการจราจร เนื่องจากเมาแล้วขับ รวมถึงเด็กแว้นลดลง เช่นเดียวกับคดีอาชญากรรมที่คนต้องเผชิญหน้า เนื่องจากคนออกจากบ้านลดลง แต่ในทางกลับกัน คดีที่เกี่ยวข้องกับคอมพิวเตอร์และสื่อออนไลน์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะคดีฉ้อโกงออนไลน์ หลอกขายสินค้าต่างๆ โดยเฉพาะหน้ากากอนามัย และเจลแอลกอฮอร์ล้างมือ ดังนั้น ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ จึงต้องสั่งการให้ปรับรูปแบบการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อให้สอดคล้องกับรูปแบบอาชญากรรมที่เปลี่ยนไป จัดตั้งหน่วยงานพิเศษ ขึ้นสืบสวนและดูแลคดีที่ใช้เทคโนโลยีออนไลน์โดยตรง รวมถึงเชื่อมโยงฐานข้อมูลคดีอาชญากรรม หรือ ระบบคราม ให้สถานีตำรวจทั่วประเทศเข้าถึง ตลอดจนให้เจ้าหน้าที่สายตรวจ ตรวจสอบข้อมูลผ่านแอปพลิเคชั่นบนมือถือ ส่วนจะมีการนำข้อมูลไปปรับใช้ในเฟส 3 หรือไม่ นายกรัฐมนตรีได้มีการสั่งการให้เก็บรวบรวมข้อมูลทั้งหมด
อย่างไรก็ตาม สถิติทางอาชญากรรมจะลดลงแต่คดีเกี่ยวกับการพนันไม่ได้ปรับลดลงตามไปด้วยดังนั้นจึงฝากถึงประชาชนให้มีวินัยและปฎิบัติตามกฎหมาย ซึ่งเป็นตัวแปลสำคัญที่ทำให้การเกิดอาชญากรรมลดลง.-สำนักข่าวไทย