ประชุมทีมสหวิชาชีพ ดูแลสุขภาพกาย-ใจ “น้องอิ่มบุญ ”

กรุงเทพฯ 23 พ.ค. .-อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ประชุมทีมสหวิชาชีพ ให้การดูแลสุขภาพทั้งร่างกายและจิตใจ “น้องอิ่มบุญ ”


หลังเกิดกรณีข่าวถูกแม่ทารุณโพสต์รูปและวิดีโอป่วย ขายของขอรับบริจาค (อ่านข่าว www.mcot.net/viewtna/5ec7b485e3f8e40af944981d)

นางสุภัชชา สุทธิพล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์กล่าวว่า เนื่องจาก “น้องอิ่มบุญ” ได้รับการคุ้มครองไม่ให้มีการเปิดเผยสถานที่อยู่ แต่อยู่ในความคุ้มครองของกรมกิจการเด็กและเยาวชนแล้ว ตามคำสั่งของศาลที่คุ้มครองเด็กเป็นเวลา 6 เดือน  สำหรับกรณีนี้ต้องแยกเป็น2ส่วน


1. เรื่องของคดีความ ที่ตำรวจจะไปดำเนินการสืบสวนต่อ

2. การให้ความดูแลเด็ก ตนจะประชุมในส่วนของสหวิชาชีพเพื่อให้การดูแลเด็กต่อไป โดยเฉพาะในเรื่องของสุขภาพที่ต้องติดตามอาการ วางแผนพัฒนาฟื้นฟูเด็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของผู้ปกครองที่ต้องรับผิดชอบดูแลเด็กต่อจากนี้ ซึ่งเท่าที่ทราบนอกจากแม่แล้ว เด็กมีตากับยายเป็นผู้ดูแล ขณะที่ต้องมีการพิจารณารายละเอียด ที่ชัดเจน เกี่ยวกับความเป็นแม่ลูกที่แท้จริง ที่ตำรวจมีเบาะแสว่า ”น้องอิ่มบุญ”  อาจไม่ใช่ลูกที่แท้จริงถ้าเป็นเช่นนั้นตากับยายก็คงไม่ใช่ญาติลำดับต่อไป ต้องวางแผนกันต่อไปว่าจะต้องดูแลเด็กอย่างไร

 “ เหตุที่ต้องสืบสวนสอบสวนว่าเป็นแม่ที่แท้จริงของเด็กหรือไม่เนื่องจากตำรวจเอะใจ เพราะกรณีลูกคนแรกที่เสียชีวิตก็ไม่ใช่ลูกที่แท้จริงของนาง นิษฐา.. เช่นกัน ซึ่งก็ไม่ได้มีการระบุว่าเป็นบุตรบุญธรรม จึงต้องหาที่มาว่ากับลูกคนแรกที่เสียชีวิต นางนิษฐา ได้เด็กมาโดยวิธีการใด  ต้องหาหลักฐานต่อเช่น ไปขโมยเด็กมาหรือไม่ หรือพ่อแม่ที่แท้จริงมีการยกลูกให้โดยวิธีการใด มีการนำเด็กมาให้โดยวิธีการใด” อธิบดีกรมกิจการเด็กกล่าว


นางสุภัชชา กล่าวต่อว่าสภาพของ “น้องอิ่มบุญ” เด็กอายุ 3 ขวบที่อยู่ในความดูแล เป็นเด็กพูดได้เป็น คำๆ ยังพูดไม่คล่อง ตรงนี้ต้องดูพัฒนาการของเด็กควบคู่ไปด้วยตลอดเวลา อย่างไรก็ตาม ต้องขออนุญาตสื่อมวลชนงดการติดตามเรื่องเกี่ยวกับตัวเด็ก และสถานที่อยู่ เพราะศาลมีคำสั่งคุ้มครอง   .

สำหรับกรณี “น้องอิ่มบุญ” ฝ่ายสืบสวนพบความผิดปกติในคดีหลายอย่าง โดยเฉพาะอาการป่วยประหลาดของ “น้องอิ่มบุญ” เด็กชายอายุ 3 ขวบ ที่ผู้ต้องหาอ้างว่า เป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเอง หลังมีอาการอาเจียนเป็นเลือด ตัวบวมเดินไม่ได้ จนต้องเข้ารักษาตัวในห้องไอซียูที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ รังสิต ก่อนที่ต่อมาทางแพทย์ตรวจพบสารเคมีประเภทออกฤทธิ์เป็นกรด คล้ายกับสารเคมีที่เป็นส่วนผสมของน้ำยาล้างห้องน้ำ หรือ น้ำยาซักฟอก ในร่างกายจำนวนมาก  จากการตรวจสอบประวัติของผู้ต้องหารายนี้ยังพบอีกว่า ก่อนหน้านี้ผู้ต้องหาเคยได้รับเด็กผู้หญิงคนหนึ่งชื่อ “น้องอมยิ้ม” อายุ 3 ขวบ มาอุปถัมภ์เลี้ยงดู ก่อนที่ต่อมาจะเสียชีวิตลงด้วยอาการป่วยประหลาดลักษณะเดียวกัน จึงทำให้มีการตั้งข้อสงสัยว่า อาการป่วยของเด็กทั้งสองคนจะเกิดจากการกระทำของผู้ต้องหารายนี้เพื่อสร้างเรื่องให้ดูน่าสงสาร ในการหลอกเงินจากคนอื่น .-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คลอดลูกแฝดตกตึก

หญิงวัย 31 เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น รพ.ดัง เสียชีวิต

สลด! หญิงวัย 31 ปี เพิ่งคลอดลูกแฝด พลัดตกตึก 18 ชั้น โรงพยาบาลดัง เสียชีวิต ด้านโรงพยาบาลแถลงแสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต พร้อมทบทวนมาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุแบบนี้ขึ้นอีก

ทหารควง M16 ยิงเพื่อนตำรวจดับคาบ้านพัก

ทหารพรานควง M16 บุกยิงเพื่อนตำรวจเสียชีวิตภายในบ้านพัก ก่อนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบ้านผู้ตาย เข้ามอบตัวกับตำรวจ สภ.เมืองปัตตานี เบื้องต้นคนก่อเหตุให้การวกวน เนื่องจากอยู่ในอาการหลอน

ลูกน้องปืนโหดรัวยิงหัวหน้างานดับคา สนง.ปฏิรูปที่ดินฯ

ลูกน้องชักปืนกระหน่ำยิงหัวหน้างานดับกลางห้องทำงาน สำนักงานปฏิรูปที่ดิน จ.น่าน ก่อนลั่นไกยิงตัวเอง ปมเหตุขัดแย้งเรื่องงาน

จนท.ปะทะเดือด! เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ

ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง นำกำลังปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ อ.กรงปินัง จ.ยะลา เกิดการปะทะ เสียงปืนสงบพบศพคนร้าย 4 ศพ ยึดอาวุธสงคราม 3 กระบอก

ข่าวแนะนำ

นักวิชาการชี้เลือกตั้งนายก อบจ.ไม่ใช่ภาพสะท้อนเลือกตั้งใหญ่

การเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัด ผ่านพ้นไปแล้วทั้ง 47 จังหวัด ขณะนี้รอประกาศผลอย่างเป็นทางการจาก กกต. แต่ผลที่ออกมาชี้ให้เห็นว่าผู้สมัครที่มีเครือข่ายพรรคการเมืองใหญ่สนับสนุนได้ชัยชนะหลายจังหวัด แต่นักวิชาการชี้ว่ายังไม่สามารถสะท้อนให้เห็นภาพชัดถึงผลสนามเลือกตั้งใหญ่ในอนาคตได้

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่

เปิดใจ 5 ตัวประกันคนไทย บอกเหมือนตายแล้วเกิดใหม่ ได้ชีวิตใหม่ ไม่สิ้นเคยหวัง เชื่อว่าต้องได้กลับบ้านในสักวัน เผยอยากกินลาบ-ซอยจุ๊

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน หลายประเทศทะลุ 190 AQI

ดาวเทียมพบฝุ่นหนักในอาเซียน “เมียนมา ลาว กัมพูชา มาเลเซีย” หลายประเทศทะลุ 190 AQI ส่วนไทย อีก 2 วัน มีลมแรงช่วยพัดฝุ่นกระจายตัวดีขึ้น ด้าน ปภ.ช. สั่งพรุ่งนี้ (3 ก.พ.) ดีเดย์ ทุกหน่วยทั่วประเทศเคาะประตูบ้าน “ห้ามเผา” ฝ่าฝืนจับสถานเดียว