ครม.หนุนแก้ไขสัญญาสนามบินอู่ตะเภา-เมืองการบินภาคตะวันออก  

ทำเนียบฯ 6 มิ.ย. – ครม. หนุนแก้ไขสัญญาสนามบินอู่ตะเภา-เมืองการบินภาคตะวันออก ผลักดันให้เอกชนเพิ่มการลงทุนเมืองการบินภาคตะวันออก เดิม 4,500 เพิ่มเป็น 40,000 ล้านบาท เพื่อให้ไทยเป็นจุดหมายปลายทางสู่ภูมิภาคเอเชีย จัดมาตรการสนับสนุน 5 ปี รองรับผู้โดยสาร 60 ล้านคน/ปี


นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงมติคณะรัฐมนตรีว่า ครม. รับทราบผลการแก้ไขปัญหาโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพิเศษภาคตะวันอก (สกพอ.) ลงนามในสัญญาร่วมลงทุนกับบริษัท อู่ตะเภา อินเตอร์เนชั่นแนล เอวิเอชั่น ในรูปแบบ PPP Net Cost และในช่วงปี 2564-2565 เอกชนคู่สัญญา ขอใช้สิทธิผ่อนผันตามข้อ 13 ของสัญญาร่วมลงทุน จากความผันผวนทางเศรษฐกิจ รวมถึงปัญหาโควิด-19 ทั้งสองฝ่ายได้หารือร่วมกัน ได้ข้อสรุปร่วมกันดังนี้

1.การร่วมกันผลักดันการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก (Eastern Airport City) เพื่อให้มีการลงทุนเพิ่มเติมในการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก เพื่อเป็นจุดหมายปลายทางที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นและมีความสำคัญในภูมิภาคเอเชีย เห็นควรให้เอกชนเพิ่มการลงทุนในการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออก (EasternAirportCity) จากเดิมประมาณ 4,500 ล้านบาท เป็นประมาณ 40,000 ล้านบาท และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาโครงการฯ กรรมสิทธิ์ในงานพัฒนาเมืองการบินฯ ทั้งหมดจะตกเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ โดย สกพอ. จัดมาตรการสนับสนุนทั้งด้านภาษีและไม่ใช่ภาษี รองรับการประกอบกิจการ การทำงาน และการอุปโภคบริโภค และในด้านการบินและโลจิสติกส์ ระยะเวลา 5 ปี นับจากวันที่เริ่มนับระยะเวลาโครงการฯ พร้อมทบทวนพัฒนามาตรการทุกๆ 10 ปี 


2.สกพอ. สนับสนุนเอกชนคู่สัญญาแก้ไขปัญหาทางการเงินที่เกิดขึ้น เพื่อบรรเทาผลกระทบโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา สกพอ. พยายามอย่างดีที่สุด (Best Efforts) โดยสุจริตภายใต้กฎหมายและ พ.ร.บ.เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2561 ในการสนับสนุนการจัดหาแหล่งเงินกู้ของเอกชน ด้วยเงื่อนไขดีกว่าตลาดของสถาบันทางการเงินเอกชนทั่วไป และใกล้เคียงกันกับโครงการของรัฐที่มีความเสี่ยงในลักษณะเดียวกันจนกว่าผลกระทบจะสิ้นสุดลง ทั้งนี้ เพื่อเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือของโครงการฯ 

3.การปรับหลักเกณฑ์การพัฒนางานหลักของโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา คู่สัญญาตกลงปรับระยะการพัฒนางานหลักของสนามบินอู่ตะเภา เช่น อาคารผู้โดยสารหลังใหม่ ศูนย์การขนส่งภาคพื้น การให้บริการภาคพื้นดินเป็นต้น จากเดิมกำหนดไว้ 4 ระยะ เปลี่ยนเป็น 6 ระยะ (ขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ระยะที่ 1 จำนวน12 ล้านคน/ปี ระยะที่ 2 จำนวน 15.9 ล้านคน/ปี ระยะที่ 3 จำนวน 22.4 ล้านคน/ปี ระยะที่ 4 จำนวน 30 ล้านคน/ปี ระยะที่ 5 จำนวน 45 ล้านคน/ปี และระยะที่ 6 จำนวน 60 ล้านคน/ปี) สามารถรองรับผู้โดยสารของแต่ละระยะสอดคล้องกับประมาณการผู้โดยสารที่เปลี่ยนแปลงไป โดยในระยะแรกจะพัฒนาให้งานหลักฯ มีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสาร ไม่น้อยกว่า 12 ล้านคน/ปี และจะลงทุนในระยะถัดไป (ระยะที่ 2-6) เมื่อมีปริมาณผู้โดยสารถึงร้อยละ 80 ของขีดความสามารถ ในการรองรับของระยะปัจจุบัน โดยโครงการฯ ยังกำหนดเป้าหมายให้สนามบินอู่ตะเภารองรับผู้โดยสารในปีสุดท้ายได้ 60 ล้านคน/ปี เท่าเดิม 

4.ปรับหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ของเอกชนคู่สัญญา คู่สัญญาตกลง ให้ปรับหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ของเอกชนคู่สัญญาในช่วงเวลาตามเงื่อนไข โดยจัดลำดับรายการ ที่เอกชนคู่สัญญาต้องชำระ เช่น ค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภค ค่าเช่าที่ดินให้รัฐ การชำระคืนดอกเบี้ย และเงินต้นของเงินกู้และส่วนแบ่งรายได้รัฐ เพื่อให้โครงการฯ สามารถดำเนินต่อไปได้ โดยเอกชนคู่สัญญาสามารถชำระรายได้ของรัฐได้อย่างเหมาะสม เป็นธรรม และสอดคล้องกับหลักความเป็นหุ้นส่วนระหว่างรัฐและเอกชน โดยการจัดสรรรายได้ใหม่ ตามแนวทางแก้ปัญหาฯ ดังนี้ ลำดับที่ 1 ค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ ลำดับที่ 2 ค่าเช่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างของรัฐ ลำดับที่ 3 ชำระดอกเบี้ย+เงินต้น ลำดับที่ 4  เงินสดสำรองตามมาตรฐาน การชำระคืนเงินกู้ ลำดับที่ 5 ส่วนแบ่ง รายได้ให้รัฐ (ร้อยละ 5 ของรายได้) และลำดับที่ 6 ผลตอบแทน ให้รัฐเพิ่มเติม ตามซองข้อเสนอ+รายได้รัฐ ที่ค้างชำระ 


การบังคับใช้หลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ข้างต้นจะสิ้นสุดเมื่อ (1) จำนวนผู้โดยสารรายปีสะสมที่เกิดขึ้นจริง มีจำนวนเท่ากับการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารตามข้อเสนอ ทางด้านเทคนิคของเอกชนคู่สัญญา และ (2) เอกชนคู่สัญญาได้ชำระเงินให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในทุกลำดับการชำระครบถ้วนตามหลักเกณฑ์การจัดสรรรายได้ข้างต้นแล้ว รวมทั้งสถานะทางการเงินของเอกชนคู่สัญญาไม่อยู่ในสถานะผิดเงื่อนไขสัญญาเงินกู้ (No Default) และไม่อยู่ในสถานะที่ผู้ให้กู้เงินเริ่มใช้สิทธิเร่งรัดชำระหนี้เงินกู้

5.การเลื่อนวันเริ่มนับระยะเวลาให้บริการและบำรุงรักษาโครงการฯ หากมีการก่อสร้างโครงการฯ แล้วเสร็จ แต่ปริมาณผู้โดยสารมีไม่ถึง 5.6 ล้านคน/ปี ให้เลื่อนการเริ่มนับระยะเวลาปีที่ 1 ในปีที่มีปริมาณผู้โดยสารต่อปี จำนวน 5.6 ล้านคน โดยช่วงเวลาที่ยังไม่มีการเริ่มนับปีที่ 1 นั้น ให้เอกชนคู่สัญญาชำระค่าตอบแทนรัฐ ดังนี้

(1) ชำระค่าเช่าที่ดินและสิ่งก่อสร้างแก่รัฐจำนวน 100 ล้านบาท/ปี จากเดิม 820 ล้านบาท/ปี ในช่วง 3 ปีแรกของการให้บริการและการบำรุงรักษาโครงการฯ และเพิ่มขึ้นทุกๆ 3 ปี จนสิ้นสุดระยะเวลาโครงการฯ 

