ตั้งเป้าลดจำนวนเด็กในสถานสงเคราะห์ลงร้อยละ 10 ต่อปี

กรุงเทพฯ 11 มี.ค.- อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน ตั้งเป้าลดจำนวนเด็กในสถานสงเคราะห์ทั่วประเทศลงให้ได้ร้อยละ 10 ต่อปี เพื่อให้เด็กได้อยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด


นางสุภัชชา สุทธิผล อธิบดีกรมกิจการเด็กและเยาวชน กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สถานรองรับเด็ก คือ สถานที่ให้การช่วยเหลือสงเคราะห์คุ้มครองเด็ก ไม่ว่าจะเป็นเด็กยากจน กำพร้า หรือถูกกระทำมา สถานรับรองจึงเป็นเหมือนบ้านที่จะให้ความอบอุ่น ปลอดภัย แก่เด็ก ซึ่งสถานสงเคราะห์ในความรับผิดชอบของกรมกิจการเด็กและเยาวชน ปัจจุบันมีอยู่ 30 แห่งทั่วประเทศ มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามภารกิจ เช่น สถานแรกรับเด็ก ซึ่งเปรียบเสมือนด่านแรก ที่จะนำเด็กเข้าสู่กระบวนการแรกรับ วิเคราะห์สภาพปัญหาของเด็กเหล่านั้น ก่อนส่งต่อไปยังสถานที่ที่เกี่ยวข้อง  เช่น หากเด็กถูกกระทำมาจะถูกส่งไปยังสถานพัฒนาและฟื้นฟู


เด็กที่มีปัญหาในเชิงพฤติกรรม เช่น ก้าวร้าว หรือได้รับการเลี้ยงดูที่ไม่เหมาะสม จะถูกส่งไปยังสถานคุ้มครองสวัสดิภาพ ที่จะส่งเด็กเข้ารับการศึกษา ทั้งด้านนันทนาการและกีฬา แต่หากเป็นสถานคุ้มครองจะใช้กระบวนการบำบัด เช่น ดนตรีบำบัด หรือศิลปะบำบัดขึ้นกับสภาพของตัวเด็ก และความสนใจ ปัจจุบันมีเด็กอยู่ในสถานสงเคราะห์เด็กประเทศประมาณ 4,500 คน ซึ่งกรมกิจการเด็กตั้งเป้าลดจำนวนเด็กในสถานสงเคราะห์ลงให้ได้ ปีละประมาณร้อยละ 10 เพื่อให้เด็กได้อยู่กับครอบครัวให้มากที่สุด

ทั้งนี้ กรมกิจการเด็กและเยาวชน มีกระบวนการนำเด็กเข้าสู่การอุปการะของครอบครัวอุปถัมภ์ ซึ่งอาจเป็นสายเลือดเดียวกัน เช่น ลุง ป้า อา ที่สามารถให้ความคุ้มครองดูแลเด็กได้ หากบิดามารดาที่แท้จริงไม่สามารถดูแลได้ และมีกระบวนการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม หาครอบครัวที่เหมาะสม ให้เป็นเสมือนครอบครัวทดแทน ขณะที่ยังมีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ปคม. มีนักสังคมสงเคราะห์เข้าร่วมพิจารณาเคสต่างๆ ว่าเป็นการค้ามนุษย์หรือไม่ เพื่อนำเด็กเข้าสู่กระบวนการคุ้มครองต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย