อีอีซีโชว์ลงทุนเมืองการบินภาคตะวันออก-รถไฟเชื่อม 3 สนามบินไม่ใช้งบรัฐ

กรุงเทพฯ 21 พ.ค. – เลขาฯ อีอีซีคาดสนามบินอู่ตะเภา-เมืองการบิน เซ็นสัญญาต้น มิ.ย.นี้ ยันไม่ต้องใช้เงินรัฐ แนะทำศูนย์ซ่อมอากาศยานต่อ เพราะได้กำไร


นายคณิศ แสงสุพรรณ เลขาธิการ คณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) หรือคณะกรรมการอีอีซี แถลงผลการประชุมที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ว่า คณะกรรมการอีอีซีเห็นชอบโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มูลค่า 290,000 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นสนามบินกรุงเทพฯ แห่งที่ 3 โดยจะมีการเสนอให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) พิจารณาต่อไปและคาดว่าจะสามารถลงนามในสัญญากับกลุ่มกิจการร่วมค้าบีบีเอสผู้ชนะการประมูลต้นเดือนมิถุนายนนี้ 


สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาฯ กลุ่มบีบีเอสเสนอราคาเป็นจำนวนเงินประกันผลตอบแทนค่าเช่าและส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำรายปีรวมตลอดอายุสัญญาร่วมทุน เมื่อคำนวณเป็นมูลค่าปัจจุบัน ณ ปี 2561 โดยใช้อัตราคิดลดร้อยละ 3.76 เท่ากับ 305,555,184,968 บาท ตลอดอายุสัญญา 50 ปี แต่สามารถคืนงบประมาณ ซี่งนำมาใช้สร้างโครงการรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน ที่ใช้งบ 117,227 ล้านบาท จึงยังมีรายได้สุทธิ จาก 2 โครงการนี้ เพื่อลงทุนในอนาคต 188,328 ล้านบาท เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจถึง 532,000 ล้านบาท รายได้ภาษีอากร 92,650 ล้านบาท และสร้างตำแหน่งงานอีก 2,9870 คน

นอกจากนี้ ยังมีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการร่วมประสานงานโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา เพื่อให้มีการทำงานอย่างบูรณาการเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดเชื่อมโยงแผนงานการก่อสร้าง และแผนการเปิดบริการให้สอดคล้องหรือพร้อมกันได้  โดยสนามบินอู่ตะเภาสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับโครงการรถไฟความเร็วสูง และสร้างความต้องการ ทำให้ปริมาณผู้โดยสารรถไฟความเร็วสูงเพิ่มขึ้น ขณะที่โครงการรถไฟความเร็วสูง ทำให้การเดินจากกรุงเทพฯ มายังสนามบินอู่ตะเภาเป็นไปอย่างไร้รอยต่อ ส่งผลให้ได้รับความนิยมและความสะดวกสบายยิ่งขึ้นในการใช้สนามบิน หากปราศจากโครงการใดโครงการหนึ่ง ประเทศและประชาชนจะได้รับประโยชน์ไม่เต็มที่  ซึ่งเป็นไปตามคำสั่งของนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี


สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ไม่ส่งผลกระทบ เพราะโครงการจะก่อสร้างเสร็จปี 2566 ซึ่ง สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ หรือไออาตา ประเมินว่าธุรกิจการบินจะกลับมาภายใน 2 ปีจากนี้ไป เมื่อถึงตอนนั้นท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิและท่าอากาศยานนานาชาติดอนเมืองจะมีการใช้บริการหนาแน่นเหมือนเดิม

นายคณิศ กล่าวถึงกรณีบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จะต้องมีการทำแผนฟื้นฟูกิจการ ว่า ทางอีอีซีจะแนะนำคณะกรรมการจัดทำแผนฟื้นฟูว่าโครงการศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน หรือเอ็มอาร์โอควรได้รับการบรรจุไว้ในฟื้นฟูและดำเนินการต่อไป เนื่องจากเป็นโครงการที่ส่งผลดีต่อการบินไทยไม่ต้องลงทุนสร้างเอง เพียงแต่เช่าตัวอาคารจากกองทัพเรือและลงทุนอุปกรณ์สำหรับใช้ในการซ่อมเครื่องบิน และยังเป็นโครงการที่มีกำไร ส่วนกรณีแอร์บัสไม่พร้อมที่จะร่วมลงทุน แต่พร้อมให้การสนับสนุนทางเทคนิคนั้น การบินไทยสามารถหาผู้ร่วมลงทุนรายใหม่ได้ โดยมีการจัดสรรที่ดิน 250 ไร่ และมีพื้นที่เหลืออีก 300 ไร่ ทำเอ็มอาร์โออีกเช่นกัน 

“โครงการเอ็มอาร์โอ  อีอีซีไม่ได้เอาไข่การบินไทยวางไว้ลูกเดียว แต่กว่าสถานการณ์การบินจะฟื้นก็อีก 2 ปีระหว่างนี้ดำเนินการเตรียมพร้อมด้านต่าง ๆ ได้” นายคณิศ กล่าว

นายคณิศ กล่าวว่า ขณะนี้อีอีซี อยู่ระหว่างเตรียมการที่จะหานักลงทุนเข้ามาทำโครงการเอ็มอาร์โออย่างจริงจัง เพราะโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาได้รับการอนุมัติแล้ว การออกไปเชิญชวนนักลงทุนช่วงนี้ทำให้นักลงทุนมีความสนใจเข้ามาลงทุน เนื่องจากโครงการที่ถือว่าเป็นกระดูกสันหลังของอีอีซีมีผู้ลงทุนแล้วและจะเสร็จปี 2566 ซึ่งการอนุมัติของคณะกรรมการอีอีซี วันนี้ (21 พ.ค.) จึงสำคัญมาก   