(2) ชำระรายได้ของรัฐ 100 ล้านบาท/ปี จากเดิม 1,300 ล้านบาท ในปีที่ 1 และเพิ่มขึ้นในปีถัดไปทุกปีจนสิ้นสุดระยะเวลาโครงการฯ และ 

(3) ชำระรายได้ของรัฐแก่ สกพอ. เป็นจำนวนเท่ากับกระแสเงินสดคงเหลือ จากการดำเนินโครงการฯ ภายหลังการชำระดอกเบี้ยพร้อมเงินต้นที่จำเป็นต้องชำระตามสัญญาเงินกู้แล้ว ทั้งนี้ ไม่เกินร้อยละ 5 ของรายได้ที่เกิดขึ้นจริงในปีนั้นๆ ของเอกชนคู่สัญญา 

ทั้งนี้ ประโยชน์ที่ได้รับจากการเยียวยาผลกระทบตามหลักการแก้ไขปัญหาข้างต้น นอกจากจะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในการลงทุน สร้างสนามบินอู่ตะเภา ในช่วงปริมาณผู้โดยสารน้อย และยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้เอกชนคู่สัญญาสามารถดำเนินโครงการฯ ได้ โดยภาครัฐยังได้รับชำระส่วนที่เป็นรายได้ของรัฐ ตามจำนวนเดิม พร้อมค่าเสียโอกาส ขณะเดียวกันยังเดินหน้าผลักดันโครงการฯ ให้เป็นจุดหมายปลายทาง (Destination) ในการเดินทางของประเทศไทย และภูมิภาคเอเชีย เพิ่มการจ้างงานในพื้นที่ใกล้เคียงในระยะยาว และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายของโครงการฯ.-สำนักข่าวไทย  

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ปลัด ศธ. แจง “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง

กทม. 21 ก.ค.-ปลัด ศธ. แจงภารกิจแรก “รมว.นฤมล” ลงใต้ ไม่เน้นพิธีรีตอง กำชับ “ครู-นักเรียน” วันหยุดใส่ไปรเวทได้ ไม่ต้องแต่งชุดเต็มยศมารอต้อนรับ ขอลงพื้นที่ไม่ให้ใครลำบาก จากกรณี ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานี ระหว่างวันที่ 18-20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา มีการแต่งกายใส่กางเกงยีนส์ขาด รองเท้าผ้าใบ พบปะบุคลากรการศึกษา ครูและนักเรียน ที่มารอต้อนรับ เป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล การแต่งกายไม่เหมาะสมกับบทบาทของผู้บริหารระดับสูงในกระทรวงศึกษาธิการ และไม่สอดคล้องกับมาตรฐานการแต่งกายของข้าราชการโดยทั่วไป นายสุเทพ แก่งสันเทียะ ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ กล่าวถึงกระแสวิจารณ์การแต่งกายของ ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ การลงพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดสุราษฎร์ธานีระหว่างวันที่ 18 – 20 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่า ถือเป็นการลงพื้นที่ครั้งแรกตั้งแต่ ศ.ดร.นฤมล มารับตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ทำให้ยังไม่ได้มีการพูดคุยและทำความเข้าใจในเรื่องการแต่งกายของคณะครูและนักเรียนที่มาร่วมกิจกรรมในวันหยุดราชการ ซึ่งส่วนใหญ่จะมาด้วยชุดสุภาพ เพราะเห็นว่ามีผู้บริหารระดับสูง ซึ่งเป็นผู้บังคับบัญชามาร่วมลงพื้นที่ด้วย ศ.ดร.นฤมล ได้กำชับมาว่าการลงพื้นที่ในช่วงวันหยุดเสาร์ – อาทิตย์ ถือว่าไม่ได้เป็นวันทำงานปกติ […]

สึกแล้ว! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์

20 ก.ค.- สึกกลางดึก! “พระธรรมวชิรธีรคุณ” อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้วที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง นายบุญเชิด กิตติธรางกูร รอง ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เผยได้รับรายงานจาก ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดนครสวรรค์ ว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ อดีตเจ้าอาวาสวัดนครสวรรค์และอดีตเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ลาสิกขาแล้ว ณ พระอุโบสถ วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง เวลา 23.49 น.” ขณะที่ก่อนหน้านี้ เลขานุการเจ้าคณะใหญ่หนเหนือ ได้แจ้งว่า “พระธรรมวชิรธีรคุณ” ขอลาออกจากตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดสวรรค์และเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ ตั้งแต่วันที่ 18 กรกฎาคม 2568 เป็นต้นไป เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพ -สำนักข่าวไทย

