fbpx

เปิดรายงานสุขภาพคนไทย 2563 ยกย่องระบบสุขภาพไทยดีเยี่ยมติดอันดับโลก

กทม.27พ.ค.-สสส.ร่วมกับสถาบันวิจัยประชากรและสังคม ม.มหิดล เปิดรายงานสุขภาพคนไทย 2563 ยกย่องระบบสุขภาพไทยดีเยี่ยมติดอันดับนำของเอเชียและของโลก คะแนนรวม 73.2 เกินค่าเฉลี่ยทั่วโลกเกือบครึ่ง ติด 1 ใน 13 ประเทศพร้อมรับมือกับโรคระบาดมากสุด


ดร.ณัฐพันธุ์ ศุภกา ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาภาคีสัมพันธ์และวิเทศสัมพันธ์ สสส.กล่าวว่า สสส.ขอชื่นชมบุคลากรทางการแพทย์ที่มุ่งมั่นทุ่มเทปฏิบัติงานเพื่อลดตัวเลขของผู้ป่วยและผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ จนกระทั่งสถานการณ์ระบาดในไทยเริ่มดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง เมื่อรายงานสุขภาพคนไทย 2563 ซึ่งจัดทำโดย สสส.สถาบันวิจัยประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล และภาคีเครือข่ายนักวิชาการ ได้รวบรวมผลสถิติจากองค์กรที่น่าเชื่อถือในต่างประเทศ โดยพบว่าระบบสุขภาพไทยได้รับการยกย่องจากหลายสถาบันของโลกให้ติดอันดับนำในเอเชีย และดีเยี่ยมในระดับสากล 


โดยมหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮอปกินส์ สหรัฐฯ และองค์กร ความริเริ่มด้านภัยคุกคามนิวเคลียร์(Nuclear Threat Initiative) ได้รายงานดัชนีความมั่นคงทางด้านสุขภาพ ปี 2562 พร้อมจัดอันดับประเทศต่างๆ ทั้งหมด 195 ประเทศ ทั่วโลก พบว่าประเทศไทยอยู่ในอันดับ 6 ของโลกและเป็นอันดับ 1 ของเอเชีย โดยมีคะแนนรวม 73.2 คะแนน (คะแนนเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 40.2 คะแนน) ทั้งยังได้รับการยกย่องว่าเป็น 1 ใน 13 ประเทศที่มีความพร้อมในการรับมือกับโรคระบาดมากที่สุด 

“ในด้านการป้องกันโรค ไทยได้ 75.7คะแนน (อันดับ 3 ของโลก) ความ สามารถในการตรวจจับโรค และรายงานที่รวดเร็ว ได้ 81 คะแนน (อันดับ 15ของโลก) การตอบโต้และบรรเทาผลกระทบของโรคระบาดอย่างรวดเร็ว ได้ 78.6 คะแนน(อันดับ5 ของโลก) มีระบบสุขภาพที่เข้มแข็งและมั่นคง ได้ 70.5 คะแนน (อันดับ2 ของโลก) มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาศักยภาพของประเทศ มีแผนงบประมาณด้านการป้องกันควบคุมโรค และดำเนินงานตามแนวปฏิบัติสากล ได้ 70.9 คะแนน (อันดับ 12 ของโลก) และความเสี่ยงต่อภัยคุกคามด้านชีวภาพ ได้ 56.4 คะแนน (อันดับ 93 โลก)” ดร.ณัฐพันธุ์ กล่าว


นพ.วิชัย โชควิวัฒน ที่ปรึกษาคณะกรรมการชี้ทิศทางรายงานสุขภาพคนไทย 2563 กล่าวว่า ล่าสุด “รายงานข่าวและโลกของสหรัฐ”(U.S. News & World Report) จัดอันดับประเทศที่เหมาะสำหรับการเริ่มต้นธุรกิจมากที่สุดในโลก ประจำปี 2563 (Best Countries to Start a Business 2020) ให้ประเทศไทย ติดอันดับที่ 1 ประเทศที่ดีที่สุดในการเริ่มต้นธุรกิจ จากทั้งหมด 73 ประเทศทั่วโลก ซึ่งตนมองว่าระบบสุขภาพที่ดีของไทยมาจากหลายปัจจัย เช่น การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านสาธารณสุขจนครอบคลุมทุกระดับทั่วประเทศ การพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทั้งทางการแพทย์และสาธารณสุขอย่างเป็นระบบ การพัฒนาระบบการป้องกันและควบคุมโรคมาตั้งแต่ ปี 2517  และการพัฒนาระบบงานสาธารณสุขมูลฐาน โดยเฉพาะอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จำนวนกว่าล้านคน กระจายอยู่ทั่วประเทศมายาวนานกว่า 40 ปี ตลอดจนการจัดตั้งสถาบันวิชาการและสถาบันทางสังคมด้านสาธารณสุข ที่สำคัญเรามีบทบัญญัติตราไว้ในรัฐธรรมนูญตั้งแต่ฉบับ พ.ศ. 2517 กำหนดให้ “การป้องกันและปราบปรามโรคติดต่ออันตราย รัฐจะต้องกระทำให้แก่ประชาชนโดยไม่คิดมูลค่า” ซึ่งบทบัญญัตินี้ในรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันได้ตราไว้ในมาตรา 47 วรรค 3 

นอกจากนี้ยังมีปัจจัยแวดล้อมอื่นๆ อย่างการควบคุมปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพ เช่น การจัดการบุหรี่-ยาสูบ และโรคอ้วน โดยในเรื่องการจัดการบุหรี่นั้น ภาคีเครือข่ายสุขภาพ ได้ต่อสู้กับอุตสาหกรรมยาสูบมาอย่างยาวนานราว 50 ปี กระทั่งไทยมีกฎหมายที่เข้มแข็ง มีองค์กรสร้างเสริมสุขภาพอย่าง สสส. และน่ายินดีเมื่อคนไทยมีความรับผิดชอบต่อสาธารณะมากขึ้นเมื่อเทียบกับหลายๆ ประเทศ 

“ขอใช้โอกาสนี้เชิญชวนผู้ปฏิบัติงานด้านสาธารณสุข บุคคลทั่วไป นักศึกษา ผู้กำหนดนโยบาย และสื่อมวลชน มาศึกษาอ่านรายงานสุขภาพคนไทย เพราะรายงานเล่มนี้เป็นเสมือนคันฉ่องส่องปัญหาสังคม รวมทั้งแนะโอกาสในการทำงานด้านสุขภาพอย่างรอบด้านทุกมิติ โดยเฉพาะในยุคที่ต้องหาทางอยู่ร่วมและเอาชนะโรคโควิด-19 ให้ได้ ซึ่งรายงานฉบับดังกล่าวได้คัดเลือกผู้เชี่ยวชาญจากหลายสถาบันมาคัดกรองการนำเสนอประเด็นทางสุขภาพ แหล่งที่มาของข้อมูลและสถิติที่น่าเชื่อถือ โดยในฉบับที่ 17 นี้ นำเสนอเรื่องพิเศษประจำฉบับ คือ ‘สองทศวรรษปฏิรูปการศึกษาไทย ความล้มเหลวและความสำเร็จ’ นพ.วิชัย กล่าว

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถดาวน์โหลดรายงานสุขภาพคนไทย 2563 ได้ทาง http://llln.me/8wCEFsW  หรือติดตามได้ทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ “สุขภาพคนไทย” .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ระทึก! สารแอมโมเนียจากโรงน้ำแข็งรั่ว บาดเจ็บนับร้อย

ระทึกกลางดึก สารแอมโมเนียรั่วในโรงน้ำแข็ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี ชาวบ้านสูดดม ได้รับผลกระทบกว่า 100 คน ต้องกระจายส่งตาม รพ. ต่างๆ

จับแล้ว! ชายอินเดียฆ่าปาดคอหญิงวัย 51 ปี

เกิดเหตุฆ่าปาดคอหญิงอายุ 51 ปี ในโรงแรมท้องที่ สน.ตลาดพลู ผู้ต้องสงสัยเป็นชายชาวอินเดียที่อยู่ด้วยกันในโรงแรม กว่า 1 สัปดาห์ ก่อนหายตัวไปหลังเกิดเหตุ ล่าสุดตามจับได้แล้ว สารภาพอ้างแค้นผู้ตายไม่คืนเงิน

วัยรุ่นเชียงใหม่ ตะลุมบอนงานไม้ค้ำ จ.เชียงใหม่

กลุ่มวัยรุ่นตะลุมบอนชกต่อยกันในงานแห่ไม้ค้ำโพธิ์ จ.เชียงใหม่ ขณะที่ผู้จัดงานติดป้ายเตือนทะเลาะวิวาทในงาน จับได้ปรับ 75,000 มอบให้คนถ่ายคลิป 5,000

ล่า “จัก เขาบายศรี” ถ้าต่อสู้อาจจำเป็นต้องวิสามัญ

ตำรวจปิดล้อมตรวจค้นหลายจุดทั่วเมืองชลบุรี ล่าตัว “จัก เขาบายศรี” มือกราดยิงวันไหล ย่านบ่อนไก่ จนมีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต หากเจอตัวแล้วยิงต่อสู้ อาจจำเป็นต้องวิสามัญ วอนญาติรีบประสานพามามอบตัว

ข่าวแนะนำ

ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต

จ.ภูเก็ต 19 เม.ย.-นายกฯ ติดตามโครงการทางแยกต่างระดับ แยกท่าเรือ จ.ภูเก็ต พร้อมสำรวจการจราจร วงเวียนอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทร

อิสราเอลแจ้งสหรัฐล่วงหน้า เรื่องเอาคืนอิหร่านวันนี้

อิสราเอลได้แจ้งสหรัฐล่วงหน้าเรื่องจะโจมตีเอาคืนอิหร่านในวันนี้ แต่สหรัฐไม่ได้ให้ความเห็นชอบกับการตัดสินใจของอิสราเอล

ราคาทองคำ-น้ำมันผันผวน หุ้นไทยร่วงหลังมีข่าว อิสราเอลบุกอิหร่าน

กรุงเทพฯ 19  เม.ย.-ราคาทองคำ-น้ำมันหันผวนหนักหลังมีข่าว อิสราเอลบุกอิหร่าน หุ้นไทยร่วงกว่า 20 จุด โบรกเกอร์แนะถือเงินสด สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ในช่วงเช้าวันนี้ ราคาทองคำ-น้ำมันเอเชียขยับขึ้นแรง โดยราคาน้ำมันดิบขึ้นถึง 3 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล ราคาทองคำในเอเชีย ขยับขึ้นร้อยละ 1.6 เป็น 2,414.69 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ ตลาดกังวลว่าอิสราเอลจะโจมตีแก้แค้นอิหร่าน เพราะนายกรัฐมนตรีอิสราเอล ประกาศเมื่อต้นสัปดาห์ว่า จะแก้แค้นหลังจากถูกอิหร่านโจมตีหลายระลอก  ในขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ ABC News รายงานว่า อิสราเอลได้ยิงขีปนาวุธโจมตีดินแดนอิหร่านในช่วงเช้าวันนี้ (19 เม.ย.) โดยรายงานดังกล่าวมีขึ้นไม่นานหลังจากแหล่งข่าวท้องถิ่นระบุว่า เกิดเหตุระเบิดขึ้นในหลายพื้นที่ได้แก่ในเมืองอิสฟาฮานทางตอนกลางของอิหร่าน, ในเขตอัสซุวัยดาอ์ทางตอนใต้ของซีเรีย, ในกรุงแบกแดด และในเขตบาบิลของอิรักในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่สื่ออิหร่านรายงานว่า ได้ยินเสียงระเบิดที่ท่าอากาศยานในเมืองอิสฟาฮาน แต่ยังไม่รู้สาเหตุ ด้านราคาทองคำในไทยประกาศโดยสมาคมผู้ค้าทองคำเปิดตลาดพุ่งขึ้นทันที 550 บาท/บาททองคำ ทองแท่งขายออก บาทละ 42,000 บาท  รูปพรรณ ขายออก 42,200 บาท คำนวณจากทองเอเชีย 2,409 ดอลลาร์/ออนซ์ เงินบาท 36.86 […]