นายโชคชัย ปัญญายงค์ รองเลขาธิการสายงานโครงสร้างพื้นฐาน สำนักงานอีอีซี กล่าวว่า ในส่วนของโครงการเอ็มอาร์โอ มีเอกชนให้ความสนใจมากกว่า 4-5 ราย ด้านการลงทุนก่อสร้างอาคารจะลงทุนโดยกองทัพเรือให้ที่ปรึกษาออกแบบ การก่อสร้างใช้เวลา  3 ปีกว่าอาคารจะเสร็จปี 2566 ระหว่างนี้สามารถคัดเลือกผู้ร่วมทุน ซึ่งระยะเวลาจะสอดคล้องอาคารจะไม่มีเสากลางกว้าง 270 เมตร รองรับเครื่องบินขนาดใหญ่จอดซ่อม  5 ลำ และรองรับเครื่องบินเล็กอีก 3 ลำ สำหรับเครื่องมือซ่อมการบินไทยและเอกชนร่วมทุนจะเป็นผู้ลงทุนจัดหามา   

สำหรับโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก มีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนาเป็น “เมืองการบินภาคตะวันออก” พื้นที่ 6,500 ไร่ บริเวณสนามบินอู่ตะเภา โดยมี 6 กิจกรรมสำคัญ ได้แก่ อาคารผู้โดยสารหลังที่ 3 ศูนย์ธุรกิจการค้าและการขนส่งภาคพื้นดิน  ศูนย์ซ่อมบำรุงอากาศยาน  เขตประกอบการค้าเสรี และเขตธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ศูนย์ธุรกิจขนส่งสินค้าทางอากาศและโลจิสติกส์  และศูนย์ฝึกอบรมการบิน.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สุดยื้อ! ด.ช.5 ขวบ น้ำหนัก 50 กก. อาหารติดคอดับ

เจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามปั๊มหัวใจเด็กชายวัย 5 ขวบ น้ำหนัก 50 กิโลกรัม อาหารติดคอ แต่สุดยื้อ เสียชีวิต ท่ามกลางความโศกเศร้าของครอบครัว

เจอร่างใต้ตึกถล่ม

เจออีก 4 ร่างใต้ซากตึกถล่มโซน C จ่อนำเครนยักษ์เปิดพื้นที่

กู้ภัยเจอ 4 ร่างผู้สูญหายตึกถล่ม โซน C รอส่งนิติเวชโรงพยาบาลตำรวจ เตรียมนำเครนเข้ายกแผ่นปูนขนาดใหญ่ เปิดพื้นที่มากขึ้น

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

ปิดฉาก “มอเตอร์โชว์” ครั้งที่ 46 ยอดจองพุ่ง 7.9 หมื่นคัน โต 44.8%

ยอดจองรถยนต์ในงาน “บางกอก อินเตอร์เนชั่นแนล มอเตอร์โชว์ ครั้งที่ 46” รวมทุกเซกเมนต์โตพุ่ง 44.8% หรือคิดเป็น 79,941 คัน โดยเป็น EV 65% ส่งผลให้ภาพรวมอุตสาหกรรมยานยนต์ของไทยในปีนี้ยังคงอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ยอดผู้เข้าชมงานทั้งสิ้น 1.6 ล้านคน

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเลื่อน “เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์”

นายกฯ ควงหัวหน้าพรรคร่วม แถลงเห็นตรงกันเลื่อนพิจารณาร่าง พ.ร.บ.เอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ ออกไปก่อน หลังมีเรื่องด่วนกว่า ต้องจัดลำดับความสำคัญ แต่ไม่ถอนการพิจารณาในสภา บอกการเมืองบิดเป็นกาสิโน ลั่นผู้นำสไตล์ “แพทองธาร” พรรคร่วมต้องเห็นด้วยอย่างเต็มใจ

“คะน้า” แจ้งความเอาผิดไฮโซเก๊ หลอกจ่ายค่าแชมเปญ

“คะน้า” ดาราสาว แจ้งความตำรวจไซเบอร์ ดำเนินคดีกับอดีตแฟนหนุ่ม ข้อหาฉ้อโกง หลังหลอกให้จ่ายค่าแชมเปญ 98,000 บาท เพื่อเป็นของขวัญ

ตึกสตง.ถล่ม

เข้าสู่วันที่ 12 นำออกได้อีก 4 ร่าง ภารกิจค้นหาผู้สูญหายตึก สตง.ถล่ม

หลังดีเอสไอรับคดีตึก สตง.ถล่ม เป็นคดีพิเศษ วันนี้ (8 เม.ย.) กรรมการคดีพิเศษได้ลงพื้นที่สังเกตการณ์และหารือแรงงานที่เกี่ยวข้องกับพยานหลักฐาน เพื่อใช้ในคดีกับผู้ที่เข้าข่ายกระทำความผิด ขณะที่ กทม. ยืนยันใช้แผนเดิมในการรื้อถอนอาคาร โดยวันนี้จะพยายามตัดยอดส่วนบนให้ได้ 5 เมตร เพื่อหาร่างผู้ติดอยู่ในโซน B และ C