Astronomer CEO caught by kiss cam in Coldplay concert

CEO ลาออกหลังถูกแฉกลางคอนเสิร์ต Coldplay

ซินซินแนติ 20 ก.ค. – บริษัทเทคโนโลยีในสหรัฐแจ้งเรื่องซีอีโอลาออกแล้ว หลังจากช่วงเวลาขณะกอดกับผู้บริหารของบริษัทที่ไม่ใช่ภรรยาถูกจับภาพไปปรากฏบนจอภาพกลางคอนเสิร์ตวงโคลด์เพลย์ (Coldplay) และกลายเป็นคลิปไวรัลทั่วโลก แอสโตรโนเมอร์ (Astronomer) ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีผู้ให้บริการข้อมูลองค์กรเผยแพร่แถลงการณ์ผ่านเอ็กซ์ ( X) ว่า บริษัทยึดมั่นในคุณค่าและวัฒนธรรมที่นำทางองค์กรมาตั้งแต่ก่อตั้ง ผู้นำบริษัทถูกคาดหวังว่าจะต้องสร้างมาตรฐานด้านจริยธรรมและความรับผิดชอบ แต่เมื่อไม่นานมานี้กลับไม่เป็นเช่นนั้น นายแอนดี บายรอน ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารหรือซีอีโอของบริษัท และคณะกรรมการบริษัทได้อนุมัติให้ลาออกแล้ว แถลงการณ์ให้คำมั่นว่า บริษัทจะเดินหน้าทำในสิ่งที่ทำได้ดีที่สุด คือ การให้บริการแก้ปัญหาข้อมูลและเอไอ (AI) ให้แก่ลูกค้าต่อไป เรื่องราวอื้อฉาวนี้เกิดขึ้นในคอนเสิร์ตวง Coldplay ที่สนามยิลเลตต์สเตเดียม ในเมืองฟอกซ์โบโร รัฐแมสซาชูเสตต์เมื่อคืนวันที่ 16 กรกฎาคม เมื่อกล้องคิสแคม (kiss cam) ของคอนเสิร์ตจับภาพเจอชายหญิงคู่หนึ่งยืนกอดกันในโซนวีไอพี ซึ่งชายหญิงคู่นี้ไม่ใช่คู่รักธรรมดา แต่เป็นนายบายรอน ซีอีโอของแอสโตรโนเมอร์ และคริสติน คาบอต หัวหน้าฝ่ายพัฒนาทรัพยากรบุคคลหรือเอชอาร์ (HR) ของบริษัท เมื่อรู้ตัวว่าภาพถูกฉายขึ้นจอ ฝ่ายหญิงรีบเอามือปิดหน้าและหันหลังให้กล้อง ส่วนฝ่ายชายรีบนั่งลงให้พ้นจากมุมกล้อง ในจังหวะเดียวกันนั้น คริส มาร์ติน นักร้องนำของวง Coldplay ได้พูดแซวว่า […]

Hong Kong braves heavy rain and strong winds as typhoon Wipha approaches

ฮ่องกงเตือนภัย “ไต้ฝุ่นวิภา” ระดับสูงสุด

ฮ่องกง 20 ก.ค.- ฮ่องกงประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดในวันนี้ เนื่องจากไต้ฝุ่นวิภา (Wipha) ที่มีความเร็วลมมากกว่า 167 กิโลเมตรต่อชั่วโมงทำให้เกิดฝนตกหนักและลมกระโชกแรงทั่วฮ่องกง และทำให้ต้องยกเลิกเที่ยวบินมากกว่า 200 เที่ยว สถานีอุตนิยมวิทยาของฮ่องกงยกระดับเตือนภัยพายุ จากหมายเลข 9 ที่ประกาศเมื่อเวลา 07.20 น.วันนี้ตามเวลาท้องถิ่น เร็วกว่าไทย 1 ชั่วโมง เป็นหมายเลข 10 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเมื่อเวลา 09.20 น. และคาดว่าจะคงระดับเตือนภัยสูงสุดไปอีกระยะหนึ่ง สถานีอุตุนิยมวิทยาฮ่องกงพยากรณ์ว่า ไต้ฝุ่นซึ่งมีกำลังลมแรงเท่ากับเฮอริเคนจะเคลื่อนตัวเฉียดสถานีฯ โดยห่างลงไปทางใต้ราว 50 กิโลเมตร และส่งผลกระทบกับพื้นที่ทางใต้ของฮ่องกง สายการบินคาเธ่ย์แปซิฟิคของฮ่องกงได้ยกเลิกเที่ยวบินขาเข้าและขาออกทั้งหมดตั้งแต่เวลา 05.00-18.00 น.วันนี้ ขณะที่บริการขนส่งมวลชนส่วนใหญ่ในฮ่องกง รวมถึงบริการเรือโดยสารข้ามฟากถูกระงับเพื่อความปลอดภัย.-814.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษารอลงอาญา 2 ปี จำเลยคดี “น้องเมย”

22 ก.ค. – 8 ปีที่รอคอย “คดีน้องเมย” นักเรียนเตรียมทหารปี 1 เสียชีวิต ศาลทหารชั้นฎีกา พิพากษาจำคุก 4 เดือน 16 วัน รอลงอาญา 2 ปี จำเลยไม่เคยได้รับโทษ ลงโทษไปไม่เป็นประโยชน์ ให้ปรับปรุงตัวรับราชการรับใช้ชาติต่อไปจะเป็นประโยชน์มากกว่า คดี “น้องเมย” นักเรียนเตรียมทหาร เสียชีวิตปริศนาเมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2560 ขณะศึกษาอยู่ในโรงเรียนเตรียมทหาร ใบมรณบัตรระบุเพียงว่าเกิดจาก “ภาวะหัวใจล้มแล้วเฉียบพลัน” ขณะที่คนในครอบครัวตัญกาญจน์ ยืนยันว่าเป็นการเสียชีวิตที่ผิดปกติ จนนำมาสู่การส่งร่างผ่าพิสูจน์รอบ 2 ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หลังผลการผ่าพิสูจน์ในรอบแรกของสถาบันพยาธิวิทยา โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า สร้างความคลางแคลงใจให้เป็นอย่างมาก กระทั่งผลการผ่าพิสูจน์รอบ 2 พบว่าสมอง ปอด และอวัยวะสำคัญหลายส่วนหายไป นอกจากนี้ยังพบรอยช้ำตามร่างกายหลายแห่ง ซึ่งจนถึงวันนี้ยังไม่มีคำตอบที่ชัดเจน แต่ทางครอบครัวยังคงเดินหน้าฟ้องร้องผู้ที่เกี่ยวข้องในหลายคดี ด้วยหวังที่จะเรียกร้องความยุติธรรมให้กับน้องเมย ด้านการดำเนินคดีอาญานั้นแบ่งออกเป็น 3 ส่วนคือ การดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดในช่วงแรก คือวันที่ 23 […]

“แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วม เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ ปชช.-สถาบัน

พญาไท 22 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดเวทีดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ขอบคุณตลอด 1 ปี หนุนในฐานะนายกฯ มั่นใจเอกภาพรัฐบาลผ่านพ้นทุกอย่างไปได้ บอกแม้ไม่ได้อยู่ในฐานะนายกฯ แต่ไม่เคยวางภาระสักวัน ยืนยันเจตนาบริสุทธิ์ เชื่อมีโอกาสกลับมารับใช้ประชาชน – สถาบัน พรรคร่วมรัฐบาลนัดรับประทานอาหารค่ำร่วมกัน โดยมีพรรคเพื่อไทย เป็นเจ้าภาพจัดงานภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ซึ่งมีทั้งรัฐมนตรี แกนนำพรรค สส.และข้าราชการการเมืองพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง โดยมีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาบรรยายพิเศษด้วย สำหรับบรรยากาศภายในห้องจัดเลี้ยง ได้มีการจัดโต๊ะอาหาร โดยแบ่งเป็นโต๊ะยาว หรือ Long Tableขนาดใหญ่สำหรับรัฐมนตรี นั่งร่วมกับบรรดาหัวหน้าและแกนนำระดับสูงพรรคร่วมรัฐบาล จำนวน 2 โต๊ะ ส่วนที่เหลือเป็นโต๊ะกลมสำหรับ สส.พรรคร่วมรัฐบาล โดยนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นั่งร่วมโต๊ะกับ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรมว.วัฒนธรรม ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ,นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี […]

