ร้องกองปราบช่วย เหตุติดใจการมรณภาพหลวงพ่อสุดใจ

กทม.26 พ.ค.- ผู้เลื่อมใสศรัทธาหลวงพ่อสุดใจ อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด ร้องกองปราบช่วยคลี่คลายเหตุติดใจสงสัยการมรณภาพ


นาวาอากาศเอก (พิเศษ) อมรธรรมวัฒน์ ไชยเสวกวิ หรือผู้การวินัย และกลุ่มเครือข่ายองค์กรชาวพุทธ เข้าพบพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมกรณีมาลงบันทึกประจำวันให้ตำรวจกองปราบดำเนินการสืบสวนสอบสวนการมรณภาพของพระอาจารย์สุดใจ ทันตมโน อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี

นาวาอากาศเอก (พิเศษ) อมรธรรมวัฒน์ เปิดเผยว่า ได้ร้องขอให้มีการตรวจสอบการมรณภาพใน 2 ประเด็น คือ การมรณภาพเป็นการฆาตกรรมอำพรางหรือไม่ มีผลประโยชน์ใดแอบแฝงภายในวัดหรือไม่รวมทั้งผลการตรวจพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์ ที่ผลการตรวจสอบยังไม่เป็นทางการหรือยังไม่มีการตรวจชันสูตรซ้ำจากสถาบันอื่น ทั้งเศษอาหารที่ตกค้างในกระเพาะอาหาร หากมีข้อสงสัยการมรณภาพจะไม่มีศพใช้ชันสูตรแล้ว เพราะเป็นการมรณภาพผิดธรรมชาติควรจะต้องทำให้ผลการตรวจพิสูจน์กระจ่างก่อน ส่วนขณะกิดเหตุเพลิงไหม้ เป็นช่วงกลางวัน 2-3 ชั่วโมง แต่ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือได้ทัน ส่วนสาเหตุต่างๆ ทั้งความขัดแย้งภายในหรือเรื่องกองทุนทองคำ แม้ว่าทางกลุ่มฯจะไม่มีข้อมูลเรื่องดังกล่าว แต่อยากให้ตรวจสอบให้รอบด้าน และอยากให้หน่วยที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับเหตุการณ์นี้ เพราะเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ ไม่ควรเร่งรีบจัดพิธีฌาปนกิจ ไม่ควรอ้างว่าป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 เพราะสามารถจัดการวิธีการเข้าสักการะได้


มีรายงานว่า หลังเกิดเหตุได้มีพระผู้ใหญ่ แพทย์ผู้ชันสูตร และตำรวจ นำผลชันสูตรไปชี้แจงทำความเข้าใจกับชาวบ้านในพื้นที่ ซึ่งส่วนใหญ่ไม่มีใครติดใจอะไร มีเพียงบางส่วนที่ยังติดใจสาเหตุการมรณภาพ แล้วเดินทางมาร้องเรียนที่กองปราบปราม จึงมีการสั่งการว่าหากชาวบ้านยังติดใจสงสัยประเด็นใด ให้พนักงานสอบสวนรวบรวมประเด็นและสอบสวนให้สิ้นสงสัย เบื้องต้นได้รับรายงานว่าขณะเกิดเพลิงไหม้ พระอาจารย์สุดใจ ยังไม่มรณภาพ และไม่มีร่องรอยการถูกทำร้าย รวมทั้งยังไม่เจอประเด็นความขัดแย้งอื่น ซึ่งเรื่องนี้มีการมอบหมายให้พลตำรวจโทดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงไปควบคุมดูแลสำนวนการสอบสวน พร้อมกำชับดำเนินการให้ละเอียดรอบคอบจนสิ้นความสงสัย

ด้านพลตำรวจโทดำรงศักดิ์ ระบุว่า  หลัง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ สั่งกำชับให้ตรวจสอบกรณีนี้โดยเน้นให้ลงพื้นที่ตรวจสอบสำนวนการสอบปากคำพยาน ไม่ว่าจะเป็นประจักษ์และพยานแวดล้อมให้ครบถ้วน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีการกำหนดการลงพื้นที่ตรวจสอบ เบื้องต้นได้รับรายงานจากพื้นที่ว่าไม่พบความผิดปกติ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง