อุดรธานี 25 พ.ค.-พุทธศาสนิกชนเข้ากราบสักการะอัฐิธาตุ “พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ที่บรรจุในเจดีย์แก้วใส ประดิษฐานไว้ที่ศาลาใหญ่หน้าวัด ด้าน ผบก.ภ.จว.อุดรธานี แจงผลการตรวจที่เกิดเหตุไฟไหม้ เบื้องต้นไม่ใช้เป็นการวางเพลิง
ที่วัดเกษรศีลคุณ หรือวัดป่าบ้านตาด อ.เมือง จ.อุดรธานี พระอธิการสุธรรม สุธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าหนองไผ่ จ.สกลนคร รักษาการเจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ นำคณะสงฆ์วัดป่าในภาคอีสานและศิษยานุศิษย์ ร่วมแจกแจง “อัฐิธาตุ” พระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดเกษรศีลคุณ ที่ส่วนใหญ่นำบรรจุในเจดีย์แก้วใส ประดิษฐานไว้ที่ศาลาใหญ่หน้าวัด มีผู้เข้ากราบสักการะและถ่ายภาพต่อเนื่อง
ก่อนที่พระอธิการสุธรรม สุธัมโม รักษาการเจ้าอาวาสเกษรศีลคุณ นำพระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีประชุมเพลิงพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน ออกบิณฑบาตบริเวณถนนหน้าประตูวัด โดยมีพุทธศาสนิกชนกว่า 500 คน มาร่วมทำบุญตักบาตรหลังพิธีประชุมเพลิง และร่วมถวายภัตตาหารแก่พระสงฆ์ โดยบางส่วนทยอยเข้ากราบอัฐิธาตุพระอาจารย์สุดใจ และรอรับเถ้าอัฐิกลับไปบูชา ตามแนวทางของพระวัดป่าทุกรูป
ส่วนความคืบหน้าของคดี พล.ต.ต.พิษณุ อุณหเสรี ผบก.ภ.จว.อุดรธานี เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงไปทางกองปราบฯ ว่า ขณะนี้รอผลการชันสูตรพลิกศพจากโรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น และรอผลการตรวจที่เกิดเหตุจากพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพูดคุยกับ พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. ให้รับทราบว่า ผลการชันสูตรออกมาแล้ว ส่วนผู้ใช้คำว่า “เป็นตัวแทนพุทธศาสนิกชน” สงสัย 1.เรื่องการชันสูตรพลิกศพ เรามีความชัดเจนว่า ลักษณะร่างกายไหม้ 2.กระดูกและกะโหลกศีรษะไม่มีลักษณะแตกร้าว หักงอ หรือฟกช้ำ 3.ในลำคอและหลอดลม ตลอดถึงปอดมีเขม่าควันดำ 4.ในจุดที่เกิดเหตุมีความลำบากในการนำร่างออกมาแม้ว่าพบท่านแล้ว ต้องใช้เวลาประมาณ 10 นาที
5.ผลการตรวจที่เกิดเหตุ ไม่มีสารเร่งปฏิกิริยาของให้เกิดไฟไหม้ในตระกูลปิโตรเคมี คือ พวกน้ำมันเชื้อเพลิง ไม่ว่าจะเป็นเบนซิน หรือดีเซล ซึ่งจะปรากฏหลักฐานด้วยตัวมันเอง เพราะในชั้น 2 ของกุฏิ ในขณะนี้ยังคงมีเสื่อน้ำมันปูอยู่ 2 ชั้น เสื่อน้ำมันไม่ได้ถูกไหม้จนหมด กองพิสูจน์หลักฐานใช้จอบคุ้ยทีละชั้นและเก็บสารเคมีบางส่วน แต่ขณะที่เก็บขอยืนยันว่า ไม่ได้พบกลิ่นสารตกค้างที่เป็นปิโตรเคมี และลักษณะการลุกลามเป็นการไหม้ลามปกติ ไม่มีลักษณะการไหม้ลามเป็นจุดๆ หรือไหม้พร้อมๆ กันอย่างเคสการวางเพลิง
ผู้สื่อข่าวสอบถามกรณีมีผู้ระบุว่า เป็นศิษย์และชาวพุทธเข้าแจ้งความกับทางกองปราบฯ ดำเนินคดีกับหลายฝ่าย เรื่องนี้ พล.ต.ต.พิษณูฯ ตอบว่า กรณีมีผู้แจ้งความ เรื่องนี้กองปราบฯ รับเรื่องไว้แล้ว โดยหากกองปราบฯ ต้องสืบสวนสอบสวนพื่อเติม แน่นอนว่าต้องขึ้นมาในพื้นที่ ร่วมทำงานกับ ภ.จว.อุดรธานี เพราะที่อุดรธานีเป็นจุดเริ่มที่มีเหตุเพลิงไหม้ จนทำให้พระอาจารย์สุดใจ มรณภาพ แต่เบื้องต้นกองปราบฯ ได้รับข้อมูลเบื้องต้นในสิ่งที่ถูกต้องบางส่วนไปแล้ว ส่วนการที่จะแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ถูกแจ้งความนั้น ขณะนี้เป็นเรื่องของการรวบรวมพยานหลักฐาน ที่ต้องพิสูจน์ว่ามีผู้ใดกระทำความผิดคดีอาญาแล้วหรือยัง.-สำนักข่าวไทย