จ.น่าน เมืองหน้าด่าน พร้อมรับ “พายุวิภา”

น่าน 22 ก.ค. – พายุวิภาเริ่มอ่อนกำลังลง แต่เคลื่อนเข้าใกล้ไทยมากขึ้นเรื่อยๆ และเริ่มทำให้หลายพื้นที่ภาคเหนือมีฝนตกต่อเนื่อง โดยเฉพาะ จ.น่าน เป็นเหมือนด่านหน้ารับพายุวิภา ชาวบ้านเตรียมพร้อมรับมือ กลางเมืองน่าน ซึ่งฝนยังคงตกต่อเนื่องมาตั้งแต่ช่วงบ่ายจากฤทธิ์ของพายุวิภาที่เคลื่อนตัวมาใกล้เรื่อยๆ หลังขึ้นฝั่งเวียดนามและเคลื่อนตัวเข้าลาว ซึ่ง จ.น่าน อยู่ห่างจากเวียงจันทน์ ไม่ถึง 400 กิโลเมตร และรัศมีของพายุจะทำให้ฝนตกต่อเนื่องไปอีก 1-2 วัน ทำให้ชาวน่านต้องเตรียมพร้อมรับสถานการณ์ขั้นสูงสุด ตอนนี้ตามบ้านเรือน อาคารร้านค้าในตัวเมืองน่าน เต็มไปด้วยแนวกระสอบทรายถูกวางไว้เพื่อกันน้ำท่วม ซึ่งหลายคนกังวลว่าจะเกิดน้ำท่วมใหญ่จากฝนที่ตกต่อเนื่อง ขณะที่ระดับน้ำน่านที่ไหลผ่านตัวเมืองน่าน ตอนนี้อยู่ที่ประมาณ 4 เมตรกว่า ห่างจากจุดวิกฤติที่ 7 เมตร แต่ถ้ารวมพนังกั้นน้ำจะกันน้ำได้สูงสุด 8 เมตร 50 เซนติเมตร นายชัยนรงค์ วงศ์ใหญ่ ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ลงพื้นที่ตรวจจุดเสี่ยงที่น้ำจะทะลักเข้ามา พร้อมบอกว่าตอนนี้ต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ เนื่องจากพายุวิภาทำให้ฝนตกครอบคลุมทั้ง 15 อำเภอ โดยเฉพาะ อ.ท่าวังผา ที่คาดว่าจะเป็นศูนย์กลาง คาดว่าฝนจะตกต่อเนื่อง โดยจุดพีคน่าจะอยู่ช่วงคืนวันที่ 23 กรกฎาคมนี้ […]

ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาลเริ่มแล้ว “ทักษิณ” จ่อบรรยายพิเศษ

พญาไท 22 ก.ค.- เริ่มแล้ว ดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล “ทักษิณ” ร่วมวง เตรียมบรรยายพิเศษ เผยมาคุยเรื่องการเมือง ขณะแกนนำพรรคร่วมมางานพร้อมเพรียง พรรคร่วมรัฐบาลจัดงานเลี้ยงรับประทานอาหารค่ำ ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เพื่อกระชับความสัมพันธ์ หลังปรับคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ภายหลังพรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล และเปิดสมัยประชุมสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งพบปัญหาเรื่ององค์ประชุม โดยถือว่าเป็นครั้งเเรกที่ได้เชิญสส.ของแต่ละพรรคร่วมฯ เข้าร่วมงานเลี้ยงด้วยในรัฐบาลของ นางสาวเเพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ซึ่งก่อนหน้านี้จัดไปแล้วหนึ่งครั้ง ในสมัยของ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี โดยงานเลี้ยงพรรคร่วมรัฐบาลในครั้งนี้ พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพจัดงาน ภายใต้ชื่อ “สามัคคีประเทศไทย ปกป้องอธิปไตย แก้ปัญหาเพื่อประชาชน” ได้เชิญ บรรดารัฐมนตรี หัวหน้าพรรค แกนนำ และสส. ของพรรคร่วมรัฐบาล เข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง ขณะที่ไฮไลท์วันนี้ มีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มาร่วมบรรยายพิเศษ ด้วย ขณะที่ในเวลาประมาณ 17.00 น. บรรดาแกนนำเพื่อไทย และสส.เดินทางเข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง […]