สำนักข่าวไทย 23 พ.ค. 63 – วันนี้ (23 พ.ค. 63) เมื่อเวลา 10.00 น. ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้ถ่ายทอดสดผ่านทางเฟซบุ๊กแฟนเพจ ไขข้อข้องใจใน ประเด็นต่าง ๆ เกี่ยวกับมาตรการเยียวยาเกษตรกร ดังนี้
การดำเนินโครงการหรือขั้นตอนการขอรับสิทธิ
– รวบรวมรายชื่อพี่น้องเกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนอย่างถูกต้อง เพื่อเสนอชื่อไปยัง กระทรวงการคลัง
– ตรวจความซ้ำซ้อน รวมถึงเกษตรกรที่มีอยู่จริง และส่งไปยังคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ กระทรวงการคลัง
– ตรวจสอบความซ้ำซ้อน ได้แก่
เกษตรกรที่อยู่ใน พ.ร.บ.ประกันสังคม ม.33
ข้าราชการบำนาญ
ได้รับการเยียวยาจากโครงการเราไม่ทิ้งกัน
จำนวนเกษตรกรที่ได้รับเงินเยียวยาในแต่รอบซึ่งมีทั้งหมด 3 รอบ
กลุ่มที่ 1 เกษตรกรปรับปรุงข้อมูล ปี62/63 ภายใน 30 เม.ย. 63 เช็กสิทธิได้ที่เว็บไซต์ www.moac.go.th กดตรวจสอบ หากได้รับสิทธิให้รอรับเงิน มีประชากรในกลุ่มนี้ประมาณ 7.8 ล้านราย
กลุ่มที่ 2 เกษตรกร ปรับปรุงข้อมูลปลูกพืช ระหว่าง 1-15 พ.ค. 63 เช็กสิทธิได้ 27 พ.ค. 63 เป็นต้นไป มีเกษตรกรมาขึ้นทะเบียน/ยื่นทบทวนสิทธิ ประมาณ 1 ล้านราย
กลุ่มที่ 3 เกษตรกรที่ยังไม่ได้เพาะปลูกในฤดูกาลนี้ ทางกระทรวงเกษตรฯ ได้ยืดสิทธิ โดยให้เกษตรกรมาลงทะเบียนไว้ก่อน (ภายใน 15 พ.ค.) แต่สามารถยืดการรับรองสิทธิได้ถึง 15 ก.ค. และพิจารณาการขึ้นทะเบียนเกษตรกรภายในเดือนกรกฎาคม มีประเกษตรกรอยู่ในกลุ่มนี้ประมาณ 1 แสนราย
ทำไมผู้ที่อยู่ในประกันสังคมมาตรา33และข้าราชการบำนาญถึงไม่ได้รับสิทธิ์นี้
– เนื่องจากวัตถุประสงค์ของการเยียวยาครั้งนี้ รัฐบาลตั้งใจจะให้พี่น้องที่ประสบปัญหา เนื่องจากโควิด-19 โดยให้เงินก้อนนี้พาท่านและครอบครัวก้าวผ่านเรื่องนี้ไปได้ จึงได้มีการตั้งคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ กระทรวงการคลัง ขึ้นมาในการกำหนดหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ว่าบุคคลกลุ่มใดมีสิทธิ/ไม่มีสิทธิที่จะได้รับการเยียวยาในโครงการนี้ โดยมีหลักเกณฑ์ที่พิจารณา ซึ่งหนึ่งในหลักเกณฑ์นั้น คือ เกษตรกรที่อยู่ภายใต้ พรบ.ประกันสังคม ม.33 โดยอธิบายได้ว่าบุคคลที่อยู่ในประกันสังคม หากท่านถูกพักงานหรือถูกเลิกจ้าง สำนักงานประกันสังคมก็จะเข้าไปดูแล เป็นกรณีเดียวกันกับข้าราชการบำนาญ
ข้าราชการที่ขึ้นทะเบียนเป็นเกษตรกรแท้จริงแล้วอยู่ในเกณฑ์ที่ได้รับสิทธิ์หรือไม่
หลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ออกมาไม่มี “ข้าราชการ” แต่จริง ๆ แล้วข้าราชการคือคนที่ได้รับการดูแลจากรัฐบาล ได้รับเงินประจำ ไม่ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าจะได้หรือไม่ได้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้รวบรวมข้อมูลตรงนี้ไปให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ วินิจฉัยอีกครั้ง
การยื่นอุทธรณ์สิทธิ์มีวิธีการขั้นตอนอย่างไร และยื่นได้ที่ไหนบ้าง
กลุ่มที่ 1 เกษตรกรปรับปรุงข้อมูล ปี62/63 ภายใน 30 เม.ย. 63 อุทธรณ์ตั้งแต่วันนี้ – 5 มิ.ย. 63
กลุ่มที่ 2 เกษตรกร ปรับปรุงข้อมูลปลูกพืช ระหว่าง 1-15 พ.ค. 63 อุทธรณ์ 31 พ.ค. – 5 มิ.ย. 63
ยื่นอุทธรณ์ได้ 8 หน่วยงาน ดังนี้
– สำนักงานเกษตรอำเภอ
– สำนักงานประมงอำเภอและจังหวัด
– สำนักงานปศุสัตว์อำเภอและจังหวัด
– สำนักงานหม่อนไหมเฉลิมพระเกียรติฯ เขตหรือศูนย์เครือข่ายใกล้บ้าน
– เขตบริหารอ้อยและน้ำตาลทราย 1-8 และศูนย์ส่งเสริมอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายภาคที่ 1-4
– สำนักงานสรรพสามิตจังหวัด
– การยางแห่งประเทศไทย (จังหวัด/สาขา)
– สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด
เอกสารประกอบอุทธรณ์
1. บัตรประชาชน/หลักฐานการมอบอำนาจ
2. แบบรับเรื่องอุทธรณ์
*ตรวจสอบสถานะอุทธรณ์เงินเยียวยาเกษตรกรได้ที่เว็บไซต์ www.moac.go.th ภายใน 8 วัน นับจากการยื่นอุทธรณ์
สอบถามข้อมูลมาตรการเยียวยาเพิ่มเติม
– สายด่วนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โทร. 1170
– การยางแห่งประเทศไทย โทร. 0-2433-2222 ต่อ 241, 243
– สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาล โทร. 0-2202-3290
– กรมสรรพสามิต ติดต่อ กรมสรรพสามิตในพื้นที่ หรือ โทร. 0-2241-5600-9 (ต่อ 61601-08)
– กรมประมง ติดต่อ สำนักงานประมงอำเภอ/จังหวัด หรือ โทร. 0-2104-9444
– กรมปศุสัตว์ ติดต่อ สำนักงานปศุสัตว์อำเภอ/จังหวัด หรือ โทร. 0-2653-4444
– กรมส่งเสริมการเกษตร ติดต่อ สำนักงานเกษตรอำเภอ/จังหวัด หรือ โทร. 0-2579-0121-27
– กรมหม่อนไหม โทร. 0-2558-7924-6
– สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร โทร. 0-2940-5550
หากพี่น้องเกษตรกรมีข้อสงสัยอะไรเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลได้ตามหน่วยงานข้างต้นเลยนะคะ.-สำนักข่าวไทย